มติ ครม.๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ครม.อนุมัติครู ศรช.เป็นพนักงานราชการ


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๒๘๒/๒๕๕๓ มติ ครม.๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓
ครม.อนุมัติครู ศรช.เป็นพนักงานราชการ

ศึกษาธิการ - นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติ ครม.เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๓ เรื่อง คือ ๑) อนุมัติปรับสถานภาพครู ศรช.เป็นพนักงานราชการ ๒) อนุมัติกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งฯ ของบุคลากรทางการศึกษาอื่น ๓) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา

- อนุมัติปรับสถานภาพครู ศรช. เป็นพนักงานราชการ ๘,๖๗๒ คน

รมว.ศธ.เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการปรับสถานภาพครูศูนย์การเรียนชุมชน (ครู ศรช.) เป็นพนักงานราชการ จำนวน ๘,๖๗๒ คน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ให้กำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างเป็นเวลา ๒ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลา ตามกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการของส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๒๒๕๕๕ ที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว

ในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับสถานภาพครูดังกล่าวข้างต้น ให้ ศธ.ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๓ ด้านบุคลากร เท่าที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว ส่วนงบประมาณที่ต้องใช้เพิ่มขึ้น ให้ ศธ.พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายการอื่นที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วตามความเหมาะสม โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป

อนุมัติกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น

ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.ค.ศ.ที่เกี่ยวข้องรวม ๓ ฉบับ ตามที่ ศธ.เสนอ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

·         ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. .... ได้กำหนดให้ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นฯ มี ๒ ประเภท โดยกำหนดนิยามของตำแหน่งประเภทวิชาการและกำหนดระดับตำแหน่งประเภทวิชาการ  มีการกำหนดนิยามของตำแหน่งประเภททั่วไป และกำหนดระดับตำแหน่งประเภททั่วไป  นอกจากนี้ได้กำหนดให้ ก.ค.ศ.มีอำนาจกำหนดตำแหน่งอื่นนอกจากที่กำหนดไว้แล้วในกฎ ก.ค.ศ.นี้ ตลอดจนกำหนดให้การวางแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.ค.ศ. กำหนด

·         ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ได้รับเงินเดือน พ.ศ. ....  ได้กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นฯ รับเงินเดือนในขั้นต่ำขั้นสูงของระดับเงินเดือนตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ ท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑ และกำหนดข้อยกเว้น รวมทั้งกำหนดระดับเงินเดือนของผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการและระดับตำแหน่งประเภทสายงานและระดับอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนด  นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๕๗, ๕๘, ๕๙, ๖๑ หรือ ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๑ ให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่ ก.ค.ศ.กำหนด ส่วนผู้ที่มีลักษณะหน้าที่เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ หากระดับตำแหน่งและการให้ได้รับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญเปลี่ยนแปลงไปก็ให้ได้รับเงินเดือนเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ

·         ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. .... ได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นฯ  รวมทั้งกำหนดอัตราเงินประจำตำแหน่งในตำแหน่งประเภทวิชาการด้วย

 

- เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. ....

ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... ตามที่ ศธ.เสนอ โดยสาระสำคัญมีดังนี้

·         กำหนดให้จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเป็นหน่วยงานกลาง ตามมาตรา ๖๙ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ โดยมีวัตถุประสงค์ตามที่กำหนด และให้สถาบันมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น และให้สถาบันมีอำนาจกระทำกิจการภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์

·         กำหนดให้ทุนและทรัพย์สินของสถาบัน ประกอบด้วยเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา ๔๒ เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม และเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เป็นต้น และให้รายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้นำต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

·         กำหนดให้มีคณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ประกอบด้วยประธานกรรมการซึ่ง ครม.แต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนด กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน ๖ คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๘ คน โดยมีผู้อำนวยการสถาบันฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ กำหนดคุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ

·         กำหนดให้มีผู้อำนวยการสถาบันฯ  ซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการสถาบันฯ

·         กำหนดให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา  โดยมีวัตถุประสงค์ตามที่กำหนด และให้กองทุนประกอบด้วยเงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิมเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เงินที่ได้รับจัดสรรตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม และเงินค่าสัมปทานและผลกำไรที่ได้จากการดำเนินการด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมตามที่ได้รับจัดสรรตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น โดยให้เงินและทรัพย์สินของกองทุนไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

·         กำหนดให้การจัดสรรเพื่อการผลิต การวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของกองทุน  เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๖๘ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฯ

·         กำหนดให้มีคณะกรรมการกองทุน  ประกอบด้วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ผู้แทนส่วนราชการเป็นกรรมการ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ

·         กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ วาระเริ่มแรกของคณะกรรมการฯ ผู้อำนวยการสถาบันฯ และการโอนข้าราชการและลูกจ้างไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสถาบันฯ

ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

อ้างอิงจาก http://www.moe.go.th/websm/2010/aug/282.html

คำสำคัญ (Tags): #มติ ครม.
หมายเลขบันทึก: 389739เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2010 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท