กบข.กระตุ้นสมาชิก ขรก.ยกปี 54 เป็นปีแห่งการออม


กบข.ตั้งเป้าปี 2554 เป็นปีแห่งการออมหวังกระตุ้นสมาชิกเข้าใจการลงทุนด้วยการบริหารเงินให้ผลตอบแทนงอกเงยชนะเงินเฟ้อ พร้อมเดินหน้าจับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการจูงใจ เอื้อประโยชน์สมาชิกออมมากขึ้น

กบข.ตั้งเป้าปี 2554 เป็นปีแห่งการออมหวังกระตุ้นสมาชิกเข้าใจการลงทุนด้วยการบริหารเงินให้ผลตอบแทนงอกเงยชนะเงินเฟ้อ พร้อมเดินหน้าจับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการจูงใจ เอื้อประโยชน์สมาชิกออมมากขึ้น นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัยเลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ปัจจุบันสมาชิก กบข.ส่วนมากยังขาดความเข้าใจเรื่องการออมอย่างแท้จริงเชื่อว่าการออมที่ดีคือการฝากธนาคาร ขณะที่การออมและนำเงินออมไปลงทุนบริหารต่อเพื่อให้งอกเงยเกิดดอกผลสำหรับใช้ในโสภาวดี เลิศมนัสชัยระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่สมาชิกไม่พึงปรารถนา "เหตุที่เป็นเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเรียนรู้สมัยเป็นนักเรียนมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ ไม่ก็วิชาชีพ เราไม่ค่อยได้เรียนรู้วิธีการบริหารเงินที่เราหามาได้ ช่องทางที่เราคุ้นเคยที่สุดก็มีเพียงฝากธนาคาร ซึ่งดอกเบี้ยต่ำมาก การฝากธนาคารควรทำเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้เงิน แต่การออมต้องนำเงินออมไปลงทุนเพื่อให้เกิดดอกผลงอกเงย และที่สำคัญคือต้องตระหนักว่าการออมและการบริหารเงินออมนั้น เป็นเรื่องของการสร้างเงินให้ออกดอกออกผลในระยะยาว ภาวะผันผวนของผลตอบแทนระยะสั้นเป็นเรื่องปกติของการลงทุนทั่วไป เพราะหากนำเงินไปลงทุนแบบผลตอบแทนแน่นอน คุ้มครองเงินต้น 100% แบบการฝากธนาคาร ผลตอบแทนที่ได้ก็จะน้อยมาก เมื่อนำเงินเฟ้อมาหักลบเงินที่มีอยู่แล้วค่าเงินจริงก็ด้อยลงไปแน่นอน ออมแบบนี้ดูเหมือนดี แต่จริง ๆ แล้วยิ่งออมยิ่งค่าเงินลด" นางสาวโสภาวดีกล่าว

       นอกจากปี 2554 จะเป็นปีสื่อสารให้สมาชิกเข้าใจถึงความเข้าใจเรื่องการออมอย่างแท้จริงแล้ว กบข.ยังจะย้ำให้สมาชิกเข้าใจถึงโครงสร้างทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง จำนวนสมาชิกในครอบครัวมีน้อยลง ขณะที่อายุขัยเฉลี่ยของคนไทย
ก็จะสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 80 ปี นั่นก็หมายความว่าต้องมีชีวิตอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 20 ปีหลังเกษียณ  การเร่งออมเพิ่มและออมต่อเงินได้หลังเกษียณเพื่อให้มั่นใจว่า มีเงินเพียงพอสำหรับใช้กว่าจะถึงบั้นปลายชีวิตถือเป็นประเด็นสำคัญ

       นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ กบข. ละเลยไม่ได้สำหรับการสื่อสารในปี 2554 คือการอธิบายให้สมาชิกและสังคมเข้าใจถึงวิธีการจัดการบริหารเงินออมของสมาชิกและเข้าใจถึงเงินออมซึ่งบริหารโดยกองทุน กบข. นำไปลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนระยะยาวที่เหมาะสม ซึ่ง กบข.ก็ตั้งเป้าหมายว่าต้องชนะเงินเฟ้อ เพราะนั่นหมายถึงทำให้ค่าเงินของสมาชิกยังคงมีอำนาจซื้อไม่น้อยกว่าเดิม โดยเฉลี่ยนับตั้งแต่ตั้ง กบข.มาเกือบ 14 ปี กบข.ก็บริหารเงินออมสมาชิกได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อประมาณ 3% นั่นคือสมาชิกได้ผลตอบแทนจากเงินออมอีกประมาณ 4%

       นอกจากนี้ นางสาวโสภาวดียังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันนอกจาก กบข.จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ออมเพิ่มแล้ว สมาชิกที่เกษียณ หากไม่มีความจำเป็นต้องนำเงินก้อนออกไปทั้งหมดในเวลาเดียวกัน สมาชิกสามารถออมต่อ และ/หรือทยอยขอรับเงินออกไปใช้ตามความจำเป็น เงินก้อนที่อยู่กับ กบข.ควรจะสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเพราะสมาชิกเองก็มีเงินบำนาญรับต่อเนื่องทุกเดือนอยู่แล้ว ทั้งนี้ นอกจากปี 2554 กบข.จะกำหนดให้เป็นปีแห่งการรณรงค์การออมเพิ่มออมต่อแล้ว กบข.ยังมีแผนงานจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการจูงใจ (Incentive Package) ที่ให้ประโยชน์แก่สมาชิก
กบข.อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้สมาชิก กบข.หันมาให้ความสำคัญต่อการออมมากขึ้น

ASTVผู้จัดการรายวัน
ประจำวันที่ 5 มกราคม 2554

หมายเลขบันทึก: 418272เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2011 10:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 21:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท