ครม.สั่งคุม บ.ที่ปรึกษาปั่นราคากลางประมูล

ครม.สั่ง “คลัง-สำนักงบประมาณ” กำหนดหลักเกณฑ์คำนวณราคากลาง พร้อมสั่งจัดระเบียบบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ พร้อมอนุมัติรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ สามารถขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐได้ หากให้บริการด้วยราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24 ม.ค.) มีมติเห็นชอบการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างและราคากลาง พร้อมอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้าง ครม.ยังอนุมัติให้มีการทบทวนราคากลางงานก่อสร้าง ปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการทบทวนราคากลาง จาก 45 วัน เป็นทุก 30 วัน นับแต่วันที่หัวหน้าหน่วยงานได้ให้ความเห็นชอบ

       แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ยกกรณีตัวอย่างบางโครงการว่ามีการกำหนดราคากลางไว้ที่ราคาหนึ่ง แต่เมื่อสำนักงบประมาณคำนวณต้นทุนตามความเป็นจริง พบว่าราคาต้นทุนที่สำนักงบประมาณคำนวณได้ต่ำกว่าราคากลางมากพอสมควร

       ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การกำหนดราคากลางสูงกว่าความเป็นจริง น่าจะมีสาเหตุจากบริษัทที่ปรึกษาฯ ซึ่งตนพบว่ามีบริษัทที่ปรึกษาหลายแห่งรับงานมามาก จนทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ครม.จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาหาแนวทางในการควบคุมการคำนวณราคากลางและบริษัทที่ปรึกษา

       นายวัชระ กล่าวว่า กรมบัญชีกลางเสนอแนวทางระยะยาวเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและราคากลาง โดยจะมีการทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างทั้งระบบ การกำหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์และมาตรฐานสิ่งก่อสร้าง เป็นภารกิจในความรับผิดชอบของสำนักงบประมาณ

       นายวัชระ กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....โดยกำหนดให้รัฐวิสาหกิจขอรับเงินอุดหนุนบริการจากรัฐบาลได้ หากกำหนดราคาบริการต่ำกว่าต้นทุน โดยเสนอของบประมาณอุดหนุนจาก ครม.เป็นคราว ๆ ไปได้

       ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีความกังวลเกี่ยวกับการคำนวณต้นทุนการให้บริการของรัฐวิสาหกิจ ที่จะมาขอรับการอุดหนุนจากรัฐ เพราะเกรงว่าอาจจะมีการคำนวณต้นทุนสูงกว่าความเป็นจริง จึงมอบหมายให้สำนักงบประมาณไปพิจารณาต้นทุนให้สอดคล้องความเป็นจริง

กรุงเทพธุรกิจ

25 มกราคม 2554