พาคณะกรรมการนักเรียนออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วย


ได้รับการติดต่อจากคณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยขอติดตามออกไปเยี่ยมบ้านกับพยาบาลPCU

ได้รับการติดต่อจากอาจารย์ที่ปรึกษาของคณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยขอให้นักเรียนติดตามออกไปเยี่ยมบ้านกับพยาบาลPCUด้วย พร้อมนำสิ่งของและเงินไปบริจาค  พยาบาลเองก็มีแผนจะออกเยี่ยมและทำภาระกิจฝากของโรตารี่ด้วยเลยออกไปพร้อมกัน ไปได้ 5 ครอบครัว

ครอบครัวแรกเป็นสามีภรรยาวัย74และ83 ปี โดยคุณยายขาพิการตั้งแต่อายุ14 เดินไม่ได้ต้องกระถดไปบนพื้น สมรสกับคุณตาแต่ไม่มีลูก 1ปีก่อนตาป่วยนอนติดเตียง ลุกนั่งเดินไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดลำไส้ และทำทวารเทียมที่หน้าท้อง ทีมเยี่ยมบ้านได้พยายามฟื้นฟูให้กำลังใจ จนปัจจุบันตาสามารถกลับมาเดินข้างเตียงได้อีกครั้ง ช่วงที่ตานอนรักษาตัวอยู่รพ.เป็นเดือนๆ ยายก็อยู่บ้านคนเดียวเฝ้ารอตากลับมาเพราะยายไม่สามารถไปไหนมาไหนได้  ซึ่งแต่เดิมตาจะเป็นคนอุ้มยายใส่รถซาเล้งพาไปไหนๆเมื่อตาล้มยายก็ขาดที่พึ่ง ช่วงน้ำท่วมหนัก หาดใหญ่ พยาบาลก็นึกกังวลว่าที่บ้านของตายายระดับน้ำจะสูงถึงชั้นลอยใต้หลังคาไหมเพราะเป็นบ้านชั้นครึ่งและทั้งคู่ก็ไม่ได้ขึ้นบันไดไปบนชั้นใต้หลังคานานแล้วอาศัยอยู่แต่ข้างล่างเพราะขึ้นไม่ไหว เมื่อน้ำเริ่มลดพยาบาลรีบขับรถไปดู ทีแรกไปถึงตกใจมากเห็นผู้ชายแปลกหน้ารูปร่างใหญ่กับวัยรุ่นอีกคนกำลังคนเศษสิ่งของออกจากบ้านตากับยาย  รีบลงไปถามว่าตากับยายไปไหน  เขาถามว่ามาเยี่ยมเหรอเดี่ยวพาไป  ฉันเดินตามไปถึงซอยข้างๆมีบ้านตึก 3 ชั้นเขาบอกว่าตากับยายอยู่บนบ้านนี้ พร้อมตะโกนบอกเจ้าของบ้านให้ และพาพยาบาลขึ้นไปชั้น3 ของบ้าน ระหว่างทางเต็มไปด้วยสิ่งของที่ขนหนีน้ำขึ้นมาไว้ทุกตารางนิ้วที่มี เว้นได้เฉพาะทางเดินแคบๆ พบตากับยายอยู่ในห้องด้านหลังบ้านมีเตียงนอน และห้องน้ำในตัว ตานอนนุ่งโสร่งอยูบนเตียง ยายกำลังซักผ้าอยู่ในห้องน้ำผ้าถุงเปียกปอนเพราะต้องนั่งราบบนพื้นห้องน้ำจากความพิการ  ตาเล่าว่าอยากกลับไปดูที่บ้านไม่รู้เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้เขายังไม่ให้ไปเพราะจะทำความสะอาดก่อน ฉันถามว่าตาอพยพมาอย่างไร ตาบอกว่าเขาไปรับมาตั้งแต่น้ำล้นคูฝากตรงข้าม ฝั่งบ้านตายังแห้งอยู่  ตาก็อยู่บนนั้นไม่ได้เห็นสภาพน้ำหรอกว่าเป็นอย่างไรเพราะลุกไม่ไหว และบ้านก็มีบ้านฝั่งตรงข้ามบังถึงลุกได้ก็คงมองไม่เห็นบ้านตัวเอง วันนี้พานักเรียนไปเยี่ยมที่บ้าน ถามสารทุกข์สุกดิบกันพอถามเรื่องแผลหน้าท้อง ตาบอกว่านี่แหละคือสิ่งกังวลที่สุดถุงเหลือแค่ 2 ใบแล้วพยาบาลยังไม่เอามาเพิ่มให้ไปรพ.ก็ไปไม่ได้ กลัวว่าไม่มีถุงแล้วจะทำอย่างไรกังวลเป็นทุกข์มาก  พยาบาลถามว่าแล้วทำไม่บอกพยาบาลรอจนพยาบาลถามจึงบอก ตาตอบว่านึกว่าคนแผนกไม่เกี่ยวกัน เลยไม่กล้าบอก และยายก็บอกว่าเมื่อวานยายโดนกาน้ำร้อนที่ขาพยาบาลดูมีแผลburnที่ข้างเข่าด้านใน 1st degree เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ4.5cm. พยาบาลรับประสานเรื่องถุงcolostomy และ ฝากยาทาแผลไปให้ก่อนลากลับ

