ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ เมื่อมีโอกาสได้กล่าวปาฐกถาธรรม เกือบทุกครั้งจะนำเอาปธานธรรมมาแสดงเป็นข้อคิด เพราะเห็นว่าเป็นธรรมอันสมควรแก่ธรรม...
ปธานธรรม มีอยู่ ๔ ข้อ จะเรียกว่า ปธาน๔ ก็ได้
คำว่า ปธาน ในหนังสือธรรมะ ทั่วไปมักจะแปลกันว่า ความเพียร นั่นคือ คำว่า ปธาน ในที่นี้เป็นชื่อของความเพียร ซึ่งถ้าจะขยายให้เต็มจะได้ว่า ความเพียรที่ควรตั้งไว้เป็นเบื้องหน้าในการดำเนินชีวิต (ป+ธา. ป = เบื้องหน้า , ธา = ตั้ง)
ขยายความปธานธรรม ๔ ข้อ ได้ดังต่อไปนี้
ดังนั้น เมื่อถึงคราวดิถีขึ้นปีใหม่ ให้พักกายพักใจอยู่เงียบๆ ทบทวนตัวเราเองว่า ในขวบปีที่ผ่านมา ได้ทำถูกทำผิด ทำดีทำชั่ว หรือสมควรไม่สมควร ซึ่งปกติเราทุกคนก็มีสามัญสำนึกพอจะแยกแยะตัดสินเรื่องต่างๆ ได้...
สิ่งใดที่เราผ่านพบมา และเห็นว่าไม่ถูกไม่ควร เป็นสิ่งผิดสิ่งชั่ว ซึ่งเรายังไม่เคยกระทำ ก็ให้ระวังต่อไป จงอย่าได้ไปข้องแวะ นั่นคือ ต้องมี สังวรปธาน
ส่วนสิ่งใดที่ชั่วที่ผิด หรือไม่ถูกไม่ควร ซึ่งเราเคยประพฤติมา ก็ให้เริ่มต้นในปีใหม่นี้แหละ ลด ละ เลิก ให้ได้ นั่นคือ ต้องมี ปหานปธาน
ขณะที่สิ่งใดซึ่งเราพิจารณาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกที่ควร แต่เรายังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลย ก็ให้เริ่มต้นในปีใหม่นี้แหละ เริ่มลงมือทำสร้างความดีนั้นๆ ให้จงได้ นั่นคือ ต้องมี ภาวนาปธาน
และสิ่งใดที่เป็นสิ่งดีสิ่งถูกต้อง ซึ่งเราเคยประพฤติปฏิบัติมา ก็ให้ตั้งใจรักษาต่อไป อย่าให้เสื่อม นั่นคือ ต้องมี อนุรักขนาปธาน
ผู้เขียนคิดว่า ในวันสำคัญของชีวิตเช่นปีใหม่ (อีกวันก็คือวันเกิดของเรา) ใครก็ตาม ถ้าใช้ปธานธรรมเป็นหลักในการทบทวนตรวจสอบตัวเอง เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ของแต่ละปี... ผู้นั้น จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง จะไม่มีวันเสื่อมถอย ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้ หรือชาติไหนๆ ก็ตาม
..........
เจริญพร
ไม่มีความเห็น