ภาคต่อ ถอดบทเรียนจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ
SALTOGENESIS & SELF TRANSCINDENCE WORKSHOP
การสร้างมิติจิตวิญญาณสำหรับบุคลากรของโรงพยาบาลสู่การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
วันที่ 2-5 พ.ย 2553 ณ. โรงแรม ฮอลิเดย์ การ์เด้น จ.เชียงใหม่
โดย อรพรรณ มันตะรักษ์
บทเรียนเกี่ยวกับ คำถามที่ว่า....เราจะได้อะไรจากการมา Work shop ครั้งนี้
อาจารย์สกลบอกว่า “เราจะได้อะไรหรือไม่ได้อะไร ไม่มีใครบอกได้นอกจากตัวเราเอง”
ความจริงบางอย่างที่ฝังลึกอยู่ในตัวตนของเรา เป็นสิ่งที่เราแสดงออกมาให้เห็นเช่นพฤติกรรมในการทำงานของเรา อากัปกิริยาของเรา สีหน้าท่าทางของเรา แต่ใครเล่าที่จะบอกเราได้ดี เท่าที่ตัวเราจะบอกตัวเราเอง
เวลาที่เรารู้สึกกับใครแล้วตัดสินว่าไม่ใช่.....ไม่ถูก.....เราจงกลับมานึกเสมอว่า
ความจริงแล้วเราไม่สามารถจะเปลี่ยนใครได้.....และอย่าเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนคนอื่น.แต่ให้ถามตัวเองว่าทำอย่างไรจะเปลี่ยนมุมมองของเราในการมองโลกเสียใหม่ การกระทำของคนเพียง 1 คนมีผลต่อกลุ่มที่คนคนนั้นดำรงอยู่ เราทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ และร่วมสร้างการเรียนรู้ใหม่ ทำอย่างไรให้รู้สึกว่าเราตื่นเช้ามากับความรู้สึกว่าพร้อมที่จะทำงานและมีความสุขกับงานที่เราจะทำ
อาจมีใครหลายคนเคยถามหาเหตุผลในการกระทำของคนอื่นให้เราจงเข้าใจว่าบางเรื่องในชีวิตคนอธิบายเป็นเหตุผลทุกอย่างไม่ได้ เพราะหากจะอธิบายมันไม่รู้จะบอกว่าเป็นเหตุผลของเราหรือเหตุผลของเขา บางอย่างอธิบายเป็นตรรกะไม่ได้ และบางอย่างจะพูดหรืออธิบายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
ความพยายามที่จะคิดบวกขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่ต้องมองแง่บวก ไม่ต้องพยายามมองแง่บวก แต่ให้เรียนรู้ที่จะคิดบวก การเรียนรู้ของเราจะเกิดขึ้นมากมาย รวดเร็ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ให้ช้าลงบ้างโอกาสที่ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดเมื่อความคิดสร้างสรรค์นั้น แว๊บขึ้นมา และถูกนำมาใช้ การรับรู้ที่ชัดเจนจะทำให้เรามองเห็นและเห็นมากขึ้น เปลี่ยนความสงสัยให้เป็นความอยากรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไร
“ การที่เราเป็นครู คือการที่ได้เห็นคนอื่น ได้เบิกบานอยู่ตรงหน้า ”
“โลกนี้ไม่มีนักเรียนที่โง่ นอกจากจะมีครูที่ ห่วย ”
“Education คือ change และการจะเปลี่ยนได้ต้องเจออะไรบางอย่างจงใช้ประสบการณ์เก่าให้เป็นบทเรียน ”
“มนุษย์ไม่ได้ถูกพัฒนาด้วยจุดที่เป็นปมด้อยแต่เราจะพัฒนาสิ่งที่ดีงามอะไรในตัวเขาให้งอกงามและมีคุณค่า”
ไม่มีความเห็น