ครอบครัวที่ 2

เคสนี้ได้รับภาวะแทรกช้องจากการฉีดยาBlock ไขสันหลังตอนคลอดลูกชายคนที่ 2 เมื่อ 18 ปีก่อน ปัจจุบันอายุ 42 ปีใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาว ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมานับครั้งไม่ถ้วน มีทั้งช่วงที่ท้อแท้ สิ้นหวัง เข้มแข็ง ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ย้ายบ้านเช่ามาแล้วไม่รู้กี่ครั้งด้วยปัญหาต่างๆกัน

วันนี้พยาบาลไปเยี่ยมมีปัญหาปรึกษาเรื่องสายตาเพราะช่วงหลังเริ่มดูผังลายปัก        คอสติสไม่เห็น งานที่เคสนี้ทำประจำคือปักคอสติส ฝีมือเยี่ยมมากทั้งด้าหน้าและด้านหลังสวยเรียบร้อยเหมือนกันจนแยกไม่ออกสามารถโชว์ได้ทั้งสองด้าน การที่สายตาเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบอย่างมากต่อตัวผู้ป่วย พยาบาลวางแผนว่าจะนำสแนลเลนชาทไปวัดสายตาให้คร่าวๆ และนำแว่นสายตายาวpowerต่างๆไปให้ลองดูถ้าติดต่อช่างแว่นตาไปที่บ้านไม่ได้

ครอบครัวที่3

เป็นผู้ป่วยเนื้องอกที่ไขสันหลังระดับT3-T5 ทำให้อัมพาตดั้งแต่ใต้ระดับอกลงมา ชาขาทั้งสองข้างขยับไม่ได้ คาสายสวนปัสสาวะไว้ตลอด มีลูกสาว 1 คน แต่ไม่ได้กล่าวถึงภรรยา ลูกสาวดูแลรักใคร่ดี เมื่อไปเยี่ยมจึงทราบว่าลูกสาวเป็นศิษย์เก่ารุ่นพี่ของนักเรียนกลุ่มที่ไปเยี่ยม แต่ไม่ได้เรียนต่อ สมรสแล้วมีลุกชาย 2 คน คนโตออกจาโรงเรียนแล้วไปทำงานเลี้ยงวัวที่คอกวัวใกล้บ้าน คนเล็ก 9 ขวบวันหยุดได้อาศัยหยิบจับของให้ตาและอยู่เป็นเพื่อนตา รายนี้ก็ได้แต่ระวังเรื่องการติดเชื้อจากการสวนคาปัสสาวะ ทีมเยี่ยมพยายามเปลี่ยนเป็นintermittent แต่ยังไม่สำเร็จผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจกับวิธีสวนคามากกว่า

ครอบครัวที่4

ครอบครัวนี้มีคนป่วย 1 ผู้พิการ 1 หัวหน้าครอบครัวเคยเป็นพนักงานขับรถ 10ล้อแล้ว CVA ต่อมาg,njv 2 เดือนก่อนมี gut obstruct ต้องผ่าหน้าท้อง และทำทวารเทียม แผลผ่าตัดหน้าท้อง ช่วงล่างแยกยังมีหนองและซีรั่มออกจากแผล ซีกช้ายอ่อนแรง เจาะหลอดลมคอใส่ Tracheostomy tube รพ.ให้ยืมเครื่องดูดเสมหะไปใช้ที่บ้าน

ลูกชายคนเล็กสมองขาดออกซิเจนจากการชักเมื่ออายุ 3 เดือน ปัจจุบัน อายุ25ปีพัฒนาการได้ราวระดับ 7 ขวบ

ครอบครัวที่5

รายสุดท้ายนี้ต้องไปเยี่ยมที่บ้านนายจ้างเพราะกลางวันจะปิดบ้านออกไปรับจ้างล้างผัก หั่นผักในร้านอาหาร รายนี้ประสบอุบัติเหตุรถจักยานยนต์ชนเมื่อหลายปีก่อนต้องผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาซ้าย รายนี้ไม่รู้หนังสืออายุตนเองก็บอกไม่ได้แน่ มีลูกชาย 3 คนแยกกับสามีตั้งแต่ลูกยังเล็กๆช่วงก่อนหน้านี้ลุกชายคนกลางหายสาปสูญไปติดต่อไม่ได้ประกอบกับบ้านถูกไล่ที่ต้องไปหาที่อยู่ปลูกบ้านใหม่ผู้ป่วยก็กังวลว่าถ้าลูกชายคนกลางกลับมาจะไม่เจอกัน ปัจจุบันไปปลูกบ้านบนที่ดินรถไฟนอกเขตเทศบาลหาดใหญ่พยาบาลเคยตามไปเยี่ยมที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ผป.อาศัยอยู่กับลูกชายคนเล็กซึ่งสมรสตั้งแต่วัยรุ่นทำงานรับจ้างก่อสร้างภรรยาล้างจานที่ร้านอาหารมีลูกชาย 1 คนเป็นเด็กพิเศษปัจจุบันส่งไปเรียนที่รร.ส่งเสริมปัญญาสงขลา ทุกเช้าต้องพาหลานออกมารอส่งขึ้นรถที่เหมาประจำส่งไปโรงเรียน เย็นรอรับกลับที่ริมถนนใหญ่ เพราะบ้านอยู่ในซอยลึกไม่มีรถผ่านยกเว้นจ้างรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือเดินซึ่งก็ไกลโขอยู่ คนขาดีๆยังไม่แน่ใจว่าจะเดินไหวไหม

เมื่อครบทั้ง 5 ครอบครัวก็ได้กลับมาสรุปและตอบข้อซักถามของน้องนักเรียนต่อกรณีความเจ็บป่วยต่างๆ เมื่อแรกไปเจอพยาบาลก็สัมผัสได้ซึ่งอารมณ์ความกังขาของเด็กว่าทำไมบุคลากรทางการแพทย์จึงทำผิดพลาดสมองของเด็กคงเต็มไปด้วยข้อสงสัยและการตำหนิ เมื่อได้อธิบายความเป็นมาเป็นไปให้ทราบเด็กก็เข้าใจมากขึ้นและเป็นประสบการณ์และเป็นข้อมูลสำหรับนักเรียนที่จะตัดสินใจเรียนต่อสายวิทยศาสตร์สุขภาพ

หมายเลขบันทึก: 415556เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2010 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท