ได้ฟังท่านอ.นพ.โกมาตร บรรยายในหลักสูตรการพัฒนาคุณภาพสำหรับผู้บริหารโรงพยาบาล ในเรื่องของบทบาทที่สำคัญ สิ่งหนึ่งของผ้บริหารรพ. ที่จะมีหน้าที่
บริหารจัดการณ์ประสบการณ์ของผู้รับบริการและญาติให้เกิดความประทับใจ
สามารถแบ่งเบาความทุกข์และนำประสบการณ์ที่แสนสุดประทับใจ ไปเล่าขานกันต่อไป... ซึ่งเป็นภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ของผู้นำองค์กรเลยทีเดียวค่ะ เพราะประสบการณ์ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการอยู่ที่ฝีมือการบริหารจัดการของท่านนั่นเอง
ท่าน นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผอ.รพร.ด่านซ้าย จ.เลย ท่านได้พูดถึงความแตกต่างระหว่างผู้บริหารกับผู้นำไว้อย่างชัดเจน ทำให้พอลล่าได้เรียนรู้กับคำว่าผู้นำ และผู้บริหารที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ จริงๆแล้วสองคำนี้แยกกันออกไม่ง่ายเลย และอาจจะไม่จำเป็นต้องแยก แต่การสรุปให้เห็นความแตกต่าง จะเห็นคุณค่าและความหมายของผู้นำได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ผู้นำคือผู้ที่มีหน้าที่
1 มองเห็นศักยภาพที่จะเติบโตทางจิตวิญญาณของผู้คน
2 เตรียมพื้นที่เพื่อให้เกิดแห่งการเรียนรู้
3 สร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กร
ไม่ใช่ทำแบบผู้บริหาร ที่ทำงานรับใช้ตัวชี้วัด...
การพัฒนาของบุคลากร ความสุขของบุคลากร คือผลงานชิ้นสำคัญของผู้นำเลยค่ะ เรื่องเล่าความหมายของคนในด่านซ้ายมีมากมายทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่คนงานซักฟอก จนถึงหัวหน้าพยาบาล สะท้อนการนำองค์กรที่ทะลุการประเมินด้วยมาตรฐานใดๆ อิอิ
รู้สึกโดนใจ จังเลยค่ะ อิอิ ...
การบริหารองค์กรเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เพราะคนในองค์กร ล้วนต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างวิธีคิด ทำอย่างไรถึงจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นั้น ยิ่งยากกกกกกกกกกก หลายร้อยเท่า ...แต่คิดว่าทำได้ ก็จะทำได้ จริงไหมคะ ท่านอ.นพ.ชาตรี ดวงเนตร กล่าวว่า” การบริหารองค์กรของผู้บริหารเหมือนกฏแห่งกรรม ทำอะไรกับเขาไว้แบบไหน จะได้แบบนั้น อยากให้เขาทำอะไรแบบไหนกับเรา เราต้องทำให้เขาก่อน..” จริงไหมคะ ผู้บริหารอาจจะเผชิญกับประสบการณ์แบบเดิมๆ ที่สั่งสมกันมานานจนทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่มีเหตุผลของการกระทำ ทำเพราะพี่ทำ ทำเพราะทำตามๆกันมา
ท่านอ.โกมาตร มีเรื่องเล่า The monkey's Experience มาฝากค่ะ
บริษัทแห่งหนึ่งทำวิจัย ชิ้นหนึ่งชื่อ the monkey experiment สร้างกรงเหล็กมาขังลิงเอาไว้ 5 ตัว เอากล้วยมาแขวนไว้ บนเพดานหนึ่งหวี เอาบันไดมาตั้งไว้ 1 อัน ให้ลิงปีนหยิบกล้วยได้เลย เมื่อจับลิงมาใส่ถุงผ้าไว้ พอเปิดลังให้ลิงเข้ามาในกรง ลิงตกใจ วิ่งพล่าน พอเริ่มคุ้นชินกับสถานที่ก็หยุด มองไปรอบๆกรง เห็นกล้วยแขวนอยู่ สัญชาตญาณลิงตัวหนึ่งจึงปีนบันไดเพื่อไปหยิบกล้วย พอปีนปั๊บ นักวิจัยก็เอาน้ำเย็นฉีดทันที เขาฉีดใส่ทุกตัวพร้อมกันที่ปีน ลิงวิ่งหนีน้ำ สักพักเมื่อลิงลงจากบันไดแล้วจึงหยุดฉีด ต่อมาตัวอื่นปีนขึ้นอีก ก็จะฉีดน้ำใส่อีก ต่อมาลิงไม่กล้าปีนจึงได้แต่นั่งมองกล้วย ต่อมาเอาลิงตัวใหม่เข้ามาตัวนึงลิงตัวใหม่ เมื่อเห็นกล้วย ก็สงสัยว่าทำไมไม่มีใครหยิบ จึงจะปีนไปเอาบันได พอจะขึ้นบันได ลิงทุกตัวมารุมตีลิงตัวใหม่นั้น ลิงตัวใหม่จึงเปลี่ยนมานั่งดูกล้วย พอเปลี่ยนลิงใหม่เข้ามาอีก เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตัวใหม่เข้ามาจะถูกลิงตัวเก่ารุมตี ลิงตัวใหม่ ก็ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าทำไมตัวเองถึงโดนตี และตัวเองก็ไม่เคยถูกน้ำฉีดด้วย แต่เมื่อรุ่นพี่รุมตีตัวใหม่ ตัวเองก็รึมตีด้วยเช่นกัน...เป็นประสบการณ์ที่เรียกว่า Functional Blindness เมื่อคนใหม่เข้ามาทำงานอาจมีไฟอยากทำอะไรใหม่ เราอาจจะไม่เหมือนเขา แต่อำนาจของลิงตัวเก่ามีมากกว่าลิงตัวใหม่ ค่อยๆหล่อหลอม ดังนั้นผู้บริหารควรจัดการ คือความเคยชินของระบบ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประการที่ผู้บริหารควรทราบและจัดการ ซึ่งพอลล่าคิดว่า ทุกท่านน่าจะทราบกันแล้ว แต่อาจจะไม่สามารถทำได้ครบถ้วน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน วิสัยทัศน์ ประสบการณ์และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายให้ผู้บริหารได้เรียนรู้ค่ะ
สบายดีนะลูกพอลล่า ไม่ได้มานานบ้านนี้สวยงามมาก
น้องพอลล่ามาดูลิง เอ้ยมาอ่านเรื่องลิง น่าสใจมาก พรุ่งนี้ไปสมุทรสาคร ไปด้วยกันไหมเย้ๆๆ
สวัสดีค่ะ
เห็นด้วยค่ะ ความงามมีสรรพคุณเยียวยาความทุกข์ได้....
โดยเฉพาะ "ความงามภายในจิตใจ" ของบุคลากรผู้มีหน้าที่บริหารคนไข้...
คิดถึงเช่นกันค่ะ
(^___^)
สวัสดีครับ
ได้อ่านประสบการณ์ดีๆอย่างนี้ทำให้เกิดมุมที่ดีขึ้นมากเลยครับ
ผู้นำเป็นคนสำคัญมากจริงๆในการสนับสนุนองค์กร ขออนุญาต
นำไปเล่าต่อให้คนในหน่วยงานฟังครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์พอลล่า วันนี้ได้เวลาแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนค่ะ อ่านไปหลายเรื่องเลยค่ะ ว้วนแต่ประทับใจทั้งนั้ยเลยค่ะ วันนี้ที่ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ก็มีการจัดกิจกรรม หุ่นละครโจหลุยให้กับเด็กๆ เนื่องในโอกาศวันเด็กค่ะ พวกเราอยากให้เด็กใต้ได้มีโอกาศได้รู้รักวัฒนธรรมที่ดีดีค่ะ และ จะเอาภาพมาฝากในบล็อกน้องอุ๊วันหลังนะคะ