พร ภิรมย์มีความสามารถสูงทั้งแต่งทั้งร้องเพลงลูกทุ่งทำนองไทยไว้มาก


พร ภิรมย์ หรือบุญสม มีสมวงศ์ หรือพระบุญสม ปุญฺญวํโส หรือชื่อที่ใช้แสดงเป็นพระเอกลิเก “บุญสม อยุธยา” (พ.ศ. ๒๔๗๑-๒๕๕๓) เป็นชาวบ้านไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรลิเกเก่า จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ ๓ มีประสบการณ์ในการเล่นลิเก เขียนบทลิเกได้รับรางวัลชนะเลิศ เล่นงิ้ว ทำขวัญนาค พากย์หนัง เล่นดนตรีไทย ดนตรีจีน ร้องเพลงไทยเดิม ขับเสภา เป็นนักแต่งเพลงนักร้องวงจุฬารัตน์ ตั้งวงดนตรีและวงลิเกเอง ตลอดจนแสดงภาพยนตร์ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และมรณภาพในขณะเป็นพระภิกษุ

พร ภิรมย์มีความสามารถด้านดนตรีไทยมาก ทั้งการบรรเลงและขับร้อง ท่านจึงแต่งเพลงลูกทุ่งทำนองไทยและทำนองสากล ที่ใช้ดนตรีไทยเดิมเป็นพื้นฐาน โดยแต่งเองร้องเองเป็นส่วนใหญ่ มีผลงานบันทึกเสียงประมาณ ๒๐๐ เพลง เพลงของท่านที่เป็นที่นิยมและได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ได้แก่เพลงบัวตูมบัวบาน ดาวลูกไก่ กลับเถิดลูกไทย เห่ฉิมพลี นอกจากนั้นยังมีเพลงดาวจระเข้ วังแม่ลูกอ่อน เป็นต้น

เพลงลูกทุ่งทำนองไทยที่พร ภิรมย์ ขับร้องไว้เท่าที่รวบรวมได้มีดังนี้

(๑) เพลงลมจ๋า เป็นเพลงที่พร ภิรมย์ บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกจากการประพันธ์เอง ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงดาวตะเลง

เนื้อร้องเพลงลมจ๋า

“ลมปากวานแว่วแผ่วโชย อ่อนโรยสำออยอ้อยอิ่งกิ่งไม้ แผ่วครางหวิวโชยปลิวไม้ไกว ดังซ้ำเติมพี่ให้ ครวญวิโยคไม่สร่าง
สายลมพาน้ำค้างพร่างพรม พี่หนาวระทมหมดทาง โอ้ใจนาง โรยร้างรักลา หนีหน้าสิ้นเงา
คืนก่อนนอนเพ้อละเมอคร่ำครวญ ยามห่างอ้างว้างรัญจวน คิดถึงนวลเนื้ออุ่น เคยหนุนแนบทรวงเจ้า หนุนตักเจ้ากลับไม่ยอมให้หนุน พี่ยังง้อแม่คุณ ขอเพียงอุ่นดังครั้งเก่า คอยโลมเล้าเอาใจพนอ ความรักเธอคอยเคล้าคลอ งอนก็ง้อรักเจ้า
แต่นรกหรือไรบันดาล ให้วิมานรักกลายเป็นเศร้า น้องจากไป น้องโกรธใยตัดใจจากกันแปรผันจากเรา ลมลมจ๋าปรานีนะลม จงพัดเอาความภิรมย์ มาให้ชมเหมือนเก่า ขอเพียงหนุนนางเช่นเคยเชยเจ้า อย่าให้เฝ้าคอยฝัน”

http://www.4shared.com/audio/fWeAyKFe/_-___.htm

(๒) เพลงกระท่อมทองกวาว พร ภิรมย์แต่งเองและบันทึกแผ่นเสียงเป็นเพลงที่ ๒ ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงทองกวาว

เนื้อร้องเพลงกระท่อมทองกวาว

“ลมโชยฉิว ปลิวกิ่งไม้ไหวสั่น ดุจดั่งเสียงรำพัน ให้ชวนฝันปรารมณ์
เอื้องดอกน้อย ลอยกลิ่นตามสายลม อบอวลหวนชวนดม ชื่นอารมณ์ไม่วาย
ลมพัดร่วง หอมชื่นทรวง กลีบร่วงกระจาย ช่อพยอม กลิ่นหอมอยู่ไม่คลาย กลิ่นนี้พี่ไม่เคยหน่าย ชวนฝันใฝ่ถึงสาว
กระท่อมน้อย เนินร่มริมสายธาร เปรียบดั่งทิพย์วิมาน ร่มเงาไม้ทองกวาว
นวลเจ้าเอ๋ย พี่ได้เคยพบเจ้า ก่อนเคยเว้าจำนรรจ์ สร้างสวรรค์จากใจ
คำทุกคำ ที่จดจำถ้อยคำให้ไว้ ช่อทองกวาว ดอกพราวอยู่ไสว ที่เคยโน้มดึงมาให้ แซมผมใส่ให้นาง
น้องพี่เอ๋ย พี่ไม่เคยคิดหน่าย พี่ยังรักไม่คลาย ไม่ลืมเนื้อนวลปราง
รักยังฝัน ใจพี่หวังทุกอย่าง กลับมาหมายพบนาง อย่างเคยเว้าเฝ้าวอน
ทูนหัวพี่ หายโกรธพี่เถิดดวงสมร ช่อทองกวาว ดอกพราวอยู่สลอน ดุจวอนสองเราร่วมใจ
ในกระท่อมทองกวาว”

http://www.youtube.com/watch?v=-0ecdE3nzFc&feature=related

(๓) เพลงแววตา พร ภิรมย์ แต่ง/ร้อง โดยดัดแปลงทำนองมาจากเพลงแขกภารตะสองชั้น (หรือเพลงแขกอะเดวัง ทำนองเก่า ที่ศิลปินลิเกใช้ในการออกแขกไหว้ครูก่อนเริ่มการแสดง)

เนื้อร้องเพลงแววตา

"ตาตาตาจ้องมองตา อุราหวั่นไหว พี่ปวดใจเหลือทนเมื่อยามสบตา ใจหายวาบกลัวน้องสาปสุดครวญหา มองสองตาเลยมิกล้าเอ่ยน้ำคำ
มองมองมองพี่มองน้องใจน้องช่างดำ อยากฝากคำสักคำเมื่อยามพี่มอง กลัวน้องโกรธกลัวรักเลิกเธอหม่นหมอง จึงเฝ้ามองปองรักฝากจากสองตา
แลแลแลพี่ชะแง้จริงแท้สบตา ปรารถนารักมาแลเจ้าชื่นใจ รักหรือเกลียดยอมหรือเหยียดเกลียดเพียงไหน แลแล้วใจไม่คิดกลับจับรั้วแล
ดูดูดูเจ้ายืนดูคงรู้พี่แล อย่าเชือนแชน้องแลไยไม่บอกมา ตาของพี่ใจของพี่ปรารถนา มองสองตาจงรู้ว่าพี่รักเธอ”

http://www.4shared.com/audio/-cfbxuje/_-___.htm

ยังมีเพลงบัวเรียงบัวโรยซึ่งใช้ทำนองเพลงของลิเกเช่นกัน http://www.youtube.com/watch?v=-331hABz9hY

(๔) เพลงดาวลูกไก่ ตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒  พร ภิรมย์ แต่งเองร้องเอง โดยใช้ทำนองกลอนลิเกสุดฮิตชื่อ “ราชนิเกลิง” เป็นเพลงทำนองไทยที่ดังมากและได้รับรางวัลมากที่สุด  (พร ภิรมย์แต่งและร้องทำนองราชนิเกลิงไว้หลายเพลง นอกจากเพลงดาวลูกไก่แล้ว ยังมีเพลงดาวเดี่ยว เพลงริมไกรลาส ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ เป็นต้น)

เนื้อร้องเพลงดาวลูกไก่

ตอนที่ ๑

“โอ้ชีวิตคิดไฉน ใครหนอใครลิขิต ปกาศิตของศิวะ หรือของพระพรหมเจ้า
บ้างกำเนิดเกิดมา พอลืมตามองโลก บ้างมีโชคบ้างอับโชค มีสุขโศกปนเศร้า
แต่จอมนราพิสุทธิ์ ท่านสอนพุทธบริษัท เป็นธรรมะปรมัตถ์ อ้างถึงอำนาจกรรมเก่า
ว่ากุศลาธรรมา มนุษย์เกิดมามีสุข อกุศลาพาให้ทุกข์ ดั่งไฟที่รุกรุมเร้า
บ้างกึ่งดีกึ่งชั่ว เพราะตัวของตัวมัววุ่น สร้างทั้งบุญทั้งบาป เหมือนดำที่ฉาบด้วยขาว
ผมมิใช่บัณฑิต อันมีจิตสิเน่หา ที่จะเป็นนักเทศนา มาเจรจายั่วเย้า
จึงตั้งศรัทธาสาธก เรื่องยาจกยากจน มีตากับยายสองคน ปลูกบ้านอยู่บนเชิงเขา
แกเลี้ยงแม่ไก่อู มีลูกอยู่เจ็ดตัว เช้าก็ออกริมรั้ว จิกกินเม็ดถั่วเม็ดข้าว                      เวลามีเหยี่ยวเฉี่ยวโฉบ สิแม่จะโอบปีกอุ้ม กางสองปีกออกคลุม พาลูกทั้งกลุ่มเข้าเล้า
แม่ไก่จะปลอบขวัญลูก เสียงกรุ๊กกรุ๊กปลุกขวัญ ลูกตอบเจี๊ยบเจี๊ยบเสียงลั่น ทั้งทั้งที่ขวัญเขย่า
แล้วเขี่ยข้าวออกเผื่อ ต่างคุ้ยเหยื่อออกให้ ลูกไก่แม่ไก่ไร้ทุกข์ สิไม่มีสุขใดเท่า
ถึงคราวจะสิ้นชีวิต เมื่อใกล้อาทิตย์อัสดง ยังมีภิกษุหนึ่งองค์ เดินออกจากดงชายเขา
ธุดงค์เดียวด้นดั้น เห็นสายัณห์สมัย หยุดกางกลดพลันทันใด หลังบ้านตายายผู้เฒ่า
อยากรู้เรื่องต่อก็ต้อง เปิดหน้าสองฟังเอา”

ตอนที่ ๒

“พระธุดงค์ลงกลด ตะวันก็หมดแสงส่อง อาศัยโคมทองจันทรา ลอยขึ้นมายอดเขา
ฝ่ายว่าสองยายตา เกิดศรัทธาสงสาร พระผู้ภิกขาจาร ต้องขาดอาหารมื้อเช้า
ดงกันดารย่านนี้ หรือก็ไม่มีบ้านอื่น ข้าวจะกล้ำน้ำจะกลืน จะมีใครยื่นให้เล่า
พวกฟักแฟงแตงกวา ของเราก็มาตายหมด นึกสงสารพระจะอด ทั้งสองกำสรดโศรกเศร้า
สักครู่หนึ่งตาจึงเอ่ย นี่แน่ะยายเอ๋ยตอนแจ้ง ต้องเชือดแม่ไก่แล้วแกง ฝ่ายยายไม่แย้งตาเฒ่า
ฝ่ายแม่ไก่ได้ยิน น้ำตารินหลั่งไหล ครั้นจะรีบหนีไป ก็คงต้องตายเปล่าเปล่า
อนิจจาแม่ไก่ ยังมีน้ำใจรู้คุณ ที่ยายตาการุณ คิดแทนคุณเม็ดข้าว
น้ำตาไหลเรียกลูก ให้มาซุกซอกอก น้ำตาแม่ไก่ไหลตก ในหัวอกปวดร้าว
อ้าปากออกบอกลูก แม่ต้องถูกตาเชือด คอยดูเลือดแม่ไหล พรุ่งนี้ต้องตายจากเจ้า
มาเถิดลูกมาซุกอก ให้แม่กกก่อนตาย แม่ขอกกเป็นครั้งสุดท้าย แม่ต้องตายตอนเช้า
อย่าทะเลาะเบาะแว้ง อย่าขัดแย้งเหยียดหยัน จงรู้จักรักกัน อย่าผลุนผลันสะเพร่า
เจ้าตัวใหญ่สายสวาท อย่าเกรี้ยวกราดน้องน้อง จงปกครองดูแล ให้เหมือนดังแม่เลี้ยงเจ้า
น่าสงสารแม่ไก่ น้ำตาไหลสอนลูก เช้าก็ถูกตาเชือด ต้องหลั่งเลือดนองเล้า
ส่วนลูกไก่ทั้งเจ็ด เหมือนถูกเด็ดดวงใจ พากันโดดเข้ากองไฟ ตายตามแม่ไก่ดังกล่าว
ด้วยอานิสงส์ใจประเสริฐ ลูกไก่ไปเกิดเป็นดาว”

http://www.youtube.com/watch?v=9cefqqyj3ZQ&playnext=1&list=PLE5A6F68D55E5B016&index=7

http://www.4shared.com/audio/8KpUMlZ4/_1-_.htm

http://www.4shared.com/audio/4HDl7EkU/_2-_.htm

(๕) เพลงชมดง พร ภิรมย์ แต่ง/ร้อง ทำนองเพลงแหล่ โดยคำร้องมีส่วนคล้ายหรือแต่งเป็นกาพย์ยานี ๑๑ ซึ่งนอกจากเพลงนี้แล้ว ยังมีเพลงแหล่ชื่อเพลงไม้หลักปักเลน เมียจ๋า รักเดียวใจเดียว เมียจาก วังแม่ลูกอ่อน ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ ดาวจระเข้ ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ เศรษฐีอนาถา ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ เป็นต้น ส่วนเพลงพ่อม่ายตามเมีย เป็นแหล่กลอนแปด เพลงแหล่นับเป็นทำนองที่พร ภิรมย์แต่งและร้องมากที่สุด

http://www.4shared.com/audio/cR2OQmTj/__-_.htm

http://www.youtube.com/watch?v=s3H1Euy02Mc

(๖) เพลงเห่ฉิมพลี ทำนองเห่เรือ (มูลเห่) และแหล่ (กาพย์ยานี ๑๑) พร ภิรมย์ แต่งเองร้องเอง โดยเนื้อร้องมีสัมผัสนอกสัมผัสในแพรวพราว เป็นเพลงดังอมตะเพลงหนึ่ง

เนื้อร้องเพลงเห่ฉิมพลี

“น้องนอน นอนหนุนตักพี่นอน นอนนอนนอน น้องนอนจะกล่อมให้นอน              ฉิมพลีวิมานมาศ สุดสวาทนาฏกากี เวนไตยให้ยินดี ปรีดาแนบแอบนางชม              สองสุขสองสวาท แสงโสมสาดสองสุขสม สองสนิทสองชิดชม สองภิรมย์สมฤดี        นกแนบนวลนางนอน กางสองกรโอบกากี ชื่นชีวันขวัญชีวี แนบฉิมพลีหลับไม่ลง   สะท้านชานไกรลาศ พิศสวาทประหลาดหลง พระสุเมรุห้อยเอนลง ทอดยอดลงหิมพานต์                                                                                             นาคีสีทันดร เริงสาครกระฉอกฉาน กระเทือนถึงบาดาล แผ่พังพานเข้าถ้ำไป            ราหูจับจันทรา สู้ฤทธิ์ราหูไม่ไหว ราหูอมสมฤทัย ไม่ยอมให้พระจันทร์จร                อัสนีบาตฟาดสายฟ้า ต้องภูผาหน้าสิงขร ราหูอายคลายจันทร สุดอาวรณ์อาลัยจันทร์นาคีเริงสาคร อ่อนใจตัวกลัวสุบรรณ แผลงฤทธิ์พ่นพิษพลัน หนีสุบรรณเข้าฉิมพลี     ยอดเอยเจ้ายอดรัก ผู้มีพักตร์ผ่องโสภี หลับตาอย่าพาที ฟังเสียงพี่อย่ารำคาญ           ตักพี่นี้แทนหมอน ทิฆัมพรแทนมุ้งม่าน โพยภัยไม่แผ้วพาน หลับสำราญดังฉิมพลี     น้องนอน นอนหนุนตักพี่นอน นอนนอนนอน น้องนอนจะกล่อมให้นอน”

http://www.youtube.com/watch?v=8qMbgXM-XLg&feature=related

วิพล นาคพันธ์

๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

อ่านข่าวสารทั้งหมดของวิพล นาคพันธ์ ได้ที่ http://gotoknow.org/blog/wiphon/toc

หมายเลขบันทึก: 410788เขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2010 22:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 06:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เคยฟังกระบี่บนพานทองเมื่อสิบปีที่แล้ว เพิ่งทราบว่า ผ.อ.ชอบแนวนี้ด้วย

เพลงเหล่านี้มีแต่จะสูญหายเพราะหาคนที่มีความสามารถอย่างพระอาจารย์ไม่ได้แล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท