vanillawara
นางสาว วราภรณ์ (บุ๋ม) ด่านศิริ

คุณมองโลกใบนี้ในมุมใด ?


OPTIMISM vs PESSIMISM

คุณเป็นคนมองโลกในแง่ใด ?

 

            มุมมองในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา มีอิทธิพลต่อ “ความเป็นสุข” ในการใช้ชีวิต ในองค์กรต่างๆก็เช่นเดียวกัน มุมมองของพนักงาน ส่งผลโดยตรงกับ “ความเป็นสุขในการทำงาน” ของพนักงาน

 

            ดังนั้น ขั้นตอนแรกในการโค้ชพนักงานในองค์กร โดยใช้แนวความคิดจิตวิทยาทางบวก คือ การที่โค้ช (ผู้ฝึก) จำเป็นต้องระบุให้ได้ว่า มุมมองของพนักงานแต่ละคน เป็นไปในทิศทางใด ระหว่าง กลุ่มคนมองโลกในแง่ดี (Optimistic) และ กลุ่มคนมองโลกในแง่ร้าย (Pessimistic) โดยการแยกแยะกลุ่มคนทั้งสองประเภทนี้จะตัดสินจากมุมมองความคิด ความรู้สึก ที่บุคคลนั้นๆมีต่อประสบการณ์ที่เคยผ่านมา และตัดสินจากพฤติกรรมที่บุคคลตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งลักษณะของผู้ที่มองโลกในแง่ดี และ มองโลกในแง่ร้าย มี 3 ลักษณะใหญ่ที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ดังต่อไปนี้

 

1. ด้านนิสัยส่วนตัว (Personal)

คนที่มองโลกในแง่ร้าย : จะโทษว่าเรื่องโชคร้ายต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความผิดของเขาเอง แต่เมื่อเกิดสิ่งที่ดีขึ้นมา กลับมองตรงข้าม ว่าเป็นเพราะโชคชะตากำหนดไว้

คนที่มองโลกในแง่ดี : เมื่อเกิดสถานการณ์แย่ๆขึ้นมา จะไม่โทษตนเอง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ดีขึ้นมา คนที่มองโลกในแง่ดีจะภาคภูมิใจว่าตนเองมีส่วนทำให้เรื่องดีๆเกิดขึ้นมา

2. ด้านการมองโลก (Temporal)

คนที่มองโลกในแง่ร้าย : จะคิดว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายจะเกิดขึ้นและคงอยู่เสมอ แต่เมื่อเกิดเรื่องดีๆขึ้นมา คนมองโลกในแง่ร้ายจะไม่คิดว่าสิ่งดีๆจะคงอยู่ตลอดไป

คนที่มองโลกในแง่ดี : จะเชื่อว่าสถานการณ์ที่ดีจะเกิดขึ้นบ่อยๆและคงอยู่เสมอไป แต่เหตุการณ์ร้ายๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่คงอยู่เสมอไป

3. ด้านความมีอิทธิพล (Pervasive)

คนที่มองโลกในแง่ร้าย : จะเชื่อว่าเมื่อเกิดสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมาแล้ว สิ่งร้ายๆจะส่งผลต่อสิ่งอื่นที่เหลือทั้งหมดในชีวิต

คนที่มองโลกในแง่ดี : มีความเชื่อว่า เมื่อเหตุการณ์ที่ดีเกิดขึ้นมา จะส่งผลต่อสิงอื่นที่เหลือทั้งหมดในชีวิต ในขณะที่ประสบการณ์ที่เลวร้ายจะไม่ส่งผลต่อชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา

 

          มีคนจำนวนมากเชื่อว่า การมองโลกในแง่ร้าย คือ การอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง (Realistic) มากกว่าผู้ที่มองโลกในแง่บวก ที่ดูจะค่อนข้างเพ้อฝันมากกว่า

 

          พวกเขาคิดว่า “การคาดหวังสิ่งที่ย่ำแย่ที่สุด จะไม่ทำให้คุณเกิดการผิดหวัง” แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาคิดผิด ความคิดเหล่านี้เป็นเพียงความคิดที่ปลอบใจ และปิดซ่อนความกลัวในใจคนเรามากกว่า คนที่มองโลกในแง่ดี จึงเป็นผู้ที่กล้ามากกว่า

          หากเรามีความเชื่อเช่นนั้น จะทำให้ระหว่างทางที่เราจะทำอะไรสักอย่าง เป็นไปด้วยความรู้สึกขาดกำลังใจ ขาดความหวัง เกิดความรู้สึกต้องต่อสู้โดยไม่มีความสุขใจ ซึ่งแม้ปลายทางแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่ความรู้สึกเป็นสุขที่ได้รับ ก็จะไม่มากเท่าผู้ที่มองโลกในแง่บวก ที่เป็นสุขตั้งแต่เริ่มต้น ระหว่างทาง และปลายทาง

 

ยกตัวอย่างสถานการณ์

การทำงาน ที่มีความตั้งใจว่าอยากจะเลื่อนตำแหน่ง

ผู้ที่มองโลกในแง่ดี : จะมีความเชื่อว่า เขาต้องได้เลื่อนตำแหน่งแน่นอน และเป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินความสามารถของเขา ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ดีระหว่างการทำงาน เขาก็จะนำมาเป็นกำลังใจ และภาคภูมิใจว่า เขามีความสามารถ และเกิดความหวังว่า อีกไม่นานเขาต้องสามารถเลื่อนตำแหน่งได้แน่นอน เมื่อเกิดเหตุการณ์แย่ๆขึ้นมา เขาจะไม่โทษตัวเองว่า ตัวเขาไม่มีความสามารถพอ แต่จะคิดว่า เป็นเพียงโชคร้ายที่นานๆจะเกิดขึ้นซักครั้งเท่านั้น และต่อไปเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และระหว่างการทำงานเพื่อเลื่อนขั้น เขาจะมีความหวังและความสบายใจในการทำงานและชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

ผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย : จะมีความลังเลว่า เขาอาจจะได้หรือไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง และมีแนวโน้มเชื่อว่า มันยากมากที่จะทำได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ดีขึ้นมา เขาจะคิดว่าโชคดี หรือโชคช่วย และเชื่อว่าเหตุการณ์ดีๆเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นบ่อยๆแน่นอน แต่เมื่อเหตุการณ์ที่แย่ๆเกิดขึ้นมา เขาจะคิดโทษตัวเองว่า เป็นเพราะเขามีความสามารถไม่เพียงพอ เพราะเขายังไม่ดีพอ และมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆว่าจะได้เลื่อนขั้นง่ายๆ เมื่อเกิดเรื่องร้ายขึ้นมา สิ่งอื่นๆรอบตัวเขาก็จะแย่ไปหมด ทำงานก็ไม่มีความสุข ใช้ชีวิตประจำวันก็ไม่มีความสุข

 

แน่นอนว่า เงื่อนไขของการมองโลกในแง่ดี ก็มีสิ่งที่ผู้คนอาจสับสนได้เช่นกัน ดังนี้

-        การหลงตัวเอง กับ การมั่นใจในตัวเอง ผู้ที่มองโลกในแง่ดี จะมีความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง แต่ไม่ใช่ผู้ที่หลงตัวเอง ที่คิดว่าตนเองดีที่สุด ถูกที่สุด ดีกว่าคนอื่น

-        จิตใจที่ดีงาม หากผู้ที่มองโลกในแง่ดีไม่ได้มีจิตใจที่ดีงาม เป้าหมายที่เขาต้องการประสบความสำเร็จส่งผลร้ายต่อผู้อื่น มุมมองการมองโลกในแง่ดีนั้น ก็จะกลับส่งผลร้ายต่อสังคมและโลก

 

          ส่วนใหญ่แล้ว คนเราจะอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสองฟาก คนที่สุดขั้วทั้งไปทั้งสองฝั่งนั้นค่อนข้างหายาก ดังนั้น เราจำเป็นต้องระบุให้ได้ว่าคนที่เราต้องการไปโค้ช มีมุมมองโน้มเอียงไปในแนวทางใด ซึ่งการโค้ชโดยใช้จิตวิทยาทางบวก เราจะหาวิธีทางให้ผู้ถูกโค้ชมีมุมมองโน้มเอียงไปในทาง Optimistic ให้มากที่สุด

 

          สิ่งที่จะได้ควบคู่มากับการมองโลกแง่ดี นั่นคือ ความหวัง (Hope) เนื่องจากการที่ผู้ที่มองโลกในแง่ดีจะเชื่อว่า เหตุการณ์ที่ดีจะคงอยู่เสมอไป ในขณะที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงจะสามารถฟื้นฟูจิตใจจากสถานการณ์แย่ๆได้อย่างรวดเร็ว และจะมีความสุขกับเหตุการณ์ที่ดีได้อย่างยืนยาว คนกลุ่มนี้จะเชื่อว่าชัยชนะภายในตัวเขาสามารถเอาชนะสถานการณ์เลวร้ายไปได้ ในขณะที่ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นพวกเขาจะทิ้งไว้ในส่วนลึก และเชื่อว่าสิ่งแย่ๆไม่สามารถส่งผลต่อการดำรงชีวิตของเขาได้

          ความหวัง ที่เกิดขึ้นในใจของบุคคล มีการวิจัยมามากมายแล้วว่า ความหวังจะช่วยจะคนเรามีความต้านทานต่ออุปสรรคต่างๆได้อย่างมาก ช่วยป้องกันภาวะเครียด และความหวังจะช่วยให้ศักยภาพในการทำงานของคนเราเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะเมื่อเจอกับงานที่ท้าทาย และความหวัง ยังช่วยให้คนเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวด้วย

          ความหวัง และ การมองโลกในแง่ดี สามารถสร้างขึ้นมาได้จากการโค้ชโดยอาศัยแนวคิดจิตวิทยาทางบวก

 

          กระบวนการโค้ชที่ทำให้เกิดทั้งสองสิ่งนี้ จะนำมาเสมอในคราวหน้านะคะ อย่าลืมติดตามเด็ดขาดเลยค่ะ

แล้วคุณล่ะ มีมุมมองอย่างไรคะ ?

คำสำคัญ (Tags): #optimistic positive psychology coaching
หมายเลขบันทึก: 399832เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2010 13:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขออนุญาตยืมไปใช้ในการพัฒนาคุณครูครับ  สำหรับ

   ความหวัง และ การมองโลกในแง่ดี สามารถสร้างขึ้นมาได้จากการโค้ชโดยอาศัยแนวคิดจิตวิทยาทางบวก

          ขอบคุณบันทึกดีๆที่นำมาฝากครับ

ขอบคุณที่ร่วมติดตามค่ะ อาจารย์ Small man

แล้วจะนำร่วมราวที่น่าสนใจมาแลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้ร่วมกันเรื่อยๆค่ะ ^^

ผมชอบมากๆเลยครับ รู้สึกเป็นประโยชน์อย่างมากเลย

ขออนุญาต เอาไปใช้นะครับ

^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท