Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

พระสุบินนิมิตข้อที่ ๑๓


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลาพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่เล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆไป นับเป็นกรรมของสัตว์ ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา”

พระเจ้าปเสนทิโกศล  ทรงสุบินนิมิตว่า :

ได้เห็นก้อนศิลาแท่งทึบขนาดใหญ่เท่าเรือ  ลอยอยู่เหนือบนผิวน้ำ เหมือนกับเรือสำเภาเปล่า  ตามธรรมดาแล้วก้อนศิลาย่อมจมอยู่ใต้น้ำ แต่ก้อนศิลานั้นกลับลอยอยู่บนผิวน้ำ

 

                

 

พระพุทธองค์ทรงทำนายไว้ว่า  :  

(สิลา ปลวนฺติ) ในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น  คนพาลสันดานชั่ว  คนทุศีล ทุธรรม คนขี้โกง  คนหัวประจบสอพลอ  คนทุจริตคิดมิชอบ คนไม่มีความละอาย  จะได้รับการยกย่องเชิดชูในสังคม  เป็นผู้มีบทบาท มีอำนาจ มื่ชื่อเสียงเกียรติยศ มีพวกพ้องลูกน้องบริวารมาก ถ้าเป็นฆราวาสก็จะมีแต่ผู้เชิดหน้าชูตา ไปไหนมาไหนมีแต่คนเคารพยำเกรง  มีฝูงชนให้การต้อนรับเอาใจ  เรียกว่าเป็นกระจกบานใหญ่ให้แสงสะท้อนเงาของประเทศนั้นๆ สังคมของประเทศนั้นมีความเจริญหรือเสื่อมลง ก็ให้ดูกระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสภา  จะเป็นสื่อบอกประตูหน้าต่างของสังคมนั้นได้เป็นอย่างดีว่าประเทศใดมีตัวแทนลักษณะใด  จะรู้ได้ว่าผู้ที่เลือกเขาเข้ามาก็เป็นลักษณะนั้นเหมือนกัน  เพราะเขาจะเลือกเอาคนลักษณะเดียวกัน ชนิดเดียวกันเข้ามา  แต่ถ้าเป็นนักบวช  นักพรต ก็เป็นลักษณะนี้  ศาสนาจะมีความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงก็ขึ้นอยู่กับพุทธบริษัททั้งสี่  หากปล่อยลำพังพระอย่างเดียวจะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลางของสังคมนั้นไม่ได้  พระที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังได้ก็เพราะญาติโยมนำออกไปโฆษณากันเองว่ารูปนั้นมีความดี  มีความขลังอย่างนั้น  รูปนี้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้  รูปนั้นมีอภินิหารอย่างนี้ไปทางไหนโยมก็นำไปออกข่าว  โดยไม่ต้องเสียค่าออกสถานี  ไม่ต้องอัดสปอร์ตโฆษณา  ไม่ต้องมีสปอนเซอร์ว่ารูปไหนปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบ  รูปไหนเป็นพระอริยเจ้า  ฆราวาสญาติโยมจะเป็นผู้ให้ใบประกาศคาดการณ์ให้เอง  โดยไม่เกรงใจพระว่าท่านจะชอบหรือไม่  ลูกศิษย์แต่ละครู  ศิษย์แต่ละสำนักก็จะผลิต  จะกำหนดรูปแบบอาจารย์ของตนเองให้เป็นพระอรหันต์ขึ้นมาเรียกว่า "อรหันต์จัดตั้ง"  โดยศิษย์ของตัวเอง  เรื่องข้อวัตรปฏิบัติของอาจารย์ของตัวเองมีความเคร่งครัดอย่างไรก็นำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์กันเกินความเป็นจริง  นี้แหละก็คือ ก้อนศิลาแท่งทึบจึงได้ลอยอยู่บนผิวน้ำ (เพราะว่าลมปากอยู่เหนือน้ำลายอย่างไรละ!)  จึงมีความโดดเด่น เห็นได้ชัดเจน  เป็นธุรกิจในคราบผ้ากาสวพักตร์บังหน้าไป  มีพ่อค้าขายผ้ากาสวพักตร์จัดกันเป็นขบวน (ชวนคนทำบุญแล้วแบ่งครึ่งหนึ่ง) บางที่มีการจัดทัวร์หัวใสไปทำบุญเพื่อที่จะได้พักได้นอนในราคาถูก  แต่คิดกับคนไปด้วยในราคาเต็ม  ได้สองต่อสามต่อ  ต่อที่หนึ่งได้ค่ารถแบ่งกัน  ต่อที่สองได้ครึ่งหนึ่งจากการแบ่งส่วนที่เขาทำบุญแล้วนำมาแบ่งเอา  ต่อที่สามไม่ต้องเสียค่าน้ำค่าไฟในการหากิน  แต่คนเหล่านี้ศาสนาอาศัยไม่ได้  เอาศาสนามาแอบอ้างหากิน  เมื่อช่วงปลายศาสนาโน้น  คนจะหมดความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาของพระตถาคต  และผู้คนจะมีศรัทธาเบาบางและค่อยจืดจางลงไป  เพราะเห็นความชั่วร้ายในพระที่อยู่ในยุคนั้นๆ ผู้ที่มีปัญญาดีมีความมั่นคงมีเหตุมีผล  เขาจะแสวงหาพระที่เป็นพระได้อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง  เมื่อปลายศตวรรษศาสนาโน้น  เรื่องอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  อีกไม่นานคนทุกท่านจะได้ยินได้ฟังได้เห็นด้วยตัวเอง  ยิ่งในยุคข้าวของแพงหรือสงคราม

 

 

  ขอให้บุญรักษา  ธรรมคุ้มครองทุกคนนะคะ

  ที่มา

 

พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท. ๒๕๕๑. พุทธทำนาย ๑๖ ประการ. พิมพ์ครั้งที่ ๗. บริษัท ธนาเพรส จำกัด. กรุงเทพฯ. 

 

 สามารถดาวน์โหลด E-book ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.veeranon.com/images/stories/book/16Predictions_th.pdf

 

 พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน

สงวนลิขสิทธิ์  หากพิมพ์เพื่อจำหน่าย

 

ผู้มีจิตศรัทธาท่านใดสนใจพิมพ์หนังสือธรรมะเล่มใดแจกเป็นธรรมทานขอรับต้นฉบับฟรีได้ที่วัด  เพื่อให้เนื้อหาของหนังสือถูกต้องและแม่นยำ หรือสนใจปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน 4

 

 สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดทุกวันค่ะ

http://www.veeranon.com/

 

หมายเลขบันทึก: 406671เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2010 14:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท