๔.งานมหกรรมการจัดการความรู้ ๕ (๔)


ดินแดนศาลาศิราณี        

      เรื่องเล่างานมหกรรมการจัดการความรู้ ครั้งที่ ๕ ต่อจากบันทึกที่แล้ว เป็นการเล่าเรียงลำดับของการเข้ารับความรู้  พวกเรารวมทั้งคุณอุ้มบุญ  ได้นำตารางกิจกรรมมาดูว่าเราจะไปเรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง  ฉันเสนอว่า "ศาลาศิราณี" ความรู้สึกลึก ๆ นั้นค่อนข้างเกรงใจคุณอุ้มบุญมาก  เพราะไม่ทราบว่าคุณอุ้มบุญจะชอบเหมือนฉันไหม อีกอย่างหนึ่งฉันได้กระเตงหลานชายตัวน้อยอายุ ๗ ขวบไปด้วย

        ขณะที่ฉันยืนทักทายกับคุณอุ้มบุญอยู่ที่หน้าห้องลงทะเบียน เพียงแต่ได้ยินเสียงของอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ คนไร้กรอบ ฉันรีบหันขวับและวิ่งเข้าไปกอดด้านหลังท่าน มีผู้จับภาพได้ทันที   หลังจากที่ทักทายและถ่ายภาพแล้ว คุยกันไม่เพียงกี่คำก็เหมือนได้อ่านหนังสือเกินกว่าร้อยเล่ม ฉันบอกให้ท่านทราบว่าจะรอเข้าห้อง "ศาลาศิราณี"

        ฉันรู้จักท่านผ่านตัวหนังสือมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นตำราด้านการวิจัย ตำราด้านการบริหารจัดการ และหนังสือที่ถ่ายทอดออกมา "อยู่กับปัจจุบัน" แบบฉบับของความเป็นคนไร้กรอบ  และได้พบตัวจริงเสียงจริงที่สวนป่ามหาชีวาลัยอิสาน บ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์  ที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์  เมื่อ ๒ ปีก่อน  และสื่อสารติดต่อกับอาจารย์ผ่านเว็ปไซท์บ้าง และ Facebook บ้าง รวมทั้งครั้งนี้ได้พบตัวจริงอีกครั้ง  จึงได้กอดท่านด้วย "ความคารวะและศรัทธาอย่างจริงใจ" ฉันอ่านหนังสือของท่านทุกเล่มที่วางตลาดและเล่มสุดท้ายที่ไม่วางตลาดคือ "ผู้นำสี่ทิศ" ศาสตร์แห่งการค้นหาตัวเอง กำลังจะสั่งซื้อหลายสิบเล่มเพื่อนำไปเป็นของขวัญปีใหม่แก่ "นักบริหารรุ่นใหม่" และเพื่อน ๆ

          เมื่อท่านหันกลับมาท่านทักทายฉันว่า "พี่ครูคิม ขอแสดงความดีใจด้วยนะ ที่ได้เลือกทางให้กับตัวเอง จะได้ทำอะไร ๆ ตามที่อยากจะทำ" ฉันได้ชวนคุณอุ้มบุญมาถ่ายภาพกับอาจารย์ด้วย  อาจารย์กำกับแอ๊คด้วย

ด้วยความศรัทธา

            ก่อนเข้าห้อง "ศาลาศิราณี" พวกเราได้พบกับอาจารย์อีกครั้ง  ทำให้ฉันได้หนังสือ "ผู้นำสี่ทิศ" มาอ่าน  อาจารย์หันมาบอกพวกเรา "มีปัญหาอะไรให้เขียนแล้วติดไว้บนบอร์ด  แล้วท่านจะกลับมาตอบ"

            คำถามของฉันค่อนข้างจะกำกวมและเป็นประเด็นหรือกระทู้มากกว่าคำถามที่ต้องการคำตอบส่วนตัว  "การจัดการตัวเองในการอยู่กับปัจจุบันและการแบ่งปันอย่างมีหัวใจ" แต่ไม่มีโอกาสได้กลับไปอ่านคำตอบของอาจารย์

 

Large_dsc04581 

              

         ดินแดน "ศาลาศิราณี"  ได้พบกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด  เป็นผู้ดำเนินรายการ  เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเสียงและเห็นตัวจริงของท่าน ไกล ๆ บนเวทีซึ่งห่างจากที่ฉันนั่งอยู่ประมาณ ๖๐ เมตร

        ฉันรู้จักอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ผ่านตัวหนังสือ งานแปล OSHO มาทุกเล่มไม่เคยขาด คราวนี้ได้ติดมือมาอีก ๓ เล่มคือ "สปาอารมณ์  ดีไซน์รัก และ เต๋ามรรควิถีที่ไร้เส้นทาง"  กำลังเริ่มอ่านอยู่ค่ะ  บุคลิกภาพของอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ฯและอาจารย์วรภัทร ฯ หนุ่มและสมาร์ทกว่าในภาพหรือในจอมาก

          อาจารย์ ดร.ประพนธ์ฯ เริ่มคำถามแรกว่า "ใครไม่รู้จักศิราณีหรือสีน้ำบ้าง" แต่ไม่ใครยกมือ  "ศิราณีคลี่คลายปัญหารัก" ฉันเคยอ่านแต่จำไม่ได้ว่าอ่านจากนิตยสารอะไร  ส่วน "สีน้ำ" จำไม่ผิดว่าเป็นคอลัมน์หนึ่งในนิตยสารบางกอก  เพราะคุณพ่ออ่านนิยายจากบางกอก

        นับว่าเป็นดินแดนแห่งความสุข เพราะผู้ดำเนินรายการ วิทยากรและผู้รับฟังหัวเราะและยิ้มไม่หุบ  ความรู้ที่พวกเราได้รับเป็นเรื่องของ"ความซึมซับอยู่ภายในใจ"  แล้วแต่ว่าใครจะเปิดใจรับ  และกลั่นออกมาเป็นความคิดเพื่อปฏิบัติกับตัวเองอย่างผู้มีจิตสาธารณะ  ซึ่งการขาดจิตสาธารณะทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม อันเป็นความบกพร่องในการจัดการของสถาบันไหนหนอ...ไม่กล้าเขียนค่ะ

          ฉันจำได้หมดทุกถ้อยคำพูด ทุกประเด็นที่รับฟัง  เมื่อสรุปออกมาเป็นความคิด (ของฉันเอง) บางส่วนก็อาจเสียจรรยาบรรณต่อการถ่ายทอด  คุณมะปรางเปรี้ยว (แต่หวาน) คงจะได้ตัดฉันออกจากสมาชิก GotoKnow   จึงขอเล่าเป็นบางตอน..."มีองค์กรหนึ่งรับบุคลากรเข้าทำงาน  ปรากฏว่ามีเด็กไทยได้รับเลือกทั้งหมด ๗ คน และทั้ง ๗ คนจบการศึกษามาจากต่างประเทศ  เพราะมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกด้วยระบบสัมภาษณ์ที่เน้นจิตสาธารณะ"

            แนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในองค์กร คือการให้อภัย ให้กำลังใจ โดยเพาะหัวหน้างานหรือผู้บริหารที่มีอัตตาในตนเอง และภาวะอำนาจนิยมในตัวเองสูงเกินไป  ควรให้อภัยประดุจท่านผู้นำเหล่านี้เป็นทารกน้อย โอบอุ้ม ให้กำลังใจหรืออาจสร้างสถานการณ์ตามความเหมาะสมแล้วตัวเองเข้าไปเป็นผู้ประสานหรือฮีโร่น้อย ๆ ... แบบนี้ทำได้ไม่ง่ายเลยเพราะอาจไม่ตรงกับจริตของคนบางคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์ หรือมีนิสัยในการพูดตรงไปตรงมา คงยากอย่างยิ่งที่จะมาเล่นบทบาทนี้

           สุดท้ายขอนำข้อสรุปมาฝากท่านผู้อ่านคือ "คนเราทุกคนไม่มีใครหลีกเลี่ยงปัญหาไปได้พ้น  แต่ปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นคือบททดสอบที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจ  บางคนอาจทำผ่านได้รวดเร็ว บางคนอาจผ่านไปได้ช้าและยากลำบาก เมื่อผ่านพ้นมาได้ควรจะขอบคุณสถานการณ์เหล่านั้น  การที่จะแก้ปัญหาหรือก้าวผ่านอุปสรรคใด ๆ ควรมีสติในการไตร่ตรองและใช้ปัญญาอย่างมีวิจารณญาณ"

          จิตสาธารณะคือ วินัยที่เป็นคุณธรรมประจำใจ อันเป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจ  เมื่อมีการนำออกมาใช้นับวันก็จะเจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้น ทุกคนมีจิตสาธารณะเป็นทุน  โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพียงแต่ขาดแบบอย่างหรือผู้นำที่ดี การขาดยอมรับและการส่งเสริมสนับสนุนจากสังคม  เมื่อทุกคนมีจิตสาธารณะบ้านเมืองและคนในสังคมก็จะร่มเย็นเป็นสุข 

           งานนี้มีหน้าแตกยับแต่ไม่เยิน 

              ขณะนั่งฟังที่ดินแดนศิราณีอยู่นั้น  คุณอุ้มบุญกระซิบบอกฉันเบา ๆ ว่า "พี่คิมคะ อาจารย์โสภณนั่งอยู่ด้านหลังพี่คิมนะค่ะ"  ฉันหันขวับทำเป็นผู้มีกัลยาณมิตรสูง ซะเหลือเกิน "สวัสดีค่ะ อาจารย์โสภณ ใช่ไหมคะ"

           คำตอบคือ "เปล่าครับ" ฉันต้องรีบกล่าวขอโทษพร้อมกับหน้ายับกลับที่เดิม   ส่วนคุณอุ้มบุญได้กรุณาและป้องกันบาดแผลให้ฉัน "ขอโทษค่ะ อาจารย์มาจากไหนหรือคะ"  คำตอบก็คือ  "ครับผม ผมมาจากร้อยเอ็ดครับ"  ฮา ๆ ๆ ๆ คนบ้านเดียวกันกับคุณอุ้มบุญแต่ทักผิด

เขิน....หลังจากหน้าแตก

 ท่านใดเห็นอาจารย์โสภณ เปียสนิท ....บ้างคะ

หมายเลขบันทึก: 410263เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2010 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 08:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

ขอบคุณค่ะ...เป็นอีกหนึ่งเวทีในโซนนี้ที่พี่ใหญ่ชื่นชอบมากค่ะ..ดร.วรภัทร โน้มน้าวให้คนทำงาน "รักและเอ็นดูเจ้านาย ดุจดังเฒ่าทารก เพื่อให้เกิดกำลังใจในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นสุข"

 

รีบเข้ามาจองที่นั่ง คนแห่งความรักก็ต้องชอบศาลานี้แน่นอน ใช่ไหมคะพี่คิม อิ อิ อ่านจนเพลินแบบฉบับฮาและน่ารักเลยค่ะพี่คิม มาฮาตรงทักอาจารย์โสภณ นั่งด้านหลังพี่ในภาพสุดท้ายน่ะรึคะ ๕ ๕ ..

เพิ่งสังเกตว่าอ. ไร้กรอบเปลี่ยนหมวกอีกแล้ว คราก่อนที่เจอสวมหมวกคาวบอย ..

พี่คิมน่ารัก สปาอารมณ์ ดีไซน์รัก และ เต๋ามรรควิถีที่ไร้เส้นทาง รออ่านเล่มสุดท้ายน่าสนใจ ขอบคุณค่ะ

บันทึกนี้พี่คิมเขียนดีจังเลยนะครับ อ่านก็เพลิน มุมมองหลากหลาย กว้าง และสิ่งที่นำมาแบ่งปันก็ให้แรงคิดมากทุกแง่มุมเลยครับ

                         

อีกอย่างที่ชอบมากเลยคือที่พี่คิมพาหลานตัวน้อยไปร่วมงานอย่างนี้ด้วยแน่ะครับ เป็นการให้ประสบการณ์ชีวิตแก่เด็กๆที่ดีมากจริงๆครับ แล้วหลานก็ฉลาดสังคมนะครับ เด็กวัยขนาดนี้ พามาร่วมกิจกรรมอย่างนี้ได้และไม่ทำให้เราป่วนนี่ ต้องนับว่าพื้นฐานจิตใจเขาดีนะครับ

-สวัสดีครับยายคิม....

-สบายดีนะครับ...

-ดีใจ...ที่ได้ไปร่วมงานด้วย....จริง ๆ ครับ..

-แล้วจะไปเริ่มติดตามงานใน ตอน 1 ก่อนนะครับ....5555

-วันนี้ไปร่วมงานเกี่ยวข้าวชุมชนชื่อลานมา...ครับ.

-เก็บภาพมาฝาก..

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา หรือเจ้านาย  ถูกระบบคัดเลือกมาคือ "เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะสูง ครองตน ครองคน ครองงาน ภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิฐาน  พร้อมคุณธรรมพรหมวิหาร ๔"

น้องว่า...จะต้องมีเมตตาธรรมสูง โอบอุ้ม ปกป้อง ดูแล ช่วยเหลือ และมีความยุติธรรมต่อผู้ร่วมงาน  ถ้าไม่รู้หรือรู้น้อยก็ต้องจัดการกับตัวเองก่อน ไม่เช่นนั้นจะจัดการกับองค์กรได้อย่างไรคะ

แต่ที่อาจารย์วรภัทรลก่าวนั้น  น้องเข้าใจว่า "การการปฏิบัติเพื่อออมชอม
ปัญหา
" มากกว่านะคะ

อาจารย์พูดรุนแรงมาก แต่นิสัยส่วนตัวอาจารย์เป็นคนอ่อนโยนนิ่มนวล  เพื่อต้องการให้คนฟังได้สติเร็ว ๆ ก็ดีนะคะ คนที่เคยฟังครั้งแรกอาจจะรับไม่ได้นะคะ

ด้วยรักและคิดถึงพี่ใหญ่ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องpoo

การบรรยายของอาจารย์ทั้งสองท่าน เหมือนเราอ่านหนังสือค่ะ  แต่ที่นี่มีเฮฮาเสียงสด ๆได้รับฟังความคิดที่เป็นปัจจุบัน  บางตอนบางประเด็นก็มันมากค่ะ

ฝากภาพหมวกใบเดิม ปีกกว้างกว่าหน่อยค่ะ  สำหรับหนังสือรู้สึกว่า "โชคดีที่ได้อ่าน" ค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์

ขอขอบคุณค่ะ ตอนนี้พี่คิมเป็นชาวบ้านแล้ว กล้าเขียนในเรื่องที่ตัวเองคิดมากขึ้นค่ะ  เวลาในแต่ละแดนพี่คิมว่าน้อยไปหน่อยนะคะ  อย่างน้อยต้องให้ผู้ฟังมีโอกาสซักถามประเด็นที่เป็นเงื่อนไข

คนที่เขาไม่เคยรู้จักอาจารย์วรภัทรฯ เขาอาจจะคิดว่าพูดรุนแรงมากไป  แต่พี่คิมเคยฟังและนั่งล้อมวงกันมาจนโต้รุ่งแล้วค่ะ  เด็ก ๆ วัยรุ่นนักเรียนของพี่คิมยังติดใจ  นำคำสอนมาคิดและปฏิบัติต่อไปค่ะ

น้องออโต้นั้น  พี่คิมกำลังสะสมภาพ  และจัดทำสมุดภาพให้เขาเขียนบรรยายว่าใครเป็นใคร รู้สึกอย่างไร  จะทำเป็นหนังสือทำมือค่ะ

น้องออโต้เคยไปออกค่ายเยาวชนกับพี่คิมที่บ้านมูเซอดำ ห้วยปลาหลด แม่สอดมาแล้วค่ะ บอกว่าต่อไปภาคเหนือภาคใต้จะไปทุกแห่งค่ะ

ความทางฉลาดสังคม  เป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหา  แต่ภาวะการสร้างด้านพื้นฐานยังไม่เข้มแข็งค่ะ  เพราะยังมีการแข่งขัน การประกวดกันอยู่ไม่หยุดหย่อน

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ต้องกลับไปอ่านบันทึกก่อนหน้านี้นะคะ ว่าพี่คิมกล่าวถึงเกษตรกำแพงเพชรว่าอย่างไรบ้าง  หากไม่จริงก็ไปคัดค้านนะคะ  หากจริงหรือขาดตกก็โปรดไปเติมเต็ม (ที่) เลยนะคะ

พี่คิมจะไปชมลานนวดข้าวค่ะ

พี่คิมนะพี่คิม...อิจฉาจัง....555+..ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ

ด้วยรักและคิดถึงค่ะ...

สวัสดีค่ะมาตายี

พี่คิมก็อิจฉาคนอื่น ๆ ที่เขาไปร่วมกิจกรรมทั้ง ๒ วันค่ะ เสียดายมาก ๆ เลย  ขอขอบคุณที่มาทักทายและตามอ่านทุกบันทึกค่ะ

สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima

ขอขอบคุณค่ะ หัวใจนุ่ม ๆ น่ารักจัง  นอนหลับฝันดีนะคะ

เสียดายไม่ได้พบนักเขียนคนโปรด ดร วรภัทร ภู่เจริญ

เคยเอาคำคมท่านไปเล่าให้เพื่อนที่เรียนด้วยกันว่า "จงเป็นพญาอินทรีย์ อย่าเป็นนกกระจอก"

เรียนพี่คิมที่นับถือ

  • น่าสนุกจังเลยนะคะ
  • ขอให้มีความสุขทุกๆวันค่ะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

แวะมาอ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากมาย

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ผอ.พรชัย

ท่านพูดรุนแรงมาก  แต่โดยแท้แล้วท่านเป็นคนอ่อนโยนมากค่ะ การพูดรุนแรงเพราะท่านอยากให้คนฟังตระหนักและมีสติเกิดขึ้นเร็ว ๆนั่นเอง

สวัสดีค่ะน้องคุณยาย

ความจริงแล้วมีอะไรเยอะแยะกว่านี้ค่ะ แต่หัวพี่คิมเก็บได้แค่นี้เอง  เพราะเป็นคนชอบฟังมากกว่าชอบจดค่ะ

สวัสดีค่ะครูเมี้ยว

ดีใจจังที่ครูเมี้ยวกลับมาทักทายกันอีก  ขอเป็นกำลังใจให้กับงานสอนนะคะ  ขอให้มีความสุขมาก ๆ ด้วย  กิจกรรมในบันทึกนี้พี่คิมได้ไปร่วมแค่วันแรกเท่านั้นเองค่ะ

เรียนครูคิมครับ

คนที่นั่งข้างหลังมาจากร้อยเอ็ดนั่น เหมือนอ.โสภณ ในอีก4-5ปี ข้างหน้าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงพุง

อ.วรภัทร์ ชอบความเก่ง "ทางโลกและทางธรรม" ของท่านครับ ฝากแสดงความนับถือด้วย ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ติดตามงานการพูดผ่านทีวี และอ่านหนังสือ

คุณอุ้มบุญนี่เอง ทำพี่สาวเรา ใบหน้ามีสิว (เล็กน้อย) อิอิ  

สวัสดีครับ พี่ครูคิม

ไม่แน่ใจพี่จำกันได้หรือเปล่าครับ หายไปนานกลับมาเรียนรู้จากพี่รู้คิมต่อนะครับ

รุนแรงในความรู้สึกครั้งแรกเลยครับ

อืมม ๆๆๆๆ ผมควรพิจารณาตัวเองบ้างนะเนี่ย

555

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาทักทายคุณยายคิมยามเช้า ๆ บรรยากาศดี ๆ ค่ะ
  • มีความสุขกับวันศุกร์นะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ 

                                   

สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ เปียสนิท

ขอขอบคุณค่ะ  มาชมมุขหน้าแตก  ฮา ๆ ๆ ๆ (ในใจก็พอนะคะ)  ทั้งอาจารย์วรภัทร และอาจารย์ประพนธ์ พี่คิมติดตามหนังสือของท่านมาตลอด

ส่วนอาจารย์วรภัทร ถือเป็นการคุ้นเคยมาก่อนค่ะ  ท่านสุดยอดทั้งทางโลกและทางธรรม มีคำนำหน้าทางวิชาการที่สมตัวนะคะ

ป่านนี้คนเขิน...ยังไม่มาชมภาพของตัวเองเลยนะคะ  น้องอุ้มบุญตัวสูงและน่ารัก ใจดี สวยกว่าในภาพ ผิวพรรณสดใสมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเดชา

จำได้เสมอค่ะ  ที่บ้านโดนน้ำท่วมหรือพายุไหมคะ  ขอเป็นกำลังใจในการฟื้นฟูให้กับพี่น้องชาวใต้นะคะ  อย่าลืมกลับมาเขียนบันทึกอีก  ขอขอบคุณที่มาทักทาย  ขอให้ครอบครัวมีความสุขมาก ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn

ท่านพูดรุนแรงมากค่ะ  คนที่ไม่เคยฟังหรือติดตามท่านมาก่อน คงจะอึ้งมาก ๆ แต่พี่คิมเข้าใจ เพราะท่านเป็นคนอ่อนโยน  ยิ้มบานแบบเป็นสุขตลอดเวลา  การคุยหรือสนทนานอกรอบท่านกันเองค่ะ

เด็กนักเรียนของพี่คิม  ทั้งชายและหญิงยังติดใจและนำคำสอนของท่านไปปฏิบัติค่ะ ส่วนตัวเองและครอบคลุมไปยังคนในครอบครัวอีกค่ะ

ท่านต่อต้านระบบการสอบคัดเลือก และการสอนสาขาเก่งทางเดียว  แต่จบมาทำอย่างอื่นไม่ได้  ท่านต้องการให้คนมีจริยธรรมในตัวเองมาก ๆ ค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์ค่ะ สู้ ๆ ๆ ๆ ๆ นะคะ

สวัสดีค่ะน้องบุษรา

ขอขอบคุณค่ะ  ที่มาเตือนว่าเป็นวันศุกร์  ไม่เช่นนั้นไม่ทราบเลยนะคะวันนี้เป็นวันอะไร เพราะตั้งแต่ออกมาอยู่บ้านก็ไม่ใส่ใจวันนั้นวันนี้สักเท่าไร  ขอเป็นกำลังใจให้น้องเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะ...พี่คิม...

  • น่าสนุกจังค่ะ...
  • ได้ประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งนะค่ะ...

สวัสดีค่ะน้องบุษยมาศ

พี่คิมถือเป็นการเรียนรู้ค่ะ อยู่ว่าง ๆ ก็เปล่าประโยชน์  พยายามหากิจกรรมและเรียนรู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ค่ะ

น้องสบายดีนะคะ  อากาศที่ทะเลแก้วคงสดชื่น  คงไม่มีมลพิษนะคะ

น้องหน้าแตกยังไม่พอ  ยังเอาหน้าน้องมาขายอีกนะคะพี่คิมขา..... ( แซวเล่น)

นึกถึงทีไร  อดขำไม่ได้เลย HA  HA  HA......

พี่คิมบันทึกได้ละเอียดจัง....

สักวันเราต้องได้เจอคุณครูใหญ่นะพี่คิม

 

สวัสดีค่ะน้องโอ✿อุ้มบุญ✿

พี่คิมขอเวลาให้ทางนี้จัดการว่าขอเวทีให้ปลายกุมภาพันธ์ค่ะ  คงได้เจอกันนะคะ  ติดตามไปดูกิจกรรมภาพที่บันทึกน้องมะปรางด้วยนะคะ

ที่นั่นก็ประกาศขายไปแล้วด้วย....ฮา ๆ ๆ ๆ ขำกร๊าก ๆ ๆ ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท