Zirakom Barwonverisa เมื่อมีคนทำดี เราต้องชื่นชมครับ จะได้เป็นกำลังใจให้คนดี แข็ง แรง คร้าบ
12 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจเลิกชอบ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท เห็นด้วยครับ คนไทยควรจะเปลี่ยนทัศนคติ ในการชมคนทำดีให้กำลังใจและสนับสนุน ไม่ใช่คอยหาเรื่องจับผิด และนำสิ่งผิดพลาดหรือใส่ร้ายป้ายสีกัน มีแต่การลงโทษกล่าวร้าย สื่อมีความสำคัญมากไม่ค่อยนำข่าวการทำความดีของคนมาเผยแพร่แต่กลับหาแต่สิ่งไม่ดีมาเป็นข่าว ผมเชื่อว่าประเทศไทยเรามีคนดีที่ต้องการทำงานรับใช้สังคมและประเทศชาติเป็นจำนวนมากแต่เขาไม่เป็นข่าว หรือไม่มีเวทีให้เขาทำกิจกรรม ผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจของบ้านเมืองต้องให้โอกาสและสนับสนุนคนดีๆให้มีโอกาสทำกิจกรรมครับ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจเลิกชอบ
Zirakom Barwonverisa สนับสนุน คนดีให้แข็งแรง เมื่อคนดีแข็งแรง ครอบครัว สถาบัน
และ บ้านเมือง ก็จะแข็งแรงตาม ร่วมใจคนดีสามัคคีครับ : ]
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจเลิกชอบ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท น่าจะเปิด blog แนะนำคนทำความดี นะครับ และให้โอกาสคนคิดดีๆมีความคิดในการสร้างสรรค์มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เป็นเวทีให้กับคนดีๆ คุณ Zirakom สนใจไหมครับ คุณ Zirakom จะเป็นผู้เปิด blog หรือจะให้ผมเปิดให้ก็ได้ครับ
ผมขอเสนอคนทำความดีที่อยู่ในดวงใจผม อันดับแรกคือ
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ท่านเป็นคนไทยผู้หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับทุนมนุษย์อย่างแท้จริง ท่านทำงานทุกวันเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทำด้วยใจ เห็นคุณค่าของคน สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ชั่วชีวิต
ประวัติ ดร.จีระ
ศ. ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
วัน/เดือน/ปี เกิด 7 กุมภาพันธ์ 2488
การศึกษา
ตำแหน่งปัจจุบัน
บทบาทและกิจกรรมที่สำคัญในปัจจุบัน
ประสบการณ์ในอดีต
งานด้านที่ปรึกษา
คนดีในดวงใจของผมท่านที่สองขอแนะนำ น.สพ.สมชัย วิเศษมงคลชัย เป็นคนดีที่ทำงานเพื่อสังคม โสด ไม่มีครอบครัว เป็นกำลังสำคัญให้กับวัดป่าหลวงตามหาบัว กาญจนบุรี
ประวัติ นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย
การศึกษา ประวัติหน้าที่การงาน ปัจจุบัน -กรรมการธนาคารสมองจังหวัดกาญจนบุรี -กรรมการสภา สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา -กรรมการศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) -กรรมการหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี -กรรมการบริษัท เปิดโลกการท่องเที่ยว จากัด -กรรมการบริษัท ภูมิปัญญาไทย กาญจนบุรี จากัด -อาจารย์พิเศษ ระดับปริญญาโท หัวข้อวิชา
-วิทยากรบรรยายประจา ธรรมสถานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย -ที่ปรึกษาฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว สวนสัตว์ดุสิต -สัตวแพทย์ดูแลสัตว์ภายในวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จังหวัดกาญจนบุรี -ผู้อานวยการ
-วิทยากรบรรยายทั่วไปในหัวข้อ
๑) แนวทางการพัฒนาจิต เพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขในทุกมิติ
๒)ธรรมชาติบาบัดกับการพัฒนาจิต
๓)การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
๔)มรดกภูมิปัญญาไทย
๕)การพัฒนาอย่างยั่งยืน
๖)การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
อดีต
-นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
-คณะกรรมการการท่องเที่ยวและการโรงแรม หอการค้าไทย
-คณะกรรมการอานวยการส่งเสริมกิจกรรมปีท่องเที่ยวเชิงนิเวศนานาชาติ (2545)
-คณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
-คณะทางานพิเศษเฉพาะด้าน โครงการอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
-กรรมการงานวิจัยแบบมีส่วนร่วมโดยความร่วมมือระหว่างสภาสถาบันราชภัฎกับสานักงานสนับสนุนเงินทุนวิจัยในประเด็น
“การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในชุชน”-อาจารย์พิเศษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์
-
กรรมการคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาผลงานด้านเอกสาร
- เขียนหนังสือ
“แนวทางการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชน ”คนดีในดวงใจของผมทั้งสองท่านที่ผมแนะนำไปต่างมีกิจกรรมและเวทีมากหลาย เป็นที่รู้จักของคนไทยและคนทั่วโลก ผมอยากให้ช่วยกันหาคนดีที่ยังไม่มีคนรู้จักหรือ คนที่คิดดีคิคสร้างสรรค์ แต่ยังไม่มีเวทีทำกิจกรรม นำมาแนะนำให้รู้จักกันครับ จะได้ช่วยกันชื่นชมและให้การสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
ผมได้เข้าไปอ่าน blog ของคุณเสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล และคิดว่าน่าจะเป็นผู้ที่คิดดี คิดสร้างสรรค์เพื่อสังคมและประเทศชาติได้ จึงขอนำมาแนะนำ ในที่นี้ ผมยังไม่เคยรู้จักกับคุณเสาวลักษณ์ เป็นการส่วนตัว รู้จักคุณเสาวลักษณ์จากการอ่านใน blog เท่านั้น จึงขอชักชวนให้ทุกท่านเข้าไปเยี่ยมชม blog http://gotoknow.org/profile/saowalakpk และช่วยยืนยันกับผมด้วยครับว่า คุณเสาวลักษณ์ เป็นผู้ที่คิดดี คิดสร้างสรรค์ ที่เราควรจะชื่นชม เช่นเดียวกับผมหรือไม่
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
ดีใจครับที่มีความคิดตรงกัน เห็นด้วยครับที่ว่าคนทำความดีและคิดดีทำให้เขามีความสุขถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่กับตัวเขาเอง เขาไม่ได้หวังให้ใครนำไปประกาศเพื่อยกย่องตัวเขา แต่ที่คุณเสาวลักษณ์และผมมีความเห็นตรงกันคือเราต้องการสร้างกระแสความดีเพื่อให้คนอื่นนำไปเป็นตัวอย่าง และหันมายกย่องและเกิดแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสิ่งดีๆให้กับสังคมและประเทศชาติ สร้างเครือข่าย รวมถึงความเชื่อมโยงที่ชุมชน G2K ตามที่คุณเสาวลักษณ์กล่าวถึงด้วยครับ (ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจชุมชน G2K ถูกต้องหรือเปล่าช่วยขยายความด้วยครับ) ขอให้คุณเสาวลักษณ์จัดทำ blog แนะนำคนดี ของคุณเสาวลักษณ์เอง ตามที่เคยคิดไว้ได้เลยครับ คุณเสาวลักษณ์มีสมาชิกติดตามอยู่แล้วจำนวนมากกว่าblog ของผมมาก จะได้มีช่องทางการเข้าถึงผู้สนใจมากขึ้น
