ดินแดนศาลาศิราณี
เรื่องเล่างานมหกรรมการจัดการความรู้ ครั้งที่ ๕ ต่อจากบันทึกที่แล้ว เป็นการเล่าเรียงลำดับของการเข้ารับความรู้ พวกเรารวมทั้งคุณอุ้มบุญ ได้นำตารางกิจกรรมมาดูว่าเราจะไปเรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง ฉันเสนอว่า "ศาลาศิราณี" ความรู้สึกลึก ๆ นั้นค่อนข้างเกรงใจคุณอุ้มบุญมาก เพราะไม่ทราบว่าคุณอุ้มบุญจะชอบเหมือนฉันไหม อีกอย่างหนึ่งฉันได้กระเตงหลานชายตัวน้อยอายุ ๗ ขวบไปด้วย
ขณะที่ฉันยืนทักทายกับคุณอุ้มบุญอยู่ที่หน้าห้องลงทะเบียน เพียงแต่ได้ยินเสียงของอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ คนไร้กรอบ ฉันรีบหันขวับและวิ่งเข้าไปกอดด้านหลังท่าน มีผู้จับภาพได้ทันที หลังจากที่ทักทายและถ่ายภาพแล้ว คุยกันไม่เพียงกี่คำก็เหมือนได้อ่านหนังสือเกินกว่าร้อยเล่ม ฉันบอกให้ท่านทราบว่าจะรอเข้าห้อง "ศาลาศิราณี"
ฉันรู้จักท่านผ่านตัวหนังสือมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นตำราด้านการวิจัย ตำราด้านการบริหารจัดการ และหนังสือที่ถ่ายทอดออกมา "อยู่กับปัจจุบัน" แบบฉบับของความเป็นคนไร้กรอบ และได้พบตัวจริงเสียงจริงที่สวนป่ามหาชีวาลัยอิสาน บ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อ ๒ ปีก่อน และสื่อสารติดต่อกับอาจารย์ผ่านเว็ปไซท์บ้าง และ Facebook บ้าง รวมทั้งครั้งนี้ได้พบตัวจริงอีกครั้ง จึงได้กอดท่านด้วย "ความคารวะและศรัทธาอย่างจริงใจ" ฉันอ่านหนังสือของท่านทุกเล่มที่วางตลาดและเล่มสุดท้ายที่ไม่วางตลาดคือ "ผู้นำสี่ทิศ" ศาสตร์แห่งการค้นหาตัวเอง กำลังจะสั่งซื้อหลายสิบเล่มเพื่อนำไปเป็นของขวัญปีใหม่แก่ "นักบริหารรุ่นใหม่" และเพื่อน ๆ
เมื่อท่านหันกลับมาท่านทักทายฉันว่า "พี่ครูคิม ขอแสดงความดีใจด้วยนะ ที่ได้เลือกทางให้กับตัวเอง จะได้ทำอะไร ๆ ตามที่อยากจะทำ" ฉันได้ชวนคุณอุ้มบุญมาถ่ายภาพกับอาจารย์ด้วย อาจารย์กำกับแอ๊คด้วย
ก่อนเข้าห้อง "ศาลาศิราณี" พวกเราได้พบกับอาจารย์อีกครั้ง ทำให้ฉันได้หนังสือ "ผู้นำสี่ทิศ" มาอ่าน อาจารย์หันมาบอกพวกเรา "มีปัญหาอะไรให้เขียนแล้วติดไว้บนบอร์ด แล้วท่านจะกลับมาตอบ"
คำถามของฉันค่อนข้างจะกำกวมและเป็นประเด็นหรือกระทู้มากกว่าคำถามที่ต้องการคำตอบส่วนตัว "การจัดการตัวเองในการอยู่กับปัจจุบันและการแบ่งปันอย่างมีหัวใจ" แต่ไม่มีโอกาสได้กลับไปอ่านคำตอบของอาจารย์
ดินแดน "ศาลาศิราณี" ได้พบกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด เป็นผู้ดำเนินรายการ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเสียงและเห็นตัวจริงของท่าน ไกล ๆ บนเวทีซึ่งห่างจากที่ฉันนั่งอยู่ประมาณ ๖๐ เมตร
