พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, ผศ.ดร. (2553) |
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ
|
นมัสการครับ
ผมว่า "สันติวิธี" ไม่ใช่กฏธรรมชาติ ครับ
กฏธรรมชาตื คือ "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"
"สันติวิธี" จึงเป็นเรื่อง "ทวน" กระแส ที่จะต้องมีการ "ฝึก" กันอย่างจริงจังและเข้มข้น นะครับ
อย่างน้อย ต้องมาจากพึ้นฐานที่สำคัญ คือ "การฟัง" ครับ และ ต้องเป็น "การฟังอย่างลึกซึ้ง"
Khun small man said in #1 ...กฏธรรมชาตื คือ "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"...
A Law of Nature? I think we should observe that germs eat away much larger hosts; people fear mice, snakes, cockroaches, ...
It may be more appropriate to say "the unfit fall preys to fit predators" regardless of size!
ท่าน ผอ. Small Man,
เห็นด้วยว่า สันติวิธีเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับ ผู้ที่อดทน เข้มแข็ง และเป็นแนวทางที่ทวนกระแสกิเลส เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลา ต้องใช้ความนุ่มนวล และอดทน ส่วนใหญ่คนมักจะทนไม่ได้ รอไม่ได้
ด้วยเหตุึนี้ จึงนำไปสู่การเลือกเอาความรุนแรงมาเป็นเครื่องมือแก้ปัญหา โดยมองว่าว เร็วกว่า เด็ดขาดกว่า จัดการปัญหาได้ไวกว่า แต่ความจริงคือ "เมื่อเราแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ทุกอย่างอาจจะดูสงบเงียบ แต่ในความสงบเงียบนั้น ได้ซ่อนร่องรอยของความเกลียดชัง และความอาฆาตมาตรร้ายเอาไว้เพื่อรอเวลาแก้แค้นหรือเปล่า
ถูกต้องตามที่อาจารย์นำเสนอว่า "การฟัง" เป็นเครื่องมือหนึ่งของความสำเร็จ ถึงกระนั้น สิ่งที่แวดล้อม "การฟัง" ย่อมมีสิ่งอื่นๆ หรือตัวแปรอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมากมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทของความขัดแย้งที่เรากำลัีงเผชิญหน้า
ครับพระอาจารย์
"มนุษย์" คงทนรอหรือรอจนทนไม่ไหว..
การเยียวยาด้วยสันติวิธีจึงเป็นเงื่อนไขความจำยอม หรือจำเป็นต้องมี
หรือเป็นเพราะมีเงือนไขของความดีจึงมีความเลวร้าย
หรือเป็นเพราะมีคนดีจึงมีผู้ร้าย
ป.ล
มจร.จะเปิดทำการเเล้ว.
กราบสวัสดีพระอาจารย์