Emergency and Palliative care
ระยะสุดท้าย.......หลากหลายมุมมอง
โดย อรพรรณ มันตะรักษ์
ค่ำวันหนึ่งขณะที่เรากำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน คุณเต่าๆ ช่วยมาดูแม่ให้หน่อย แกบอกว่าแน่นท้องแล้วอยู่ๆก็นิ่งไปเลย แว่บแรก ที่เราก้าวเท้าเข้าไป ภาพหญิงชราหน้าตาขาวซีดราวกับกระดาษนอนนิ่งไม่ไหวติง ย่าทวดไม่หายใจคลำชีพจรไม่ได้...จะให้หนูปั๊มหัวใจมั้ยคะลุง ลุงผู้เป็นลูกชายมองดูแม่แล้วก็พยักหน้ากับเราแล้วพูดว่า ปั๊มครับ ๆ เราเป็นคนปั้มหัวใจ โดยมีลุงช่วยเป่าปาก หลังช่วยปั้มหัวใจสักพัก ร่างกายคุณย่าก็เริ่มตอบสนองคลำชีพจรได้เบาๆเราบอกให้คนข้างบ้านโทรเรียก1669 รถ EMS ของโรงพยาบาลพิจิตรก็มารับไปโรงพยาบาล ทันทีที่ถึงทีมแพทย์ พยาบาลที่ตึกอุบัติเหตุได้ช่วยเหลือทั้งใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาช่วยชีวิตจนกระทั่งเวลาผ่านไป20 นาทีย่าทวดเริ่มลืมตาสื่อสารรู้เรื่องข้าพเจ้ากระซิบบอกที่ข้างหูแกว่า ย่าทวดปลอดภัยแล้วนะคะ เราเอื้อมมือมาจับมือท่านบีบเบาๆ หลังจากนั้นก็ให้ลูกๆคนอื่นๆของท่านก็เริ่มทยอยมาถึงเห็นท่านมองลูกๆแล้วน้ำตาไหล เราเองไม่เข้าใจว่าตอนนั้นท่านรู้สึกอย่างไร ย่าทวดป่วยด้วยโรคหัวใจ และโรคเรื้อรังอื่นๆ มานานหลายปีลูกหลานพาเข้าออกโรงพยาบาลอยู่หลายรอบ ถ้ามีเวลาเราจะแวะไปพูดคุยกับท่านย่าทวดเป็นคนใจดีและขี้เกรงใจ แกบอกว่าเห็นเราทำงานยุ่งทุกวันไม่อยากรบกวน และบอกเราว่าเบื่อที่ต้องเป็นอย่างนี้ ไม่อยากนอนโรงพยาบาลบ่อยๆ หากถึงวันที่ต้องหมดลมหายใจก็อยากไปแบบสงบส่วนร่างกาย ย่าทวดก็ยกให้เป็นอาจารย์ใหญ่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร เราก็ได้แต่ปลอบใจให้กำลังใจแล้ววันนี้ท่านจะรู้สึกอย่างไรที่เราปั้มหัวใจให้ท่าน
หลังจากที่ให้การรักษาจนพ้นขีดอันตรายท่านถูกย้ายไปอยู่ ตึกผู้ป่วยใน ส่วนลูกๆก็ปรึกษากันว่าจากนี้ไปขอให้แม่ไปอย่างสงบ และท่านก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขอให้คุณย่าทวดไปสู่ สุคตินะคะ ขออโหสิกรรมสิ่งที่ผ่านมาด้วยค่ะ.
...คนดี มีสติดี....เเน่นอนทางที่ไปต่อ ต้องดี....
...ก่อนไป ยัง ทำกุศลที่ยิ่งใหญ่อีก....กราบ อาจารย์ใหญ่ อีกหนึงท่านครับ
ครับ .....เป็นผมก็ช่วยก่อนครับ ถึงแม้ท่านจะสั่งเสียไว้นะครับ
อย่างน้อยก็ได้ให้ลูกหลานท่านได้บอกลา ขอขมาก่อนท่านจากไป
และท่านก็ไำด้รับรู้และอโหสิให้กับลูกกับหลานครับ...
และก็ขอชื่นชมในการเป็นอาจารย์ใหญ่ื่ท่านต่อไปคร้าบบบบบ