ภาพรวมของผลงานวิชาการด้านยาเสพติดที่รวบรวมโดย สำนักงาน ป.ป.ส.
สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รวบรวมผลงานวิจัยด้านยาเสพติดและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องไว้ ระหว่าง
ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ จนถึง ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ รวมจำนวน ๑๓๑ เรื่อง โดยจัดหมวดหมู่ผลงานวิจัยตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานยาเสพติด ๔ ด้าน คือ
๑. ด้านการควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply)
๒. ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand)
๓. ด้านการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand)
๔. ด้านการบริหารจัดการ (Management)
การวิเคราะห์สถานะองค์ความรู้ตามรายยุทธศาสตร์/กลุ่มเป้าหมาย/มาตรการ
ยังคงยึดการจัดแบ่งยุทธศาสตร์ด้านยาเสพติดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เข้าเป็นกรอบในการ
ขับเคลื่อนงานยาเสพติดสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ จะมีการปรับเนื้อหาของยุทธศาสตร์เป็นยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกัน และ ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกันระยะที่ ๒ แต่กรอบคิดในการบริหารจัดการโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรอบการจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมิได้เปลี่ยนแปลงไป ในที่นี้การวิเคราะห์การศึกษาวิจัยด้านยาเสพติดตามกรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวจึงยังคงสอดคล้องต่อการขับเคลื่อนแผนงานด้านยาเสพติด โดยมีรายละเอียดการวิเคราะห์ ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์ด้านการควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply)
จากการจัดหมวดหมู่งานวิจัยในคลังข้อมูลวิชาการด้านยาเสพติดพบว่ามีงานวิจัยตาม ยุทธศาสตร์ด้านการควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply) มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๒ เรื่อง[1] โดยสามารถจัดหมวดหมู่ของการศึกษาวิจัยในด้านต่างๆ ดังนี้
๑.๑ ด้าน ตัวยา มีจำนวน ๖ เรื่องคือ ลักษณะทางกายภาพและปริมาณสารสำคัญในยาบ้า
พื้นที่เขตภาคเหนือตอนบน (๒๕๔๗) การจัดการองค์ความรู้ยาและสารเสพติดเพื่อความบันเทิง (๒๕๔๘) พืชกระท่อมในสังคมไทย (๒๕๔๘) ปริมาณสารสำคัญในกัญชง (๒๕๕๐) การวิจัยเรื่องปริมาณสารสำคัญ ในกัญชง (๒๕๕๑) และการศึกษารูปแบบและผลกระทบจากการใช้พืชกระท่อมและ/หรือสารเสพติดที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อมในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน (๒๕๕๒)
๑.๒ ด้านนโยบาย จำนวน ๒ เรื่องคือ การศึกษาและวิจัยนโยบายการควบคุมตัวยาและ
ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ในส่วนภูมิภาค กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (๒๕๕๒) และ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนานโยบาย แนวทาง มาตรการ และกฎหมายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานของกระทรวงยุติธรรม (๒๕๕๒)
๑.๓ ด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด จำนวน ๔ เรื่อง คือ การพัฒนาชุดทดสอบยาเสพติด
และวัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้เพื่อความบันเทิง(๒๕๕๐) ประสิทธิผลของการดำเนินงานในสถานที่เพื่อการควบคุมตัว และสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ (๒๕๕๐) และประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดทางวิทยาศาสตร์ของสถานตรวจพิสูจน์ กับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (๒๕๕๑) การตรวจหาสารเสพติดในผู้ที่เสียชีวิต (๒๕๕๓)
๑.๔ ด้าน กฎหมาย/มาตรการทางกระบวนการยุติธรรม จำนวน ๖ เรื่อง คือ การวิจัย
การนำการต่อรองการรับสารภาพมาใช้ในประเทศไทย:กรณีศึกษาคดียาเสพติด (๒๕๔๕) การป้องกันแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ผู้สืบสวนจับกุมคดียาเสพติดโดยใช้มาตรการเงินสินบนเงินรางวัล (๒๕๔๘) โครงการติดตามประเมินผลและพัฒนารูปแบบและแนวทางการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล (๒๕๔๙) โครงการศึกษาวิจัยเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ กับผลกระทบด้านกฎหมายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (๒๕๕๐) การศึกษาแนวทางและความเป็นไปได้ในการนำมาตรการลงโทษระดับกลางมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกในการลงโทษผู้กระทำผิดในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทย (๒๕๕๑) และการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินคดีพิเศษ (๒๕๕๑)
๑.๕ ด้าน กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ คือ “กลุ่มผู้กระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติด”
จำนวน ๓ เรื่อง คือ การวิจัยเพื่อสร้างหลักสูตรในการแก้ไขและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษสูงและที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ (สาเหตุการกระทำผิด/ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการกระทำผิด) (๒๕๔๗)การวิจัย“การเฝ้าระวังผู้ต้องขังคดียาเสพติด มิให้กระทำผิดซ้ำ” (๒๕๔๙)และการศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการกระทำความผิดซ้ำในคดียาเสพติดและคดีฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวกับยาเสพติด (๒๕๕๐)
๑.๖ ด้านปัจจัยที่มีผลต่อการค้า/ลำเลียง จำนวน ๑ เรื่อง โดยเป็นการศึกษาปัจจัย รูปแบบการค้า/ลำเลียงในระดับพื้นที่ คือ การศึกษาปัจจัยการค้าและการลำเลียงยาเสพติดในกลุ่มชาวไทยภูเขาเผ่าม้งและลีซอ (๒๕๔๖) โดยศึกษาปัจจัยที่ทำให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งและเผ่าลีซอเข้าร่วมขบวนการค้า ยาเสพติด
๑.๗ ด้านการดำเนินงานของรัฐ จำนวน ๑ เรื่องคือ บทบาทและปัญหาอุปสรรค
ในการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. : กรณีศึกษาจังหวัดชลบุรี (๒๕๔๘) เป็นการศึกษาบทบาทที่กฎหมายกำหนด และบทบาทที่เป็นจริงของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในจังหวัดชลบุรี รวมทั้งสภาพปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานปราบปรามยาเสพติด แนวทางในการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในจังหวัดชลบุรี และเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไขบทบาท อำนาจหน้าที่ของ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเอื้อต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด
๒. ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand)
จากการจัดหมวดหมู่งานวิจัยในคลังข้อมูลวิชาการด้านยาเสพติดพบว่ามีงานวิจัยตาม
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) มีจำนวนทั้งสิ้น
๒๘ เรื่อง[2] โดยสามารถจัดหมวดหมู่ของการศึกษาวิจัยตามมิติกลุ่มเป้าหมายและมาตรการ ดังนี้
๒.๑ กลุ่มเป้าหมายเยาวชนในสถานศึกษา จำนวน ๑๒ เรื่อง ประกอบด้วย
๒.๑.๑ ระดับปฐมวัยจำนวน ๑ เรื่องคือ การปลูกฝังคุณธรรมในเด็กปฐมวัยผ่านกระบวน
สร้างสรรค์ของแกนนำโรงเรียนวิถีพุทธ (๒๕๔๙)
๒.๑.๒ ระดับประถมศึกษา จำนวน ๑ เรื่อง คือ การศึกษาสภาพปัญหาการใช้ยาในทางที่ผิดของนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชัยนาท (๒๕๔๕)
๒.๑.๓ ระดับมัธยมศึกษาจำนวน ๓ เรื่องคือ รายงานวิจัยศึกษาการปฏิบัติงานโครงการโรงเรียนสีขาวของสถานศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษาในจังหวัดตรัง (๒๕๔๕) และการแพร่ระบาดของสารเสพติดและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเสพสารเสพติดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ในจังหวัดปทุมธานี (๒๕๔๕)การศึกษาโครงการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาในภาคใต้ ปีการศึกษา ๒๕๔๘ (๒๕๔๘)
๒.๑.๔ รวมทุกระดับ จำนวน ๗ เรื่องประกอบด้วย รูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหา
สารเสพติดในสถานศึกษา (๒๕๔๖) ผลการศึกษาวิจัยเชิงลึก (Focus Group) การศึกษาหาแนวทางการจัดกิจกรรมต้านยาเสพติดในสถานศึกษาและผลการสำรวจแววความสามารถพิเศษ (๒๕๔๘) การพัฒนาระบบ เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา (๒๕๕๐) โครงการเร่งสร้างคุณลักษณะที่ดีของเด็กและเยาวชนไทย (๒๕๕๐) การถอดบทเรียนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา (๒๕๕๑) โครงการศึกษาและการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๒๕๕๑) และการศึกษาเพื่อพัฒนาเครื่องมือสำรวจต้นทุนชีวิตเยาวชน เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด (๒๕๕๒)
๒.๒ กลุ่มเป้าหมายในชุมชน จำนวน ๖ เรื่อง ประกอบด้วย รูปแบบการป้องกันและ เฝ้าระวังการใช้สารเสพติดในชุมชนโดยความร่วมมือของผู้นำชุมชน กรณีตำบลบ้านเสี้ยว อำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ (๒๕๔๕) การวิจัยประเมินผลโครงการพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อป้องกัน ยาเสพติดในจังหวัดอำนาจเจริญ (๒๕๔๕) การวิจัยเรื่องการถอดบทเรียนความสำเร็จของชุมชนในการแก้ไขปัญหาสารเสพติดแบบครบวงจรและยั่งยืน (๒๕๔๖) การศึกษาชุมชนต้นแบบเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษา ๕ ชุมชนต้นแบบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (๒๕๕๐) การจัดการความรู้เพื่อพัฒนากระบวนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเครือข่ายองค์กรชุมชนอย่างยั่งยืนเขตชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (๒๕๕๑) การศึกษารูปแบบและกระบวนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒๕๕๒)
๒.๓ ประเด็นจัดระเบียบสังคม จำนวน ๒ เรื่องคือ การติดตามประเมินผลและพัฒนา
โครงการจัดระเบียบสังคมบริเวณปริมณฑลมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พื้นที่ต้นแบบชุมชนน่าอยู่และปลอดภัย ซอยประชาชื่น-นนทบุรี ๘ (Campus Safety Zone) (๒๕๕๐) และการถอดบทเรียนการดำเนินงานจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ (๒๕๕๒)
๒.๔ การป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ จำนวน ๘ เรื่องประกอบด้วย
๒.๔.๑ เยาวชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน ๒ เรื่องคือ การศึกษาความพร้อมของเยาวชนในการจัดตั้งร้านช่างชนบทศึกษาเฉพาะในเขตพื้นที่เสี่ยงยาเสพติด (๒๕๔๕) และรูปแบบการทำงานป้องกันในเยาวชนกลุ่มพฤติกรรมเสี่ยง (๒๕๕๐)
๒.๔.๒ เยาวชนนอกระบบโรงเรียน จำนวน ๖ เรื่องประกอบด้วย การป้องกันการใช้สารเสพติดเบื้องต้นในกลุ่มเยาวชนไทย (๒๕๔๗) ปัจจัยที่ทำให้เยาวชนไปใช้ยาเสพติดและวิธีการ รูปแบบ การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชน (๒๕๔๙) การสังเคราะห์องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาศักยภาพเด็กด้านทักษะชีวิตนอกระบบโรงเรียน (๒๕๕๐) การศึกษารูปแบบวัฒนธรรมย่อยและกลไกการมีส่วนร่วมของเครือข่ายกลุ่มเด็กและเยาวชนนอกสถานศึกษา ในพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่เสี่ยงเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (๒๕๕๐) การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน (๒๕๕๒) และ การถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการสร้างบทบาทและพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชนประจำปี ๒๕๕๒ (๒๕๕๒)
๓. ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand)
จากการจัดหมวดหมู่งานวิจัยในคลังข้อมูลวิชาการด้านยาเสพติดพบว่ามีงานวิจัยตาม
ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) จำนวนทั้งสิ้น ๑๘ เรื่อง[3] โดยจัดหมวดหมู่ได้ดังนี้
๓.๑ ปัจจัย พฤติกรรมการเสพยาเสพติดและการเสพติดซ้ำ จำนวน ๖ เรื่อง ประกอบด้วย
๓.๑.๑ การเสพยาเสพติดในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ จำนวน ๓ เรื่องประกอบด้วยกลุ่มผู้เล่น
กีฬาวัวชน และทหารประจำการกองทัพอากาศ ได้แก่ ผลงานวิจัยเรื่องสุขภาพจิตและการดูแลตนเองด้านจิตใจ ในผู้เล่นกีฬา วัวชนที่ใช้พืชกระท่อม (๒๕๔๘) การสำรวจประวัติเสพและติดยาเสพติดในทหารประจำการกองทัพอากาศส่วนกลางรุ่นปี ๒๕๔๖ ผลัด ๒ และ รุ่นปี ๒๕๔๗ ผลัด ๑ (๒๕๔๙) การสำรวจประวัติการใช้ยาเสพติดในทหารกองประจำการกองทัพอากาศที่เข้าประจำการใหม่และแนวโน้มการใช้ยาเสพติดที่สำคัญใน พ.ศ.๒๕๔๘ (๒๕๔๙) และการพัฒนาการสำรวจประวัติเสพและติดยาเสพติดในทหารกองประจำการกองทัพอากาศ (๒๕๔๙)
๓.๑.๒ การเสพติดซ้ำ ๒ เรื่อง[4] ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อการติดยาเสพติดซ้ำ
(๒๕๕๐) และ ปัจจัยที่มีผลต่อการเสพติดซ้ำ (๒๕๕๐)
๓.๒ การคัดกรองผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จำนวน ๑ เรื่อง คือ การพัฒนาเครื่องมือ คัดกรองผู้เสพ/ติดสารระเหย (๒๕๕๒)
๓.๓ ระบบการบำบัดแบบสมัครใจ จำนวน ๕ เรื่อง โดยเป็นการศึกษาถึงรูปแบบ/วิธีการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดทั้งสิ้น โดยแสดงรายละเอียดดังนี้
๓.๓.๑ การบำบัดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย จำนวน ๒ เรื่อง คือ รายงาน
การศึกษารูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (๒๕๔๘) และ รูปแบบในการบำบัดผู้ติดยาเสพติดด้วยสมุนไพรและระบบการแพทย์แผนไทย (๒๕๕๑)
๓.๓.๒ กระบวนการทางศาสนา จำนวน ๑ เรื่อง คือ การศึกษาสำรวจวัดที่ดำเนินงาน
สงเคราะห์และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศ (๒๕๕๑)
๓.๓.๓ การบำบัดโดยชุมชน จำนวน ๑ เรื่อง คือ บทวิเคราะห์และสรุปผลการดำเนินการ
โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพระยะแรกโดยใช้กระบวนการชุมชน บ้านดอนไพลหมู่ ๘ ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา (๒๕๔๙)
๓.๓.๔ การบำบัดรูปแบบจิตสังคมบำบัด จำนวน ๑ เรื่องคือ ประสบการณ์การดูแลตนเอง
ภายหลังการบำบัดทางจิตสังคมของผู้ติดสารเสพติด (๒๕๕๑)
๓.๔ ระบบบังคับบำบัด จำนวน ๒ เรื่อง การสำรวจสภาพการดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกองทัพอากาศ ปี พ.ศ.๒๕๔๗ (๒๕๔๗) และ ผลการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ (๒๕๔๘)
๓.๕ การบริหารงานด้านบำบัดรักษา จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่
๓.๕.๑ เรื่องต้นทุน/ค่าใช้จ่าย/และประสิทธิผลการบำบัด จำนวน ๒ เรื่อง คือ การวิจัย
การศึกษาต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบำบัดรักษายาเสพติด (Unit Cost Analysis) (๒๕๕๐) และการศึกษาวิเคราะห์ต้นทุนและประสิทธิผลของระบบบำบัดรักษายาเสพติด (๒๕๕๒)
๓.๕.๒ กระบวนทัศน์ จำนวน ๑ เรื่อง คือ สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ ๓ กระบวนทัศน์ใหม่ของงานยุติธรรมสำหรับผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดในประเทศไทย (๒๕๔๙)
๓.๕.๓ การบูรณาการระดับจังหวัด จำนวน ๑ เรื่อง คือ การวิจัยเพื่อติดตามและประเมินผล
การดำเนินงานของทีมวิทยากรบูรณาการบำบัดรักษายาเสพติดจังหวัด (๒๕๕๐)
๔. ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการ (Management)
จากการจัดหมวดหมู่งานวิจัยในคลังข้อมูลวิชาการด้านยาเสพติดพบว่ามีงานวิจัยตาม
ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการ (Management) จำนวนทั้งสิ้น ๖๒ เรื่อง โดยจัดหมวดหมู่ได้ดังนี้
๔.๑ การศึกษาวิจัยเพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงาน/จัดการความรู้ จำนวน ๕ เรื่อง ได้แก่ ถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับหมู่บ้าน บ้านกำแมด หมู่ ๑๖ ตำบลกำแมด อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร (๒๕๔๘) ถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับตำบล ตำบลห้วยแก้ง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร (๒๕๔๘) สรุปบทเรียน อำเภอชานุมานจังหวัดอำนาจเจริญ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒๕๔๘) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษาตำบลวังแดง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ (๒๕๔๙) และการจัดการความรู้วิชาการสารเสพติด ภาคเหนือตอนบน ปี ๒๕๕๑ (๒๕๕๑)
๔.๒ การเฝ้าระวัง จำนวน ๑๙ เรื่อง ประกอบด้วย
๔.๒.๑ การศึกษาข้อมูล/เฝ้าระวังในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะระดับพื้นที่ จำนวน ๑๖ เรื่อง
ประกอบด้วย
๔.๒.๑.๑ เฝ้าระวังสถานบริการ/สถานบันเทิง จำนวน ๗ เรื่อง ประกอบด้วย การเฝ้าระวังการ
ใช้สารเสพติดและยากล่อมประสาทของผู้ใช้บริการในสถานบริการต่างๆ (๒๕๔๖) การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดสารเสพติดและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานบันเทิง พื้นที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (๒๕๕๐) โครงการวิจัยเรื่องปัญหายาเสพติดและผลกระทบต่อชุมชนที่ตั้งและรอบนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน (๒๕๕๑) การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดสารเสพติดและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานบันเทิง พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก (๒๕๕๑) การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดสารเสพติดและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานบันเทิงพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา (๒๕๕๒) โครงการพัฒนาองค์ความรู้สถานการณ์ปัญหาการเสพและการค้าไอซ์ในกลุ่มเยาวชนและสถานบันเทิง ในพื้นที่ ปปส.ภาค ๑ และภาค ๒ (๒๕๕๒) สถานการณ์การเสพและการค้าไอซ์ในกลุ่มเยาวชนและสถานบันเทิงในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี และเพชรบุรี (๒๕๕๒)
๔.๒.๑.๒ เฝ้าระวังสถานประกอบการขนาดเล็ก จำนวน ๑ เรื่อง คือ การศึกษาคุณลักษณะ
ของการแพร่ระบาดยาเสพติดเพื่อการเฝ้าระวังในสถานประกอบการขนาดเล็กในประเทศไทย (๒๕๕๐)
๔.๒.๑.๓ การศึกษาข้อมูลเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน ๖ เรื่อง
ได้แก่ สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจ:จังหวัดชลบุรีและระยอง (๒๕๕๐) สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดชลบุรีและระยอง: ข้อมูลจากเยาวชนที่ถูกจับกุมตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๕๐ ถึง มีนาคม ๒๕๕๑(๒๕๕๑) สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดชลบุรี และระยอง (๒๕๕๑)การร่วมมือศึกษาสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนฯ (๒๕๕๒) สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดราชบุรี (๒๕๕๒) การร่วมมือศึกษาสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนฯ (พื้นที่สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค ๒ จำนวน ๔ จังหวัด : ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และปราจีนบุรี) (๒๕๕๒)
๔.๒.๑.๔ การเฝ้าระวังกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมง จำนวน ๑ เรื่องคือ การพัฒนาองค์ความรู้สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพการประมง (๒๕๕๒)
๔.๒.๒ การพัฒนาระบบ/รูปแบบการเฝ้าระวัง จำนวน ๓ เรื่องประกอบด้วย การพัฒนาศูนย์และเครือข่ายเรียนรู้ระบบข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดเพื่อการแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัด (๒๕๕๒)การพัฒนาตัวแบบระบบเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของสารเสพติดระดับอำเภอ (๒๕๕๒) การศึกษารูปแบบการส่งเสริมหมู่บ้านชายแดนเพื่อการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด กรณีศึกษาหมู่บ้านชายแดนในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคตะวันตก (กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์) (๒๕๕๒)
๔.๓ การศึกษาสถานการณ์ สถานภาพ รูปแบบการค้า/การใช้ยาเสพติดในระดับภาค/
พื้นที่ จำนวน ๑๑ เรื่องประกอบด้วย
๔.๓.๑ ภาคเหนือ จำนวน ๕ เรื่อง ได้แก่ การศึกษาสถานการณ์ตลาดยาอีในอำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ (๒๕๔๕)การศึกษาบูรณาการสถานภาพอุปทาน-อุปสงค์ ผล และผลกระทบ ระดับพื้นที่อำเภอ ปี ๒๕๔๗: ภาคเหนือ (๒๕๔๗) การศึกษาพฤติกรรมการใช้สารระเหยของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิจิตรและพิษณุโลก (๒๕๔๙) สถานภาพการใช้สารเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐: ภาคเหนือตอนล่าง (๒๕๕๐) แบบแผนการใช้และอันตรายที่ได้รับจากการใช้สารเสพติด กรณีศึกษาพื้นที่อำเภอปาย (๒๕๕๒)
๔.๓.๒ ภาคกลาง จำนวน ๑ เรื่องคือ ปัญหายาเสพติดชายแดนภาคตะวันออก : ตราด
สระแก้ว (๒๕๔๙)
๔.๓.๓ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑ เรื่อง คือ การประเมินสถานการณ์การค้าและการแพร่ระบาดยาเสพติดตามแนวชายแดน (๒๕๕๒)
๔.๓.๔ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน ๒ เรื่องคือ การคาดประมาณจำนวนผู้ใช้ ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (๒๕๔๘) และ รูปแบบและวิธีการค้ายาเสพติดรายย่อย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (๒๕๕๑)
๔.๓.๕ ภาคใต้ จำนวน ๑ เรื่องคือ สถานภาพการใช้สารเสพติด พ.ศ.๒๕๕๑ ภาคใต้ (๒๕๕๒)
๔.๓.๖ ภาพรวมทั่วประเทศ จำนวน ๑ เรื่อง คือ สถานภาพการใช้สารเสพติด พ.ศ.๒๕๕๑(๒๕๕๒)
๔.๔ การพัฒนาระบบงาน จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบด้าน
ทัณฑวิทยา (๒๕๕๐) และ การปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลผู้ต้องขังกระทำผิดซ้ำ (๒๕๕๐)
๔.๕ การประเมินผล จำนวน ๒๕ เรื่องประกอบด้วย
๔.๕.๑ การประเมินนโยบายและยุทธศาสตร์ จำนวน ๘ เรื่อง ประกอบด้วย
-ยุทธศาสตร์ Supply จำนวน ๒ เรื่อง คือ การประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ครั้งที่ ๑ (๒๕๔๙) และการประเมินโครงการสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน (รั้วชายแดน) (๒๕๕๒)
-ยุทธศาสตร์ Potential Demand จำนวน ๒ เรื่องคือ การประเมินยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ครั้งที่ ๑ (๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๘) (๒๕๔๘) และ การวิเคราะห์นโยบาย มาตรการ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย (๒๕๔๙)
-ยุทธศาสตร์ Demand จำนวน ๑ เรื่องคือ ผลการประเมินการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) ครั้งที่ ๑ (๒๕๔๘)
-ยุทธศาสตร์ Management จำนวน ๑ เรื่องคือ รายงานผลการวิจัยโครงการประเมินยุทธศาสตร์บริหารจัดการเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดครั้งที่ ๑ (๒๕๔๙)
-การปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ รายงานผลการสำรวจประเมินผลการปฏิบัติการ“รวมพลังไทยทั้งชาติ ขจัดยาเสพติด” (๑ มีนาคม - ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๙) (๒๕๔๙) และการสำรวจประเมิน “ปฏิบัติการรวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน” ระยะที่ ๑ (๑ ธันวาคม ๒๕๔๙ – ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐) (๒๕๕๐)
๔.๕.๒ การประเมินผลการดำเนินงาน จำนวน ๘ เรื่อง ประกอบด้วย
๔.๕.๒.๑ ด้านรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ จำนวน ๖ เรื่อง ได้แก่ การติดตามประเมินผลการรณรงค์ป้องกันยาเสพติด ปี ๒๕๔๕ (๒๕๔๕) การประเมินผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์งานยาเสพติดผ่านสื่อมวลชนประจำปี ๒๕๕๐ ของ สำนักงาน ป.ป.ส.โครงการ ๑ (๒๕๕๑) การประเมินผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์งานยาเสพติดผ่านสื่อมวลชนประจำปี ๒๕๕๐ ของ สำนักงาน ป.ป.ส. โครงการที่ ๒ (๒๕๕๑)
การประเมินผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์งานยาเสพติดผ่านสื่อมวลชนประจำปี ๒๕๕๐ ของ สำนักงาน ป.ป.ส.โครงการ ๓ (๒๕๕๑) การประเมินผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์งานยาเสพติดผ่านสื่อมวลชนประจำปี ๒๕๕๐ ของ สำนักงาน ป.ป.ส.โครงการ ๔ (๒๕๕๑) การประเมินผลโครงการรณรงค์ผ่านสื่อมวลชนเพื่อปรับเจตคติการยอมรับผู้เคยเสพ/ติดยาเสพติดกลับสู่สังคม ปี ๒๕๕๒ ของสำนักงาน ป.ป.ส. (๒๕๕๒)
๔.๕.๒.๒ การประเมินโครงการเฉพาะ จำนวน ๒ เรื่องได้แก่ การประเมินผลโครงการทำ
ความดีเพื่อแผ่นดิน ปี ๒๕๔๖ (๒๕๔๖) และการประเมินผลโครงการ D.A.R.E. ของตำรวจภูธรภาค ๑ (๒๕๕๒)
๔.๕.๓ การประเมินการดำเนินงานจังหวัดนำร่อง จำนวน ๕ โครงการได้แก่ การติดตามการดำเนินงานจังหวัดนำร่องเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (๒๕๕๑) การติดตามการดำเนินงานจังหวัดนำร่องเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคกลาง (๒๕๕๑) การติดตามการดำเนินงานจังหวัดนำร่องเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๒๕๕๑) การติดตามการดำเนินงานจังหวัดนำร่องเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคใต้ (๒๕๕๑) การติดตามการดำเนินงานจังหวัดนำร่องเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคเหนือ (๒๕๕๑)
๔.๕.๔ การประเมินระบบงบประมาณ จำนวน ๑ เรื่อง คือ การประเมินผลการขอและการใช้งบประมาณด้านยาเสพติดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปี ๒๕๕๑ (๒๕๕๒)
๔.๕.๕ การประเมินกลไก/ระบบงาน จำนวน ๓ เรื่องได้แก่ ยาเสพติด : มิติเชิงจัดการ (๒๕๔๗) โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) (๒๕๔๘) และ การประเมินผลสัมฤทธิ์ของงานคุมประพฤติประจำปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๔๘ (๒๕๔๘)
[1] มีงานวิจัยที่สำนักงาน ป.ป.ส. อยู่ระหว่างดำเนินการอีก ๓ เรื่องและยังไม่ได้รวมไว้ในคลังข้อมูลวิชาการ คือ ๑) โครงการศึกษาศักยภาพอุปทานชนกลุ่มน้อยสำคัญ ๒) โครงการการเก็บข้อมูลและประมวลสถานการณ์ด้านการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อการพัฒนาวิธีพิจารณาคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และ ๓) การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการกระทำผิดซ้ำในคดียาเสพติด : กรณีศึกษาจากผู้กระทำผิดร้ายแรงและมีโทษสูงและที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
ไม่มีภาพประกอบหรอครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและรายละเอียด