การวินิจฉัยโรคจากการทำงาน
เมื่อเร็วๆนี้มีโอกาสไปสัมมนา และเป็นวิทยากรร่วมหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ทั้งภาคกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ในภาคกระทรวงสาธารณสุขคงไม่ต้องกล่าวถึง เนื่องจากดูแลเกี่ยวกับโรคและสุขภาพอยู่แล้ว คงจะพูดถึงภาคกระทรวงแรงงานจะดีกว่า
ปัญหาเดิมที่พบในหมู่ผู้ใช้แรงงานก็คือต้องการให้แพทย์วินิจฉัยว่าใช่หรือไม่ใช่โรคจากการทำงาน ปัญหาเดิมของแพทย์ก็คือวินิจฉัยโรคจากการทำงานแล้วจะมีอะไรตามมาหรือไม่ ในการวินิจฉัยโรคทั่วไปนั้นแพทย์จะวินิจฉัยตามลักษณะพยาธิสภาพ หรือตามสาเหตุ เช่น โรคเส้นเลือดสมองแตก หรือ โรคเลือดออกในสมองส่วนหน้า ซึ่งจำเพาะลงไป และสาเหตุนั้นจะทราบหรือไม่ทราบก็ได้ เช่น อาจจะเกิดจากโรคความดันโลหิตสูงทำให้เกิดหลอดเลือดแดงโป่งพองออกทำให้ผนังเส้นเลือดบริเวณนั้นอ่อนแอ หรือมีโรคไขมันในเส้นเลือดร่วมด้วย ทำให้ผนังเส้นเลือดในบริเวณนั้นมีการซ่อมแซมตัวไม่ดีจึงพองและแตกออกเป็นต้น อย่างไรก็ตามการรักษานั้นเป็นการรักษาภาวะเฉียบพลันและรักษาภาวะเรื้อรัง
ในการวินิจฉัยโรคจากการทำงานนั้น เมื่อผู้ใช้แรงงานมีโรค และไปพบแพทย์ไม่ว่าจะเป็นอาการอะไรก็ตามก็จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนั้น เช่น โรคหอบหืด โรคประสาทส่วนปลายอักเสบ โรคหูตึง แต่จะเกิดจากการทำงานหรือไม่นั้น จะต้องระบุจากข้อมูลที่มีอยู่ ข้อมูลที่มีอยู่นั้นได้จาก
เร็วๆนี้มีประเด็นร้อนในเรื่องโรคจากแอสเบสตอส มีกรณีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ซักประวัติอาชีพ และให้การวินิจฉัยว่าเกิดจากแอสเบสตอส เป็นที่ฮือฮา เนื่องจากไม่เคยมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากแอสเบสตอสในประเทศไทยเลย ทั้งที่มีการใช้เป็นจำนวนมาก มีการอ้างอิงกรณีนี้หลายครั้ง หลังจากนั้นมีแพทย์มหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งได้อ่านบทความที่มีคนตีพิมพ์กรณีนี้ลงในวารสารวิชาการ แล้วเขียนค้านเนื่องจากยังขาดหลักฐานที่เน้นชัดลงไป ปรากฏว่า บริษัทที่มีการใช้แอสเบสตอสมาก นำไปอ้างอิง ว่าแม้แต่แพทย์ด้วยกันเองยังไม่เห็นด้วย เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ ในการวินิจฉัยทางอาชีวเวชศาสตร์นั้นมีสองแบบ เป็นการวินิจฉัยรายกรณี คือการวินิจฉัยโรคแบบคลาสิก คือต้องมีอาการของโรค มีการตรวจที่เข้าได้กับโรค และมีการวินิจฉัยแยกโรค และการวินิจฉัยทางสาธารณสุข หรือ public health diagnosis ซึ่งใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยา โดยใช้การวิจัยในกลุ่มคน มีการเปรียบเทียบ มีการสืบค้นประวัติการสัมผัส แต่เป็นรายกลุ่ม จะเห็นว่าในแวดวงวิชาการนั้นไม่ยอมรับการวินิจฉัยรายกลุ่มแบบนี้ แต่การวินิจฉัยรายกลุ่มนี้สามารถนำไปใช้ในการเฝ้าระวังและป้องกันได้ ดังนั้นจึงยากที่จะให้การวินิจฉัยรายบุคคลได้อย่างถูกต้อง
อาชีวเวชศาสตร์เป็นเช่นนี้ โรคจากการทำงานยังไม่มีรายงานออกมามาก เนื่องจากยังไม่มีการเก็บข้อมูลตามความเป็นจริง ส่วนใหญ่เป็นการเก็บข้อมูลในทางระบาดวิทยา เป็นการประมาณการณ์ จึงไม่มีโรคให้เห็น ถ้าดูการป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคมะเร็งปอด โรคเหล่านี้มีตัวเลขคนที่เป็นชัดเจน มีหลักฐาน มีการศึกษา ลึกลงไปถึงระดับโมเลกุล จนย้อนกลับมาป้องกัน ดังนั้นในอีกมุมหนึ่งการวินิจฉัยโรคจากการทำงานก็มีความสำคัญ จำนวนของคนที่เป็นโรคจากการทำงานนั้นถ้ามีมากขึ้น จากการวินิจฉัยและรายงานโรคที่เป็นจริง ก็สามารถนำมาวางแผนได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าเป็นการประมาณการณ์อยู่ตลอดเวลา ก็จะถูกเหตุการณ์อื่นๆที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนกว่า มาแย่งงบประมาณ แย่งความสำคัญไปหมดสิ้น
acheter <a href="http://www.dofus-fr.com">dofus</a> kamas MMORPG DOFUS FR
" อาชีวเวชศาสตร์เป็นเช่นนี้ โรคจากการทำงานยังไม่มีรายงานออกมามาก เนื่องจากยังไม่มีการเก็บข้อมูลตามความเป็นจริง ส่วนใหญ่เป็นการเก็บข้อมูลในทางระบาดวิทยา เป็นการประมาณการณ์ จึงไม่มีโรคให้เห็น ถ้าดูการป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคมะเร็งปอด โรคเหล่านี้มีตัวเลขคนที่เป็นชัดเจน มีหลักฐาน มีการศึกษา ลึกลงไปถึงระดับโมเลกุล จนย้อนกลับมาป้องกัน ดังนั้นในอีกมุมหนึ่งการวินิจฉัยโรคจากการทำงานก็มีความสำคัญ จำนวนของคนที่เป็นโรคจากการทำงานนั้นถ้ามีมากขึ้น จากการวินิจฉัยและรายงานโรคที่เป็นจริง ก็สามารถนำมาวางแผนได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าเป็นการประมาณการณ์อยู่ตลอดเวลา ก็จะถูกเหตุการณ์อื่นๆที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนกว่า มาแย่งงบประมาณ แย่งความสำคัญไปหมดสิ้น"
เห็นด้วยกับคุณหมอมากเลยค่ะ และได้ข้อมูลความรู้จากบล็อกของคุณหมอเป็นอย่างดีเลยค่ะ