วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
(1) การเดินทางครั้งสุดท้าย
พอผมโตมากขึ้น ภาระทางการงานและครอบครัว ทำให้ผมห่างไกลเพื่อน ๆ
รวมถึงเพื่อนที่เรียนในระดับประถมที่เป็นคนบ้านเดียวกัน หรือในอำเภอ
ผมโชคดีครับ ที่ได้ทำงานในอำเภอ ...ที่เกิดและเติบโต
ถ้ามีงานต่าง ๆ จากเพื่อน จะได้รับเชิญและรู้ข่าวคราวเสมอ
มาพักหลัง ๆ ผมได้เจอเพื่อน ๆ รุ่นประถม เพราะงานศพ
นับเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิตบนโลกใบนี้
(2) เตรียมเงินให้พร้อมก่อนเดินทางครั้งสุดท้าย
วัดป่าภูเขียว เป็นสถานที่ที่คนภูเขียวทุกคนน่าจะเคยได้ไป
เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากล่าวคำลาครั้งสุดท้ายแด่คนที่จากเราไป
ตามจริงป้ายที่ผมเก็บรูปภาพมาฝาก ผมเห็นมาหลายครั้งที่มาที่นี้
นี้คือ...สิ่งที่ผมต้องเตรียมเงินให้พร้อมก่อนเดินทางครั้งสุดท้าย
บวกลบคูณหาร แล้วน่าจะจัดสรรเงินได้
แล้วแต่เราจะเลือกรายการอะไรดีที่เหมาะสมกับตัวเรา
แต่ผมน่าจะไม่ได้เลือกเองนะครับ
(3) เตรียมใจให้พร้อมก่อนเดินทางครั้งสุดท้าย
ก่อนจะไปวัดป่าภูเขียว จะมีงานสวดตอนเย็น 3 คืน
ถ้าติดธุระ ผมก็จะเลือกที่จะมาร่วมงานเสมอ
เพราะได้เจอเพื่อน ๆ และได้มาร่วมสวดมนต์ในงานคุณพ่อเพื่อน
พอมีชีวิตมากขึ้น เพื่อนก็แยกย้ายกันไปไกล ทำงานต่างจังหวัด กรุงเทพ หรืออยู่ฮ่องกง (คุก) แต่ทุกคนก็ยังเป็นเพื่อนกัน รับรู้ถึงความห่วงใยเอื้ออาทรต่อกันเสมอ
พวกเราคุยกับการตาย ราวกับเข้าใจโลกและเข้าใจชีวิต
ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
พวกเราคุยเรื่อง “ความดีสีโมงเย็น” ที่แต่ละคนจะเก็บประวัติชีวิตของตนเอง
พวกเรา “เก็บรูปถ่ายไว้”
เพราะเมื่อถึงเวลานั้นมาถึง...
พวกเราพบว่า มันช่างแสนฉุกละหุกเอาการ
(4) ผมและเพื่อน ๆ กับการเตรียมตัว
ในงานวันเผาคุณพ่อของเพื่อน
ผมรู้ว่า ทุกคนต่างซึมเศร้าในใจ และต้องทำตัวให้สดชื่น ยิ้มแย้ม แจ่มใส
ให้เพื่อนรู้สึกดี และไม่ร้องไห้ต่อการจากไปของพ่อ
บางครั้ง บางหน มนุษย์ต่างหลอกตัวเองและคนอื่นเสมอ เพื่อให้ผู้อื่นรู้สึกดี
พวกเรา วิ่งเก็บกาลพฤกษ์ (เงินที่ห่อกระดาษสีสันราวลูกกวาด)
โบกไม้โบกมือให้ผู้โยนให้ขว้างมาทางพวกเรา
ผมแย่งเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ และเด็ก ๆ
ผมจะเป็นกำมือ แต่เมื่อหมดงานก็แจกจ่ายให้เด็ก ๆ
ผมรู้สึกพวกเราต่างย้อนกลับไปสัมผัสบรรยากาศเด็ก ๆ อีกครั้ง
แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายกลับหมดแล้ว
เหลือเพื่อน ญาติพี่น้อง และพวกผม
ผมได้พรมน้ำมนต์ผ่านยอดมะยมที่รวบหลายก้านจนเป็นพุ่มโต
ผมพึมพำในใจให้พ่อ...
ผมคิดถึงภาพพ่อเพื่อนที่เมตตาต่อผม ให้ขนมและน้ำหวานตอนเด็ก
มันวนเวียนในสมองผมอีกครั้ง
ผมโอบกอดเพื่อน ราวให้ความอบอุ่นในใจของผมที่มีบ้างให้เพื่อน
ผมตบท้ายทอยเพื่อนเบา ๆ
กระซิบข้างหูบอกว่า ....
ตั้งสติดี ๆ เพื่อดูแลแม่ และดูแลตนเองให้ดี
เพื่อนร้องไห้ไม่หยุด
ผมก็น้ำตาซึม ๆ
ผมเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต้องเจอะเจอ ปลง-วาง และ เกิด-ดับ
วินาทีนี้ ผมขอเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกที่มีเลือดมีเนื้อนะครับ
เพราะผมยังมีหัวใจ ยังมีน้ำตา และความเสียใจอยู่...
............................................................