หลวงพ่อทองคำกับเยาวราช ในปัจจุบัน


แหล่งท่องเที่ยวศึกษาดูงานสำหรับเยาวชนไทยและชาวต่างชาติ

พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 

พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์ เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาธาตุ สุโขทัย ดังที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกว่า "วัดมหาธาตุ กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม" ซึ่งพิจารณาทั้งตามหลักฐานอื่นและเหตุผลประกอบแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็น พระพุทธรูปทอง องค์ดังกล่าว เพราะปริมาณทองคำแท้นี้ รวมถึงขนาดพระพุทธรูปนี้ ย่อมเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปพึงสร้างเป็นสมบัติส่วนตัว แต่อย่างไรก็ดี ต่อมาพระพุทธรูปองค์นี้ได้ถูกพอกปูนลงรักปิดทองทั่วทั้งองค์ เพื่อเป็นการอารักขาภัย แต่ไม่ทราบว่าตกไปอยู่ในสถานที่ใดบ้าง ทราบแต่เพียงว่าล่าสุด ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระยาไกร (วัดโชตนาราม) แต่ต่อมา วัดพระยาไกร กลายเป็นวัดร้าง ไม่มีผู้ดูแล ประกอบกับ บริษัท อีสต์เอเชียติก จำกัด ประสงค์ขอเช่าพื้นที่ของวัดเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท ที่ประชุมคณะสงฆ์จึงให้วัดไตรมิตรวิทยาราม และวัดไผ่เงินโชตนาราม ไปอัญเชิญพระพุทธรูปสององค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวัดพระยาไกรนั้น ไปประดิษฐานไว้ตามสมควร ทางคณะของวัดไผ่เงินฯได้เดินทางไปถึงก่อน จึงเลือกอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดไป เหลือพระพุทธรูปปูนปั้นไว้ให้วัดไตรมิตร

ในขั้นแรกเมื่อถึงวัดไตรมิตร ก็ได้แต่เพียงปลูกเพิงสังกะสีธรรมดา เพื่อบังแดดบังฝน ไว้ริมถนนด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ เป็นเวลาถึง 20 ปี ด้วยยังหาที่จะประดิษฐานอันเหมาะสมมิได้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 จึงทำการสร้างวิหารใหม่ ด้วยตั้งใจจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้โดยเฉพาะ เพื่อจะได้ทำการประดิษฐานพระพุทธรูป ให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี (คือวิหารองค์ปัจจุบัน) แต่ในขณะเคลื่อนย้ายพระพุทธรูป เนื่องจากพระพุทธรูปมีน้ำหนักมาก สายเครื่องกว้านจึงขาดลง ทำให้พระพุทธรูปตกกระแทกพื้น ส่งผลให้ปูนที่หุ้มบริเวณพระอุระกระเทาะออก เผยให้เห็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ท่านเจ้าอาวาสจึงให้ลอกปูนออกทั้งองค์ แล้วนำขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิหารนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

  • เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2551 เวลา 09.09 น. ณ พระวิหารหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ คณะกรรมการโครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้จัดพิธีเคลื่อนย้ายองค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร จากพระวิหารหลังเดิมสู่พระมหามณฑป ที่ประดิษฐานแห่งใหม่ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กรุงเทพฯ เป็นประธานในพิธี และนายชลาลักษณ์ บุนนาค รักษาการประธานฝ่ายก่อสร้าง เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในการบวงสรวงการเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.2551 ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธานในพิธีถอดพระเกตุมาลาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ซึ่งถือเป็นมหามงคลอุดมปฐมฤกษ์แห่งการเคลื่อนย้ายองค์พระจากพระวิหารหลัง เดิม สู่พระมหามณฑป ที่ประดิษฐานแห่งใหม่ พระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ กล่าวว่า ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำนั้น ใช้ระบบไฮดรอลิก และรางเหล็กเคลื่อนย้าย ส่วนองค์พระจะหุ้มด้วยพลาสติก ย้ายมณฑป หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรฯพัน ผ้าดิบ และพอกปูนปลาสเตอร์ ก่อนที่จะใส่โฟมเม็ดป้องกันองค์พระอีกชั้นหนึ่ง ต่อจากนั้นจะทุบผนังด้านหน้าออก 2 จุด เพื่อเปิดทางในการเคลื่อนองค์พระออกจากพระวิหารตามรางเหล็ก

