บทความแนวหน้าฉบับวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554
อียิปต์ มี EL-Baradei ไทยมีศุภชัย พานิชภักดิ์
สัปดาห์ที่แล้วผมเขียนเรื่อง เส้นทางเดินของผู้นำโลก 3 คน : หู จินเทา 2013, Obama 2012, อภิสิทธิ์ 2011 มีผู้อ่านสนใจส่งข้อเสนอแนะดีๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คุณประทีป เขียนว่า…
“เรียน ท่านอาจารย์ ผมน้องใหม่ เพิ่งนำเสนอแนวคิด เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยมีแนวร่วม มีดาวดวงใหม่ จุดพลังไว้บ้าง ความสว่างในด้านต่าง ๆ อาจจะเกิด ขึ้น เมื่อเราพยายามเดินหน้ากันจนมิลืมหู มิลืมตา เรากลับทบทวนใหม่ แล้วถอยหลังก็น่าจะมีแนวทาง ผมเกรงใจท่านมาก เพราะท่านมีแนวคิด อะไรไว้มากมาย หากมองเห็นความคิดของผมสักน้อยนิดก็ยังดี มีข้อคิดฝากบ้างเป็นพระคุณยิ่ง”
ผมได้เรียนคุณประทีปไปว่า ผมเขียนเพื่อดูว่าอนาคตทางการเมืองของ 3 คนจะเป็นอย่างไร? ไม่ใช่ประสบความสำเร็จหรือไม่ คุณประทีปแนะนำให้มองย้อนหลัง แน่นอนครับถ้าได้เป็นแล้วก็ต้องมองกลับว่า ทำอะไรสำเร็จหรือล้มเหลวจะต้องเรียนรู้จากอดีตแน่นอน
ผมคิดว่าคุณประทีปเป็นคนรุ่นใหม่ อายุไม่น่าจะเกิน 30 ปี แต่อ่านบทความและกล้าหาญสนใจส่งข้อมูลกลับมาซึ่งเป็นวิธีที่ดี ผมเป็นอาจารย์มานานแล้ว พร้อมรับฟังความเห็นของคนรุ่นใหม่ๆ เสมอ ได้แบ่งปันความรู้กัน ผมเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่ตลอดเวลาครับ
สัปดาห์นี้ มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ 2 เรื่อง
เรื่องแรก คือ กลุ่มพันธมิตรรุกหนักขึ้น นำเรื่องกัมพูชามาเป็นข้อต่อรอง มีประเด็นที่สำคัญหลายเรื่อง
ประเด็นคือ พันธมิตรต้องการพิสูจน์ว่าพลังกลุ่มสนับสนุนยังมีมากที่จะสร้างอำนาจต่อรองทางการเมือง หรือเพื่อไปสู่การปฏิวัติหรือสร้างปัญหาความไม่สงบให้ประเทศ
ผู้นำอย่างคุณอภิสิทธิ์ยังมีคุณประโยชน์ต่อชาติได้ในปัจจุบันและอนาคตตัวเลือกอื่นๆก็ดูมีคุณภาพอ่อนกว่าอย่างเห็นได้ชัด
กระแสปฏิวัติจึงเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ ถ้าเหตุการณ์รุนแรงควบคุมไม่ได้คนอย่างคุณจำลองก็เคยทำสำเร็จมาแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ก็ต้องรีบเจรจา อย่าประมาท ยกย่องให้เกียรติฝ่ายพันธมิตร
หรือเมื่อผ่านการแก้รัฐธรรมนูญแล้วก็รีบยุบสภาฯ
ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญเป็น 375 + 125 ก็ต้องยอมรับว่าอธิบายเหตุผลได้ลำบาก จริงอยู่พรรคใหญ่ได้ปาร์ตี้ลิสมากขึ้น แต่ก็ทำให้คนในประเทศมีความไม่สบายใจ โปรดอธิบายให้กระจ่างครับ
ส่วนเรื่องประเทศอียิปต์ ผมพูดใน Blog : www.chiracademy.comมาหลายครั้ง
แต่ข้อดีของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก ก็คือ
วันนี้ผมมีประเด็นหนึ่งที่จะเปรียบเทียบวิเคราะห์ผู้นำที่อาจจะเกิดทั้งในไทยและอียิปต์
ในอียิปต์รัฐบาลชุดใหม่อาจจะนำโดยคุณ EL-Baradei ก็ได้ ส่วนในเมืองไทยอีก 4 ปี ก็อาจจะเป็นยุคคุณศุภชัย พานิชภักดิ์ที่จะกลับมารับใช้ประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี
สองท่านมีอะไรคล้ายๆกัน
ข้อแตกต่าง
ประเด็นก็คือน่าสนใจว่า ผู้นำดังกล่าวทั้งอียิปต์และประเทศไทย อาจจะเป็นผู้นำเคยทำงานระดับโลกและมีชื่อเสียงแล้วก็กลับมาช่วยประเทศบ้านเกิดได้
จึงเป็นแนวโน้มใหม่ของโลกว่าผู้นำที่เกิดใหม่ต้องผ่านเวทีโลกมาก่อน
ไม่มีความเห็น