การบริหารคุณภาพด้วย Six
Sigma
Six Sigma
คือ กระบวนการเพื่อลดความผิดพลาด (Defect)
ที่เกิดขึ้นในกระบวนการต่างๆ
โดยมุ่งนั้นให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดและมีความสูญเสียได้ไม่เกิน
3.4 หน่วยในล้านหน่วย หรือเรียกอีกอย่างว่า
ความสูญเสียโอกาสลดให้เหลือเพียงแค่ 3.4
หน่วยนั่นเอง
ประโยชน์ในการนำ Six
Sigmaไปใช้ในองค์กร
- สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างกลยุทธ์ใหม่ให้ธุรกิจ
-
สามารถลดความสูญเสียโอกาสอย่างมีระบบและรวดเร็วโดยการนำกระบวนการทางสถิติมาใช้
- พัฒนาบุคลากรในองลค์การให้มีศักยภาพสูงขึ้น
ตอบสนองต่อกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว
และปรับองค์การให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning
Organization)
- ช่วยหาระดับคุณภาพของอุตสาหกรรม
โดยสามารถเทียบข้ามกลุ่มอุตสาหกรรมได้
(Benchmarking)
Six
Sigma สำเร็จได้ด้วยองค์ประกอบ
- ความเป็นผู้นำของผู้บริหารในองค์การ (Leadership)
- การสื่อสารภายในองค์การที่มีประสิทธิภาพ (Communication)
ผู้นำองค์การจะต้องใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย(Concise)
มีความคงเส้นคงวาต่อเนื่อง (Consistent) มีความสมบูรณ์
(Complete) มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative)
- วางกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
(Continuous Improvement Strategy)
- การตั้งเป้าหมายที่เด่นชัดและกำหนดระยะเวลาที่เป็นรูปธรรม
(Target Setting)
- วิธีการคัดเลือกบุคคลและกำหนดโครงการให้รับผิดชอบ (Project
Selection and Responsibilities)
แนวทางหลักการของ Six
Sigma
แนวทางในการปฏิบัติที่เป็นที่นิยมเพื่อบรรลุถึงความสามารถของกระบวนการในระดับ
Six Sigma ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกประกอบด้วย 5
ขั้นตอน ดังนี้
- กำหนดเป้าหมาย (Define Target)
- การวัดความสามารถของกระบวนการ (Measure)
- การวิเคราะห์สาเหตุปัญหา (Analyze)
- การปรับปรุงโดยเน้นที่ต้นเหตุของปัญหา (Improve)
- การควบคุมกระบวนการที่มีผลกระทบ (Control)
………………………………..