"เมื่อถึงจุดยกองค์พระลงจากพระวิหาร ใช้รถเครนขนาด 100 ตันยกองค์ท่านวางบนรางเหล็กที่เตรียมไว้ เคลื่อนองค์ท่านถึงข้างพระมหามณฑปด้านทิศเหนือ ใช้รถเครนขนาด 200 ตันยกองค์พระขึ้นวางบนรางเหล็กบนพระมหามณฑป จากนั้นเคลื่อนองค์พระประดิษฐาน ณ ฐานชุกชี เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ โดยขั้นตอนการเคลื่อนย้ายข้างต้น ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงการยกองค์หลวงพ่อทองคำขึ้นประดิษฐานบนพระมหามณฑป ใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 2 เดือน"

การเคลื่อนย้ายพระพุทธมหาปฏิมาองค์นี้นับเป็นครั้งที่ 4 โดยที่ทั้งสามครั้งที่ผ่านมาเป็นการเคลื่อนย้ายโดยอุบัติเหตุ ครั้งนี้จะเป็นการถวายพระเกียรติยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ด้วยพุทธศาสนประเพณีและโบราณประเพณี ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการเดินทางครั้งใหญ่ที่สุด เพื่อความสมานฉันท์และเจริญรุ่งเรืองแก่ชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนการเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา อันจะตราไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติตลอดไป

ปัจจุบันการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ได้ดำเนินการในส่วนของงานโครงสร้างพระมหามณฑปเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานสถาปัตยกรรมดำเนินการไปแล้วกว่า 70 เปอร์ เซ็นต์ เมื่อวันอังคารที่ 9 ก.ย.2551 คณะกรรมการโครงการจัดสร้างพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้จัดพิธีสำคัญประกอบด้วย พิธีบวงสรวงการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อทองคำ, พิธีอัญเชิญยอดฉัตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม และทรงปิดทองแล้ว เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2551 ขึ้นประดิษฐานบนยอดพระมหามณฑป

หลังจากนั้นได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาประกันการเคลื่อนย้ายองค์พระพุทธ มหาสุวรรณปฏิมากร ทุนประกันมูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการการันตีความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานการจัดสร้างพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2551

เมื่อการก่อสร้างพระมหามณฑปแล้วเสร็จจะเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร เป็นพุทธสถาปัตยกรรมแห่งใหม่ที่เชิดชูเกียรติยศของวงการพระพุทธศาสนา ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งามสง่า มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม ดึงดูดศรัทธาของผู้คนจากทั่วโลก

เป็นศูนย์รวมใจของชุมชนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์และชาวพุทธทั้งปวงสืบไป

  • มีโอกาสดีที่น้องที่อยู่ กทม.พาไปเที่ยว ได้เห็นแหล่งท่องเที่ยว ทัศนศึกษาที่มีคุณค่าแก่เยาวชนที่มีกิจกรรมการทัศนศึกษาตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ(กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน) ทั้งยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยี่ยมชมเมืองไทยด้วย ณ วัดไครมิตรวิทยารามแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อทองคำ และความเป็นมาของชาวจีนในเยาวราชอีกด้วย

  • กับเยาวราชวันนี้ยังคงความเป็น "ไชน่าทาวน์" อยู่เช่นเดิม โชคดีเราได้ชมขบวนแห่ เชิดสิงโต เนื่องในโอกาสสิ้นสุดเทศกาลกินเจ

หมายเลขบันทึก: 403265เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2010 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 12:45 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท