สวัสดีค่ะ ^^
วันนี้ได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งของ Napoleon Hill ชื่อเรื่อง Success through a Positive Mental Attitude เลยอยากจะนำเรื่องราวที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับทุกท่านค่ะ
คำที่กล่าวถึงบ่อยครั้งในหนังสือเล่มนี้ คือ “PMA” ซึ่งมาจาก คำว่า “คิดด้วยทัศนคติในทางสร้างสรรค์” หรือคำในภาษาอังกฤษที่ว่า Positive Mental Attitude
โดย PMA ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยในการโค้ชบุคคลโดยใช้จิตวิทยาทางบวก (Positive Psychology Coaching) ค่ะ เรามาทำความรู้จัก PMA โดยคร่าวๆกันเลยค่ะ
จากบทกวีของนักประพันธ์ชื่อ เฮนเล่ย์ ที่ว่า “ฉันเป็นนายแห่งโชคชะตาของฉัน ฉันเป็นกัปตันแห่งดวงวิญญาณของฉัน” ตีความชัดเจนไว้ว่า เราเป็นนายแห่งโชคชะตาของตัวเราเอง และก่อนสิ่งอื่นใดทั้งหมด ก็คือ เราเป็นนายแห่ง ทัศนคติ ของเรานั่นเอง ทัศนคติของเราสามารถกำหนดอนาคตของเรา นี่คือกฎของจักรวาล กวีบอกเราด้วยการเน้นอย่างหนักแน่นว่า “เราสามารถเปลี่ยนความคิด และทัศนคติที่ครอบงำจิตใจของเราให้กลายเป็นรูปธรรมได้เสมอไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม” เราสามารถเปลี่ยนความคิดถึงความยากจนให้กลายเป็นจริงได้รวดเร็วเท่าๆกับความคิดถึงความร่ำรวย ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต คือ การดำเนินชีวิตโดยปรับ ทัศนคติให้เป็นทัศนคติในทางสร้างสรรค์
ในหนังสือได้นำเสนอ หลัก 17 ประการ ที่น่าสนใจ โดยหลักทั้งหมดนี้ไม่ใช่การประดิษฐ์ขึ้นของผู้เขียน แต่เป็นสิ่งที่กลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์ชีวิตของคนหลายร้อยคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยเราสามารถสร้างและรักษาทัศนคติในทางสร้างสรรค์เอาไว้ได้อย่างถาวรด้วยการรับผิดชอบฝึกฝนและใช้หลักการทั้ง 17 ประการในชีวิตประจำวันอยู่อย่างสม่ำเสมอ
(หลักการแห่งความสำเร็จทั้ง 17 ประการ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ)
หลักการทั้ง 17 ประการนี้ เราสามารถนำมาปรับใช้ในการโค้ชโดยใช้จิตวิทยาทางบวก ได้ดังนี้
ในการโค้ชแต่ละครั้ง เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายที่แน่นอน เพราะเป้าหมายที่แน่นอนผสมผสานกับทัศนคติในทางสร้างสรรค์ คือ จุดเริ่มต้นของความสำเร็จอันทรงคุณค่าทุกอย่าง เมื่อเรากำหนดเป้าหมายในการโค้ชแต่ละครั้งเรียบร้อยแล้ว จะมีแนวโน้มตามธรรมชาติอยู่ 7 ประการ ซึ่งเป็น 7 ประการ ที่รวมอยู่ในหลักการแห่งความสำเร็จ 17 ประการดังกล่าว ซึ่งหลักดังกล่าวนี้ ถือเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราทำการตั้งเป้าหมายที่แน่วแน่ โดยแนวโน้มเหล่านี้ เป็นสิ่งที่จะช่วยการโค้ชโดยใช้จิตวิทยาทางบวก ให้เกิดพลังมากขึ้น หลักดังกล่าวประกอบด้วย
1. ความคิดริเริ่ม
2. ความมีระเบียบวินัยต่อตนเอง
3. ภาพฝันสร้างสรรค์
4. ความคิดที่เป็นระบบ
5. การควบคุมความสนใจ หรือการจดจ่อความพยายาม
6. การจัดทำงบประมาณเวลาและเงิน
7. ความกระตือรือร้น
ในการโค้ชแต่ละครั้ง นอกจากที่เราจะตั้งเป้าหมายของเราเองในฐานะผู้โค้ชแล้ว เราควรจะกระตุ้นให้บุคคลที่เราไปโค้ช ตั้งเป้าหมายที่แน่วแน่ ที่ต้องการไปถึง ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง และลงมือทำให้บรรลุตามเป้าหมายโดยใช้หลักความโน้มเอียงตามธรรมชาติทั้ง 7 ประการนี้
ในครั้งหน้าจะนำเสนอ ตัวอย่าง Case ของโรเบิร์ต บ๊อบ คริสโตเฟอร์ ที่มีเป้าหมายที่แน่นอนที่จะ เดินทางรอบโลกใน 80 วัน ด้วยเงินในกระเป๋าเพียง 80 เหรียญ และเขาลงมือทำโดยใช้หลักความโน้มเอียงตามธรรมชาติทั้ง 7 ประการ ดังกล่าว
แล้วคุณล่ะคะมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง ?
ขอบคุณที่ร่วมติดตามค่ะ แนะนำให้ท่านลองนำหลักทั้ง 7 ประการนี้ไปใช้ แล้วมาแลกเปลี่ยนปราบการณ์ร่วมกันนะคะ สวัสดีค่ะ ^^
ตั้งเป้าหมายที่แน่วแน่ ที่ต้องการไปถึง ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง และลงมือทำให้บรรลุตามเป้าหมายโดยใช้หลักความโน้มเอียงตามธรรมชาติทั้ง 7 ประการ
ครับ ตอนนี้ ผมเองก็กำลังที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ครับ โดยเริ่มที่ "การตั้งเป้าหมายที่แน่นอน" ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ในใจแล้วครับ
ที่เหลือ คงจะต้องเจริญรอยตามหลัก 7 ประการ หลัก 17 ประการ
จะพยายามครับ
ขอบคุณครับที่นำสาระดีๆเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
ข้างบน ลืมใส่ชื่อ พอดีไม่ได้เข้าระบบ จาก Small man ครับ
ขอบคุณที่ร่วมแลกเปลี่ยนค่ะอาจารย์ Small Man :D
ตัวหนูเองก็กำลังดำเนินตามขั้นตอนเหล่านี้อยู่ค่ะ แล้วจะมาแลกเปลี่ยนร่วมกันค่ะ
ปุ้ยสนใจ หลักการแห่งความสำเร็จ 17 ข้อ
โดยเฉพาะในข้อที่ 2 ค่ะ คือ
mastermind group ..
สนใจอยากทำทีม MASTERMIND มากๆๆๆๆ..
ใครก็ได้ช่วยที...5555+
ผมก็ชอบข้อ 2 มากๆเลยครับ
ความมีระเบียบวินัยต่อตัวเอง น่าสนใจมากๆเลยครับ คุณบุ๋ม
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ ^^