นับถือ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
คนดีในดวงใจคนที่ 4 ขอแนะนำคุณฉัตรชัย มงคลวิเศษไกวัล ท่านเป็นรองประธานคณะกรรมการกฎระเบียบและการค้าระหว่างประเทศ ประธานคณะอนุกรรมการด้านการค้าบริการ รองประธานคณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรี ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ท่านทำธุรกิจก่อสร้าง เป็นคนดีที่มีความคิดสร้างสรรค์ ทำงานเพื่อส่วนรวมคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ท่านเป็นตัวแทนของภาคธุรกิจที่ทำงานร่วมกับกรมเจรจาการค้า กระทรวงพาณิชย์
ตามมาชื่นชมค่ะ จุดเล็กๆที่เริ่มทำ น่าจะทำให้คนไทยรู้สึกมีความหวังขึ้นมาได้ ว่าประเทศเรายังมีคนคิดดี ทำดีค่ะ
เพราะทุกวันนี้แค่เห็น สส อภิปรายในสภาฯ จะทำให้เด็กไทยเคยชิน อาจทำให้นิสัยคนไทยเปลี่ยนไปได้ค่ะ
ขอบคุณครับคุณแก้ว ขอให้ทุกๆคนช่วยกันครับ คนเราเกิดมาควรจะสร้างความสุขให้กันและกัน อยากให้คนไทยทุกคนทำดี พูดดี และคิดดีๆ คิดสร้างสรรค์ ทุกคนได้พบเห็นสิ่งดีๆ ได้ยินได้ฟังแต่สิ่งดีดี ชีวิตจะได้มีความสุข สร้างอาหารดีๆให้จิตใจของแต่ละคน สังคมจะมีชีวิตชีวา ไม่หดหู่ ครับ
เยาวชนและเด็กไทยฉลาดครับ เพียงแต่เขาสับสนเพราะผู้ใหญ่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี เด็กและเยาชนที่มีคุณพ่อคุณแม่ดีให้ความรักและอบรมสั่งสอนลูกด้วยเหตุและผล มีคุณธรรม ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่ทุนนิยม เด็กและเยาชนเหล่านั้นจะเป็นกำลังที่เข้มแข็งของประเทศในอนาคต
ยินดีที่ได้รู้จักท่านนะครับ
ยินดีที่รู้จักคุณชัยวุฑโฒ เช่นกันครับ อยากให้คุณชัยวุฑโฒ แนะนำ คนดี คิดดี คิดแบบสร้างสรรค์ ที่คุณ ชัยวุฑโฒ รู้จัก หรือจะแสดงความคิดเห็นดีๆ ที่สร้างสรรค์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆหรือคนอื่นได้ มีความรู้สึกที่ดีๆ เพื่อสร้างความสุขให้กับทุกๆคนที่ได้อ่านครับ
ผมอายุมากแล้ว คงไม่สามารถผลักดันให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยได้ทันอายุไขของผมมากนัก คงหวังแค่ได้จุดประกายเพื่อให้คนรุ่นคุณชัยวุฑโฒมาขับเคลื่อนต่อให้บรรลุเป้าหมายคือทำให้สังคมไทยเข้มแข็ง เต็มไปด้วยเหตุผล มีความสามัคคี สร้างประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรื่องอย่างยั่งยืน ประชาชนมีความสุข เข้าใจหลักการดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่งมงายต่อระบบทุนนิยม
ขอบคุณครับพี่ที่เปิดเวที
ส่วนผมได้เห็นได้คิด ก็ขอเริ่มต้นทำจากความดีเล็ก ๆครับ
พอดีได้รับคำเชิญชวนให้ไปตักบาตรหนังสือที่ พุทธคยา หน้าอาคารอัมรินทร์พลาซ่า
สี่แยกราชประสงค์ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 7.00 น. ของคุณ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
