วันที่ ๒ ธันวาคม ๕๓ ที่เวทีเสวนาในหัวข้อ “ความสุขหลากมิติ” ดิฉันได้ฟัง คุณโจน จันได เครือข่ายบ้านดิน เล่าถึงการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเอาไว้อย่างเรียบง่าย งดงาม เต็มไปด้วยความจริง และการค้นพบที่หมดจด ชัดเจน ดังนี้
“ทุกวันนี้คนทำงานมาก ชีวิตเป็นทุกข์มากขึ้น ลูกกับพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน งานกับชีวิตไม่สมดุล เห็นงานสำคัญที่สุด ในอดีตทาสยังไม่ทำงานหนักขนาดนี้ การที่คนต้องทำงานวันละ ๘ ชั่วโมง ทุกวัน ชีวิตน่าจะมีอะไรผิดปกติแล้ว อีกไม่นานก็ตายแล้ว ชีวิตทุกข์ขนาดนี้ได้อย่างไร เมื่อคิดแบบนี้ จึงต้องหาทางออก
ผมกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนโบราณ ทำนาปีละ ๒ เดือน ปลูกผักวันละ ๑๕ นาที เลี้ยงคน ๖ คนได้ ใช้เวลาตี ๕ – ๗ โมงเช้า ทำบ้านด้วยดิน มันง่ายมาก ทำไมชีวิตจึงง่ายเหลือเกิน
ทำไมนกสร้างรัง ๒ วัน มีบ้านอยู่ได้ หนูขุดรูวันเดียวก็อยู่ได้ คนทุกวันนี้ต้องทำงาน ๓๐ ปี จึงจะได้บ้านหลังหนึ่ง ทุกวันนี้เสื้อผ้าไม่ได้ซื้อ ยิ่งคนเห็นใส่เสื้อเก่าก็ยิ่งเอามาให้ จนต้องแจกจ่าย
เวลาที่เราป่วยไข้ เราต้องทำอะไรผิดสักอย่างชีวิตจึงต้องป่วย ต้องกลับมาคิดทบทวน และกลับมาหาตัวเองเดี๋ยวนี้ ถ้าเราไม่ป่วยเราก็จะหนีจากตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าไม่กลับมาอยู่กับตัวเอง จะรู้จักตัวเองได้อย่างไร ใช้การอดทน เฝ้าสังเกต และภูมิปัญญาพื้นบ้าน อย่างเป็นโรคกระเพาะ ให้ดื่มน้ำวันละ ๕ แก้วตอนเช้า โรคกระเพาะหายได้
เมื่อใช้ชีวิตแบบนี้แล้วจะพบว่าชีวิตง่าย เบาสบาย ความคิดของเราเองที่เป็นปัญหา โลกนี้ไม่เคยมีอะไรเป็นปัญหาเลย
นี่คือความงดงามของการมีชีวิตอยู่ ไม่กลัว ไม่กลุ้ม ไม่กังวล รู้สึกเบาสบาย ไม่เอาสุข ไม่เอาทุกข์ มันจะมาก็มา มันจะไปก็ไป สุขทุกข์เป็นเรื่องของอารมณ์
ทุกวันนี้ไม่ได้แสวงหาความสุข แต่แสวงหาความเข้าใจ ให้ความสำคัญกับความเข้าใจว่าเราเข้าใจอะไร ความเข้าใจทำให้ความกลัวหายไป เกิดอิสรภาพ เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น
การพึ่งพาตนเองได้ ทำให้เราเกิดอำนาจในตัวเอง ชีวิตจะมีความมั่นคงมาก ตรงข้ามกับการพึ่งพาอย่างอื่น แม้แต่การสะสมเงินทอง มาสะสมอาหารดีกว่า ปัจจัย ๔ ทำให้ชีวิตเรามีความสุข สบายใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราอยู่ได้ เพราะพื้นฐานของชีวิตคือปัจจัย ๔
ถ้าประเทศไหนปัจจัย ๔ แพงเมื่อไหร่ ประเทศนั้นเป็นประเทศด้อยพัฒนา ถ้าพึ่งพาตัวเองได้ ชีวิตจะมีค่า มีความหมายขึ้นมา อยู่ในเมืองทุกคนเหนื่อย เราเหนื่อยไปเพื่ออะไร เหนื่อยไปไหนกัน นกบินไปเที่ยวไหนก็ได้ไม่ต้องขอลาใคร
คนเดี๋ยวนี้กินอะไรก็ได้ให้ท้องอิ่ม แล้วจะได้ไปทำงาน ลูกไม่เคยรู้จักความรัก ความผูกพันในครอบครัว เมื่อเลือกได้ทำไมไม่เลือก”
คิดเล่นเห็นต่าง ว่า โฆษณาชวนเชื่อ