ฉันรู้จักอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ผ่านตัวหนังสือ งานแปล OSHO มาทุกเล่มไม่เคยขาด คราวนี้ได้ติดมือมาอีก ๓ เล่มคือ "สปาอารมณ์ ดีไซน์รัก และ เต๋ามรรควิถีที่ไร้เส้นทาง" กำลังเริ่มอ่านอยู่ค่ะ บุคลิกภาพของอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ฯและอาจารย์วรภัทร ฯ หนุ่มและสมาร์ทกว่าในภาพหรือในจอมาก
อาจารย์ ดร.ประพนธ์ฯ เริ่มคำถามแรกว่า "ใครไม่รู้จักศิราณีหรือสีน้ำบ้าง" แต่ไม่ใครยกมือ "ศิราณีคลี่คลายปัญหารัก" ฉันเคยอ่านแต่จำไม่ได้ว่าอ่านจากนิตยสารอะไร ส่วน "สีน้ำ" จำไม่ผิดว่าเป็นคอลัมน์หนึ่งในนิตยสารบางกอก เพราะคุณพ่ออ่านนิยายจากบางกอก
นับว่าเป็นดินแดนแห่งความสุข เพราะผู้ดำเนินรายการ วิทยากรและผู้รับฟังหัวเราะและยิ้มไม่หุบ ความรู้ที่พวกเราได้รับเป็นเรื่องของ"ความซึมซับอยู่ภายในใจ" แล้วแต่ว่าใครจะเปิดใจรับ และกลั่นออกมาเป็นความคิดเพื่อปฏิบัติกับตัวเองอย่างผู้มีจิตสาธารณะ ซึ่งการขาดจิตสาธารณะทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม อันเป็นความบกพร่องในการจัดการของสถาบันไหนหนอ...ไม่กล้าเขียนค่ะ
ฉันจำได้หมดทุกถ้อยคำพูด ทุกประเด็นที่รับฟัง เมื่อสรุปออกมาเป็นความคิด (ของฉันเอง) บางส่วนก็อาจเสียจรรยาบรรณต่อการถ่ายทอด คุณมะปรางเปรี้ยว (แต่หวาน) คงจะได้ตัดฉันออกจากสมาชิก GotoKnow จึงขอเล่าเป็นบางตอน..."มีองค์กรหนึ่งรับบุคลากรเข้าทำงาน ปรากฏว่ามีเด็กไทยได้รับเลือกทั้งหมด ๗ คน และทั้ง ๗ คนจบการศึกษามาจากต่างประเทศ เพราะมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกด้วยระบบสัมภาษณ์ที่เน้นจิตสาธารณะ"
แนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในองค์กร คือการให้อภัย ให้กำลังใจ โดยเพาะหัวหน้างานหรือผู้บริหารที่มีอัตตาในตนเอง และภาวะอำนาจนิยมในตัวเองสูงเกินไป ควรให้อภัยประดุจท่านผู้นำเหล่านี้เป็นทารกน้อย โอบอุ้ม ให้กำลังใจหรืออาจสร้างสถานการณ์ตามความเหมาะสมแล้วตัวเองเข้าไปเป็นผู้ประสานหรือฮีโร่น้อย ๆ ... แบบนี้ทำได้ไม่ง่ายเลยเพราะอาจไม่ตรงกับจริตของคนบางคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์ หรือมีนิสัยในการพูดตรงไปตรงมา คงยากอย่างยิ่งที่จะมาเล่นบทบาทนี้
สุดท้ายขอนำข้อสรุปมาฝากท่านผู้อ่านคือ "คนเราทุกคนไม่มีใครหลีกเลี่ยงปัญหาไปได้พ้น แต่ปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นคือบททดสอบที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจ บางคนอาจทำผ่านได้รวดเร็ว บางคนอาจผ่านไปได้ช้าและยากลำบาก เมื่อผ่านพ้นมาได้ควรจะขอบคุณสถานการณ์เหล่านั้น การที่จะแก้ปัญหาหรือก้าวผ่านอุปสรรคใด ๆ ควรมีสติในการไตร่ตรองและใช้ปัญญาอย่างมีวิจารณญาณ"
จิตสาธารณะคือ วินัยที่เป็นคุณธรรมประจำใจ อันเป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อมีการนำออกมาใช้นับวันก็จะเจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้น ทุกคนมีจิตสาธารณะเป็นทุน โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพียงแต่ขาดแบบอย่างหรือผู้นำที่ดี การขาดยอมรับและการส่งเสริมสนับสนุนจากสังคม เมื่อทุกคนมีจิตสาธารณะบ้านเมืองและคนในสังคมก็จะร่มเย็นเป็นสุข
ขณะนั่งฟังที่ดินแดนศิราณีอยู่นั้น คุณอุ้มบุญกระซิบบอกฉันเบา ๆ ว่า "พี่คิมคะ อาจารย์โสภณนั่งอยู่ด้านหลังพี่คิมนะค่ะ" ฉันหันขวับทำเป็นผู้มีกัลยาณมิตรสูง ซะเหลือเกิน "สวัสดีค่ะ อาจารย์โสภณ ใช่ไหมคะ"
คำตอบคือ "เปล่าครับ" ฉันต้องรีบกล่าวขอโทษพร้อมกับหน้ายับกลับที่เดิม ส่วนคุณอุ้มบุญได้กรุณาและป้องกันบาดแผลให้ฉัน "ขอโทษค่ะ อาจารย์มาจากไหนหรือคะ" คำตอบก็คือ "ครับผม ผมมาจากร้อยเอ็ดครับ" ฮา ๆ ๆ ๆ คนบ้านเดียวกันกับคุณอุ้มบุญแต่ทักผิด
ขอบคุณค่ะ...เป็นอีกหนึ่งเวทีในโซนนี้ที่พี่ใหญ่ชื่นชอบมากค่ะ..ดร.วรภัทร โน้มน้าวให้คนทำงาน "รักและเอ็นดูเจ้านาย ดุจดังเฒ่าทารก เพื่อให้เกิดกำลังใจในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นสุข"
รีบเข้ามาจองที่นั่ง คนแห่งความรักก็ต้องชอบศาลานี้แน่นอน ใช่ไหมคะพี่คิม อิ อิ อ่านจนเพลินแบบฉบับฮาและน่ารักเลยค่ะพี่คิม มาฮาตรงทักอาจารย์โสภณ นั่งด้านหลังพี่ในภาพสุดท้ายน่ะรึคะ ๕ ๕ ..
เพิ่งสังเกตว่าอ. ไร้กรอบเปลี่ยนหมวกอีกแล้ว คราก่อนที่เจอสวมหมวกคาวบอย ..
พี่คิมน่ารัก สปาอารมณ์ ดีไซน์รัก และ เต๋ามรรควิถีที่ไร้เส้นทาง รออ่านเล่มสุดท้ายน่าสนใจ ขอบคุณค่ะ
บันทึกนี้พี่คิมเขียนดีจังเลยนะครับ อ่านก็เพลิน มุมมองหลากหลาย กว้าง และสิ่งที่นำมาแบ่งปันก็ให้แรงคิดมากทุกแง่มุมเลยครับ
อีกอย่างที่ชอบมากเลยคือที่พี่คิมพาหลานตัวน้อยไปร่วมงานอย่างนี้ด้วยแน่ะครับ เป็นการให้ประสบการณ์ชีวิตแก่เด็กๆที่ดีมากจริงๆครับ แล้วหลานก็ฉลาดสังคมนะครับ เด็กวัยขนาดนี้ พามาร่วมกิจกรรมอย่างนี้ได้และไม่ทำให้เราป่วนนี่ ต้องนับว่าพื้นฐานจิตใจเขาดีนะครับ
-สวัสดีครับยายคิม....
-สบายดีนะครับ...
-ดีใจ...ที่ได้ไปร่วมงานด้วย....จริง ๆ ครับ..
-แล้วจะไปเริ่มติดตามงานใน ตอน 1 ก่อนนะครับ....5555
-วันนี้ไปร่วมงานเกี่ยวข้าวชุมชนชื่อลานมา...ครับ.
-เก็บภาพมาฝาก..
สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา หรือเจ้านาย ถูกระบบคัดเลือกมาคือ "เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะสูง ครองตน ครองคน ครองงาน ภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิฐาน พร้อมคุณธรรมพรหมวิหาร ๔"
น้องว่า...จะต้องมีเมตตาธรรมสูง โอบอุ้ม ปกป้อง ดูแล ช่วยเหลือ และมีความยุติธรรมต่อผู้ร่วมงาน ถ้าไม่รู้หรือรู้น้อยก็ต้องจัดการกับตัวเองก่อน ไม่เช่นนั้นจะจัดการกับองค์กรได้อย่างไรคะ
แต่ที่อาจารย์วรภัทรลก่าวนั้น น้องเข้าใจว่า "การการปฏิบัติเพื่อออมชอม
ปัญหา" มากกว่านะคะอาจารย์พูดรุนแรงมาก แต่นิสัยส่วนตัวอาจารย์เป็นคนอ่อนโยนนิ่มนวล เพื่อต้องการให้คนฟังได้สติเร็ว ๆ ก็ดีนะคะ คนที่เคยฟังครั้งแรกอาจจะรับไม่ได้นะคะ
ด้วยรักและคิดถึงพี่ใหญ่ค่ะ
สวัสดีค่ะน้องpoo
การบรรยายของอาจารย์ทั้งสองท่าน เหมือนเราอ่านหนังสือค่ะ แต่ที่นี่มีเฮฮาเสียงสด ๆได้รับฟังความคิดที่เป็นปัจจุบัน บางตอนบางประเด็นก็มันมากค่ะ
ฝากภาพหมวกใบเดิม ปีกกว้างกว่าหน่อยค่ะ สำหรับหนังสือรู้สึกว่า "โชคดีที่ได้อ่าน" ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ขอขอบคุณค่ะ ตอนนี้พี่คิมเป็นชาวบ้านแล้ว กล้าเขียนในเรื่องที่ตัวเองคิดมากขึ้นค่ะ เวลาในแต่ละแดนพี่คิมว่าน้อยไปหน่อยนะคะ อย่างน้อยต้องให้ผู้ฟังมีโอกาสซักถามประเด็นที่เป็นเงื่อนไข
คนที่เขาไม่เคยรู้จักอาจารย์วรภัทรฯ เขาอาจจะคิดว่าพูดรุนแรงมากไป แต่พี่คิมเคยฟังและนั่งล้อมวงกันมาจนโต้รุ่งแล้วค่ะ เด็ก ๆ วัยรุ่นนักเรียนของพี่คิมยังติดใจ นำคำสอนมาคิดและปฏิบัติต่อไปค่ะ
น้องออโต้นั้น พี่คิมกำลังสะสมภาพ และจัดทำสมุดภาพให้เขาเขียนบรรยายว่าใครเป็นใคร รู้สึกอย่างไร จะทำเป็นหนังสือทำมือค่ะ
น้องออโต้เคยไปออกค่ายเยาวชนกับพี่คิมที่บ้านมูเซอดำ ห้วยปลาหลด แม่สอดมาแล้วค่ะ บอกว่าต่อไปภาคเหนือภาคใต้จะไปทุกแห่งค่ะ
ความทางฉลาดสังคม เป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหา แต่ภาวะการสร้างด้านพื้นฐานยังไม่เข้มแข็งค่ะ เพราะยังมีการแข่งขัน การประกวดกันอยู่ไม่หยุดหย่อน
สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง
ต้องกลับไปอ่านบันทึกก่อนหน้านี้นะคะ ว่าพี่คิมกล่าวถึงเกษตรกำแพงเพชรว่าอย่างไรบ้าง หากไม่จริงก็ไปคัดค้านนะคะ หากจริงหรือขาดตกก็โปรดไปเติมเต็ม (ที่) เลยนะคะ
พี่คิมจะไปชมลานนวดข้าวค่ะ
พี่คิมนะพี่คิม...อิจฉาจัง....555+..ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ
ด้วยรักและคิดถึงค่ะ...
สวัสดีค่ะมาตายี
พี่คิมก็อิจฉาคนอื่น ๆ ที่เขาไปร่วมกิจกรรมทั้ง ๒ วันค่ะ เสียดายมาก ๆ เลย ขอขอบคุณที่มาทักทายและตามอ่านทุกบันทึกค่ะ
สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima
ขอขอบคุณค่ะ หัวใจนุ่ม ๆ น่ารักจัง นอนหลับฝันดีนะคะ
เสียดายไม่ได้พบนักเขียนคนโปรด ดร วรภัทร ภู่เจริญ
เคยเอาคำคมท่านไปเล่าให้เพื่อนที่เรียนด้วยกันว่า "จงเป็นพญาอินทรีย์ อย่าเป็นนกกระจอก"
เรียนพี่คิมที่นับถือ
สวัสดีค่ะพี่คิม
แวะมาอ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากมาย
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ผอ.พรชัย
ท่านพูดรุนแรงมาก แต่โดยแท้แล้วท่านเป็นคนอ่อนโยนมากค่ะ การพูดรุนแรงเพราะท่านอยากให้คนฟังตระหนักและมีสติเกิดขึ้นเร็ว ๆนั่นเอง
สวัสดีค่ะน้องคุณยาย
ความจริงแล้วมีอะไรเยอะแยะกว่านี้ค่ะ แต่หัวพี่คิมเก็บได้แค่นี้เอง เพราะเป็นคนชอบฟังมากกว่าชอบจดค่ะ
สวัสดีค่ะครูเมี้ยว
ดีใจจังที่ครูเมี้ยวกลับมาทักทายกันอีก ขอเป็นกำลังใจให้กับงานสอนนะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ด้วย กิจกรรมในบันทึกนี้พี่คิมได้ไปร่วมแค่วันแรกเท่านั้นเองค่ะ
เรียนครูคิมครับ
คนที่นั่งข้างหลังมาจากร้อยเอ็ดนั่น เหมือนอ.โสภณ ในอีก4-5ปี ข้างหน้าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงพุง
อ.วรภัทร์ ชอบความเก่ง "ทางโลกและทางธรรม" ของท่านครับ ฝากแสดงความนับถือด้วย ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ติดตามงานการพูดผ่านทีวี และอ่านหนังสือ
คุณอุ้มบุญนี่เอง ทำพี่สาวเรา ใบหน้ามีสิว (เล็กน้อย) อิอิ
สวัสดีครับ พี่ครูคิม
ไม่แน่ใจพี่จำกันได้หรือเปล่าครับ หายไปนานกลับมาเรียนรู้จากพี่รู้คิมต่อนะครับ
รุนแรงในความรู้สึกครั้งแรกเลยครับ
อืมม ๆๆๆๆ ผมควรพิจารณาตัวเองบ้างนะเนี่ย
555
สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ เปียสนิท
ขอขอบคุณค่ะ มาชมมุขหน้าแตก ฮา ๆ ๆ ๆ (ในใจก็พอนะคะ) ทั้งอาจารย์วรภัทร และอาจารย์ประพนธ์ พี่คิมติดตามหนังสือของท่านมาตลอด
ส่วนอาจารย์วรภัทร ถือเป็นการคุ้นเคยมาก่อนค่ะ ท่านสุดยอดทั้งทางโลกและทางธรรม มีคำนำหน้าทางวิชาการที่สมตัวนะคะ
ป่านนี้คนเขิน...ยังไม่มาชมภาพของตัวเองเลยนะคะ น้องอุ้มบุญตัวสูงและน่ารัก ใจดี สวยกว่าในภาพ ผิวพรรณสดใสมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเดชา
จำได้เสมอค่ะ ที่บ้านโดนน้ำท่วมหรือพายุไหมคะ ขอเป็นกำลังใจในการฟื้นฟูให้กับพี่น้องชาวใต้นะคะ อย่าลืมกลับมาเขียนบันทึกอีก ขอขอบคุณที่มาทักทาย ขอให้ครอบครัวมีความสุขมาก ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn
ท่านพูดรุนแรงมากค่ะ คนที่ไม่เคยฟังหรือติดตามท่านมาก่อน คงจะอึ้งมาก ๆ แต่พี่คิมเข้าใจ เพราะท่านเป็นคนอ่อนโยน ยิ้มบานแบบเป็นสุขตลอดเวลา การคุยหรือสนทนานอกรอบท่านกันเองค่ะ
เด็กนักเรียนของพี่คิม ทั้งชายและหญิงยังติดใจและนำคำสอนของท่านไปปฏิบัติค่ะ ส่วนตัวเองและครอบคลุมไปยังคนในครอบครัวอีกค่ะ
ท่านต่อต้านระบบการสอบคัดเลือก และการสอนสาขาเก่งทางเดียว แต่จบมาทำอย่างอื่นไม่ได้ ท่านต้องการให้คนมีจริยธรรมในตัวเองมาก ๆ ค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์ค่ะ สู้ ๆ ๆ ๆ ๆ นะคะ
สวัสดีค่ะน้องบุษรา
ขอขอบคุณค่ะ ที่มาเตือนว่าเป็นวันศุกร์ ไม่เช่นนั้นไม่ทราบเลยนะคะวันนี้เป็นวันอะไร เพราะตั้งแต่ออกมาอยู่บ้านก็ไม่ใส่ใจวันนั้นวันนี้สักเท่าไร ขอเป็นกำลังใจให้น้องเช่นกันค่ะ
สวัสดีค่ะ...พี่คิม...
สวัสดีค่ะน้องบุษยมาศ
พี่คิมถือเป็นการเรียนรู้ค่ะ อยู่ว่าง ๆ ก็เปล่าประโยชน์ พยายามหากิจกรรมและเรียนรู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ค่ะ
น้องสบายดีนะคะ อากาศที่ทะเลแก้วคงสดชื่น คงไม่มีมลพิษนะคะ
น้องหน้าแตกยังไม่พอ ยังเอาหน้าน้องมาขายอีกนะคะพี่คิมขา..... ( แซวเล่น)
นึกถึงทีไร อดขำไม่ได้เลย HA HA HA......
พี่คิมบันทึกได้ละเอียดจัง....
สักวันเราต้องได้เจอคุณครูใหญ่นะพี่คิม
สวัสดีค่ะน้องโอ✿อุ้มบุญ✿
พี่คิมขอเวลาให้ทางนี้จัดการว่าขอเวทีให้ปลายกุมภาพันธ์ค่ะ คงได้เจอกันนะคะ ติดตามไปดูกิจกรรมภาพที่บันทึกน้องมะปรางด้วยนะคะ
ที่นั่นก็ประกาศขายไปแล้วด้วย....ฮา ๆ ๆ ๆ ขำกร๊าก ๆ ๆ ๆ