บรรพบุรุษชาวปกาเกอะญอบ้านป่าคา ตั้งรกรากและอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน บรรพบุรุษเคยร่วมกับ “ท่านพะวอ” นายด่านแม่ละเมา คอยเป็นกันชนข้าศึกชาวพม่าที่จะเข้ามารุกแผ่นดินสยาม ในรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช
บ้านป่าคา เป็นหมู่บ้านบริวารของบ้านห้วยช้างไล่ หมู่ที่ ๖ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก หมู่บ้านอยู่ไกลจากเมืองค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาไม่น้อยในการเดินทาง ในหมู่บ้านไม่มีโรงเรียน จึงต้องส่งลูกหลานไปเรียนที่โรงเรียนกินนอนต่างหมู่บ้าน ไม่มีสถานีอนามัยเมื่อคราวเจ็บป่วยต้องรักษากันเอง ถ้าเป็นหนักก็จะแบกออกไปส่งโรงพยาบาล
ชาวบ้านดำรงชีพอยู่อย่างพอเพียง ในแต่ละปีพวกเขาจะทำไร่ข้าว ปลูกข้าวไว้กิน ที่เหลือเอาไว้เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ รวมทั้งแบ่งเพื่อนบ้านที่ข้าวไม่พอกิน ในไร่ข้าวปลูกพริก แตง มะเขือ ผักกาด ฟักทอง น้ำเต้า ข้าวโพด เผือก มัน ฯลฯ เอาไว้กินตลอดทั้งปี
ไร่ข้าวที่ทำเป็นไร่หมุนเวียน ใช้พื้นที่เพียงปีเดียว จากนั้นก็จะย้ายทำพื้นที่อื่น จนปีที่หกหรือปีที่เจ็ดก็จะย้อนกลับมาทำไร่ที่เดิม เนื่องจากดินได้พักฟื้นคืนความสมบูรณ์ดังเดิม ทำให้ปลูกข้าวและพืชงาม ได้ผลดี มีข้าวพอกิน มีผักกินทั้งปี ต้นไม้ที่โค่นจากการทำไร่ก็จะเก็บไว้ทำฟืน ไม้ใหญ่เอาไปทำรั้ว ซ่อมบ้าน คนออกเรือนใหม่ก็จะสะสมไว้ปลูกบ้าน
บรรพบุรุษของพวกเขาสอนว่า “ได้กินจากป่าต้องรักษาป่า ได้กินจากน้ำต้องรักษาน้ำ” ในวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคน ชาวปกาเกอะญอที่นี่จะรักษาป่าไม้ยิ่งกว่าสิ่งใด เนื่องจากเป็นหลักประกันความอุดมสมบูรณ์ในการทำมาหากิน ในบางพื้นที่จะรักษาไว้เป็นป่าอนุรักษ์ไม่ให้ใครเข้าไปตัดต้นไม้ เช่น ป่าที่อยู่ต้นน้ำ ป่าช้า ฯลฯ
ชาวบ้านจะหมุนเวียนถางไร่ทำกินบางพื้นที่ ในพื้นที่จึงมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอาหารและทำมาหากินมานาน พวกเขาอยู่กันได้โดยใช้เงินไม่มากจนแทบไม่ได้ใช้
หนังสือเล่มนี้ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของชาวปกาเกอะญอบ้านป่าคาผ่านบันทึกข้อความและภาพถ่าย ที่ผู้เขียนเข้าไปพบเห็น สัมผัส ในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยความหวังว่าจะมีคนเข้าใจพวกเขามากขึ้นว่า คนเล็กคนน้อยอย่างพวกเขา ได้ดำรงชีพอยู่อย่างสอดคล้องสมดุลกับธรรมชาติแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า มีส่วนอย่างยิ่งในการปกป้องรักษาสมบัติของแผ่นดินให้คงอยู่ยืนยาวต่อไปตราบนานแสนนาน
ขอบคุณค่ะ..น่าสนใจมาก..นับเป็นเล่าฐานความเป็นมาที่จะช่วยให้เกิดการต่อยอดในอนาคตด้วยนะคะ..
สวัสดีค่ะ
อ่านเล่มนี้แล้ว กลับมาอ่านอีกครั้ง อยากไปจัดค่ายที่โรงเรียนบ้านซิวาเด๋อ ไปกันไหม
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง
จะ...เป็นคำนำหน้าเพศชาย ส่วนนะ...เป็นคำนำหน้าเพศหญิงค่ะ
พี่จะโหลดมาอ่านต่อไปคะ ดีมากเลยนะคะ
บรรพบุรุษเคยร่วมกับ “ท่านพะวอ” นายด่านแม่ละเมา คอยเป็นกันชนข้าศึกชาวพม่าที่จะเข้ามารุกแผ่นดินสยาม ในรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช
ตรงกับสิ่งที่ผมต้องการพอดีเลยครับ พี่หนานเกียรติ
น่าสนใจอีกแล้ว...มีหลายเล่มจังค่ะพี่หนานเกียรติ
อ่านไม่ทันอ่ะ...รอให้ออกเป็นรูปเล่มเลยดีกว่า ดาวไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือในคอมพ์ซักเท่าไหร่ (ข้ออ้างของคนขี้เกียจ) อิอิ
สวัสดีค่ะ
พี่แวะมาอ่าน..แต่อ่านไม่จบค่ะ อิอิ...กำลังโหลดไปอ่านต่อจ้า..ขอบคุณมากๆนะคะ
ขอบคุณหนานเกียรติค่ะที่แวะไปทักทาย ขออนุญาต load หนังสือนะคะ ชื่นชมๆๆๆๆ
เป็นวิถีชีวิตที่กลมกลืนของคนกับป่านะครับ ขอบพระคุณบันทึกที่แบ่งปันนะครับ
*** ...สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ...คุณหนานเกียรติ... ***
ขอบคุณค่ะ ดีจัง ชอบๆ อ่านแล้วอยากไปมากๆ ^^
I like it