จึงรีบไปร่วมทำบุญพร้อมกับรับศีลรับพร (ถือศีล 5) ในวันที่ 17-18 กุมภานี้ ครับ
ใครที่มีกิจกรรมดี ๆ คณะความดีจะส่งเสริม ดีไหมครับ พี่
ยินดีด้วยครับ ท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ก็ไปร่วมทำบุญในงานตักบาตรหนังสือที่เดียวกับคุณสิรคม ครับ ไม่ทราบเจอท่านหรือเปล่า ท่านนำมาเขียนลงใน blog ของท่านด้วยครับ
สวัสดีครับทุกท่าน
วันนี้ได้รับ e-mail ดีๆจากเพื่อน เป็นคำสอนดีๆของท่าน ว.วชิรเมธี จึงขอนำมาฝากผู้อ่าน
พร 4 ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี
รักษา "หัวใจ" ของใครคนนั้น...คนที่เรารัก ประหนึ่งหัวใจ "ตน"
ให้สมกับที่เขา...ไว้ใจ และเชื่อใจ ที่ฝากหัวใจ...ไว้ที่เรา
|
วันนี้ช่วง 14.00 น ได้มีโอกาสชมรายการยิ้มสู้ของทีวีไทย ได้นำเรื่องราวของคุณโสภณ ฉิมจินดา มาเสนอแก่ผู้ชม คุณโสภณ พิการเดินไม่ได้ แต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและคุณค่าให้กับตัวเองแถมยังสามารถเผื่อแผ่ให้กับคนอื่น มีจิตอาสา เป็นกำลังสำคัญในการร่วมมือกับคนในชุมชนสร้างสำนักปฎิบัติธรรมให้กับชาวเผ่าอาข่า ผมมีความชื่นชมคุณโสภณ มากและขอยกย่องให้เป็นคนดี คิดดี ปฏิบัติตัวได้อย่างยอดเยี่ยมสมควรเป็นแบบอย่างที่ดีของคนไทย ขอแสดงความนับถือและยกย่องด้วยความจริงใจ ถ้าท่านใดรู้จักคุณโสภณมากกว่าที่ผมกล่าวมาช่วยนำสิ่งที่น่าชื่นชมมาเล่าให้ท่านอื่นๆได้ทราบเพิ่มเติมด้วยครับ หรือถ้าคุณโสภณได้อ่าน blog นี้ อยากขอเชิญคุณโสภณช่วยเข้ามาเล่าเรื่องราวดีๆที่คุณโสภณได้ทำให้คนอื่นได้ปลื้มกับคุณโสภณ ด้วยครับ
ในวันนั้น (ตักบาตรหนังสือ) คนค่อนข้างเยอะและผมไม่รู้จักกับท่านเลยไม่ทราบและไม่ได้เข้าไปทักท่านน่ะครับ
ว่าแต่ Blog ของท่านที่ว่า เขียนเกี่ยวกับการตักบาตรในวันนี้พี่ช่วยลิงค์ให้ผมหน่อยครับจะได้เอาแบบอย่างในการเขียน Blog บ้าง
ต้องขอโทษที่หลายหน้าไปหลายวัน เพราะออกตลาดครับ งานของคมต้องออกหาลูกค้าครับเลยไม่ว่างเขียนตอบพี่ ส่วนอีกเรื่องที่ขอความเห็นพี่ก็คือ ในวันมาฆบูชานั้น คมได้ไปเวียนเทียนด้วย และพบว่าขณะเวียนเทียนก็มีผู้หญิงฆราวาสทั้งที่แต่งชุดธรรมดาและชุดขาวถือศีล พยายามที่จะเดินแถวหน้าต่อจากพระ ค่อนข้างขัดใจผมเล็กน้อย เพราะ นึกภาพตอนเวียนเทียนที่คนอาจเยอะ และมีการเบรคได้ ซึ่ง เป็นไปได้ที่ธูปอาจไปจิ้มพระ หรือ สีกาจะไปชนพระได้ ซึ่งก็เกือบไปจริง ๆ จนผมต้องบอกสีกาท่านนั้น เลยอยากฝากพี่ ๆ และทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะแทนที่จะได้บุญกลับทำบาปให้พระอาบัตินี่ประไร และยิ่งขณะนี้มีการเชิญชวนให้สีกามาบวชหรือถือศีลในธรรม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี แต่อยากจะให้จัดเป็นสัดส่วน เพราะการให้สีกาเข้าวัดเป็นเรื่องดี และอย่าให้ชิดจนเกือบชนกันขนาดนี้ พระที่ท่านตบะแก่กล้าก็คงไม่มีปัญหาแต่อย่าลืม ว่าวัด บางทีก็มีพระที่มาจำพรรษาหรืออุปสมบทหมู่ระยะสั้น ๆ คงปลงยากน่ะ ครับ ถ้าแค่ระยะสั้น ก็คงพอไหว แต่นานนัก พี่เป็นผู้ชายก็คงเข้าใจความหมายนะครับ เดี๋ยวสีกาที่หวังบุญจะกลายเป็นมารผจญเปล่า ๆ ที่ผมกล่าวมานี้ไม่ใช่จะขวางบุญนะครับ ฆราวาสสนับสนุนศาสนาเป็นเรื่องดี แต่อยากให้ช่วยดูแลการจัดสรรไม่ให้ขัดศีลที่พระทุกรูปต้องปฏิบัติด้วย ขอบคุณครับมีอะไรก็แนะนำกันหน่อยนะครับ จาก เด็กใหม่หัดทำดีค้าบ
สวัสดีครับคุณสิรคม
เรื่องblog ที่ถามมาขอให้ย้อนขึ้นไปดูตอนต้นๆที่ผมแนะนำประวัติ ศ.ดร.จีระ ช่วงสุดท้ายจะมี link เข้าไปหา ดร.จีระ www.chiraacademy.com เมือกด link เข้าไปในเวปนั้นแล้วด้านซ้ายมือจะเห็นรายการ blog ของ ท่าน ดร.จีระหลาย blog ด้วยกัน ให้เลือก chiraacdemy เมื่อเข้าไปแล้วก็เลือกอ่านแต่ละ blog ได้เลยครับ
สำหรับเรื่องที่คุณสิรคมแสดงความคิดเห็นเรื่องสิ่งที่พบและความเป็นห่วงเนื่องในวันมาฆบูชา ผมเห็นด้วยครับ พูดถึงเรื่องนี้ ผมเองก็มีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตของเจ้าอาวาสที่อยากจะแบ่งปัน แต่เนื่องจากขณะนี้ผมยังไม่สะดวกมีภาระกิจอื่นค้างอยู่ จึงขอเป็นคราวหน้าครับ
ผมให้เกียรติและยกย่องคนดีทุกท่าน ที่ทำความดีให้สังคม ชุมชน ชาติบ้านเมือง และมวลมนุษย์โลก ที่ทำด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจ ขอให้ผลดีที่ท่านทำจงส่งผลดีกับตัวท่านทั้งภพนี้ แลภพหน้าด้วยครับ..สำหรับผมจะทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้จนสุดความสามารถเท่าที่มีชีวิตที่เหลืออยู่ครับ..
จากความเห็นที่ #2374848
ขอบคุณครับผมสำหรับคำชื่มชน เสียดายเมื่อวันที่ออกอากาศไม่ได้ดูเพราะอยู่ในช่วงเดินทาง Backpackไปเวียดนามพึ่งได้กลับมาดูย้อนหลังเมื่อวาน อ่านความคิดเห็นแล้วรู็สึกมีแรงขึ้นอีกแยะเชียวครับ ใว้มีโอกาศจะเข้ามาเล่าเรื่องการเดินทางให้ฟังครับ เพราะทุกครั้งของการเดินทางมันก็คือการออกไปเรียนรู้โลกเหมืิอนกัน ได้อะไรใหม่ๆกลับมาทุกทริป
ขอบคุณอย่างสูงครับผม
สวัสดีครับ คุณครูโหล คุณโสภณ ฉิมจินดา
ขอบคุณครับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ของผู้อ่าน คุณครูโหล โชคดีที่มีอาชีพเป็นคุณครู เป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี เพราะท่านเป็นพ่อแบบและเป็นผู้ให้ความรู้กับเด็กและเยาวชน เป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ การสร้างคนให้เป็นคนดีมีความรู้ถือเป็นการสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสร้างทุกสิ่งบนโลกมนุษย์
สำหรับคุณโสภณ ผมดีใจจริงๆครับที่ได้สนทนากับตัวจริง ผมรู้จักท่านในทีวี มีความประทับใจกับท่านโสภณ มาก ในทีวีผมติดตามไม่ทัน ไม่ได้ดูตั้งแต่แรก และคิดว่าหลายๆท่านที่เข้ามาอ่าน blog นี้ น่าจะอยากทราบความเป็นมาของท่าน จึงอยากขอเชิญท่านเล่าความเป็นมาของท่านใน blog นี้ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆท่าน
สวัสดีครับคุณสิรคมและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน
ผมติดค้างคุณสิรคม ในการแสดงความคิดเห็นของคุณสิรคมเกี่ยวกับ " ฆราวาสสนับสนุนศาสนาเป็นเรื่องดี แต่อยากให้ช่วยดูแลการจัดสรรไม่ให้ขัดศีลที่พระทุกรูปต้องปฏิบัติด้วย"
ข้อคิดของคุณสิรคม เป็นเรื่องที่น่าศึกษาครับ และขอยกเรื่องที่ผมประสบเกี่ยวกับภาระกิจของเจ้าอาวาส ที่ผมนับถือท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้
มีผู้แนะนำเจ้าอาวาสองค์หนึ่งให้ผมรู้จักว่าท่านเป็นพระที่เก่งมากสามารถรู้ทุกอย่างที่เราต้องการมาพบท่านโดยไม่ต้องรอให้เราบอกท่าน ผมและภรรยาจึงเดินทางไปพบท่าน หลังจากนั้นก็เกิดความเลื่อมใส เป็นลูกศิษย์ท่านทั้งครอบครัว ท่านได้สอนและให้คำแนะนำที่ดีมาก ท่านเก่งเรื่องการจัดการมีกิจกรรมทำบุญเป็นประจำ ทั้งการสร้างโบสถ์ใหม่แทนโบสถ์เก่าที่ผุพังไปตามระยะเวลา รวมถึงการไปทำบุญตามสำนักสงฆ์และวัดที่ห่างไกลความเจริญ
เมื่อสองปีที่แล้วลูกชายผมแจ้งความจำนงว่าต้องการจะบวชพระและเจาะจงที่จะไปบวชที่วัดของเจ้าอาวาสที่ผมกล่าวถึง ผมและภรรยาจึงไปปรึกษาท่านเจ้าอาวาสองค์นั้น ท่านเจ้าอาวาสช่วยดำเนินการบวชให้ลูกชายอย่างดีเกินกว่าที่ผมและภรรยาคาดหวัง และดีใจที่ลูกชายบวชเป็นพระและหวังว่าจะบวชจนครบพรรษา เนื่องจากวัดอยู่ต่างจังหวัด และช่วงนั้นผมยุ่งจึงไม่มีเวลาไปเยี่ยมลูกชายหลังจากงานบวชเป็นเวลาร่วม 2 อาทิตย์ และอยู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายว่าขอให้รีบปรึกษาท่านเจ้าอาวาสเพื่อหาวันสึกโดยเร็วที่สุดเพราะทนไม่ไหวแล้ว ผมและภรรยาตกใจมาก และได้ทราบว่า ที่วัดมีพระที่บวชใหม่ มาวุ่นวาย พระบวชใหม่หลายๆรูปหนี้คดีฆ่าคน และดื่มเหล้า ติดยาเสพติด ร้ายกว่านั้นมีพระบวชใหม่อยู้รูปหนึ่งเข้ามาวุ่นวายในกุฎิของลูกชาย มาเปิดค้นของทุกชนิด และคอยจับต้องร่างกายและพยายามมากอดจูบลูกชายอยู่บ่อยๆ ลูกชายพยายามอดกลั้นและห้ามปรามแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขืนอยู่ต่อไปกลัวว่าจะอดทนไม่ไหวเดี๋ยวจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น
ผมและภรรยาจึงรีบโทรไปหาท่านเจ้าอาวาสและแจ้งความประสงค์ขอให้ท่านตรวจดูวันสึกให้ลูกชาย ถือว่าโชคดีที่สามารถหาวันสึกได้โดยเร็ว วันที่สึกลูกชายพระใหม่ได้ขอสึกตามในวันเดียวกันอีก 3 รูปและมีพระที่สร้างปัญหาให้ลูกชายขอสึกด้วย
หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสพบและสนทนากับท่านเจ้าอาวาสในเรื่องของลูกชายช่วงที่บวชพระ และถามท่านว่าท่านทราบหรือไม่ ท่านแจ้งว่าท่านทราบ ผมจึงเรียนถามท่านว่าและท่านทำไมไม่แก้ไขอะไร ลูกชายมีความตั้งใจสูง แต่เมื่อมาเจอปัญหาจากพระร่วมวัดจึงทำให้ลูกชายต้องสึก ฟังแล้วน่ากลัวมาก ท่านจึงเล่าให้ฟังว่าวัดท่านเป็นวัดที่อยู่บ้านนอก ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงต่างมาพึ่งพาท่าน สังคมทำให้เด็กมีปัญหา พ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูก จึงหวังว่าหลวงพ่อจะช่วยลูกได้ จึงให้ลูกมาบวช ทั้งๆที่ท่านรู้พฤติกรรมของผู้ที่มาบวช แต่ท่านจะปฎิเสธได้อย่างไร ท่านเป็นความหวังสุดท้ายของบรรดาพ่อแม่ที่ลูกมีปัญหา
ส่วนเรื่องการเรี่ยไรเงินให้คนมาทำบุญสร้างวัตถุต่างๆ นั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อความต้องการของฆราวาสทั้งสิ้น ฆราวาสเป็นผู้มาแจ้งว่าต้องการทำบุญสร้างโน้นสร้างนี่ ท่านจะขัดคนทำบุญได้ไหม เมื่อมีการจัดสร้างสิ่งใดตามความศรัทธาของฆราวาสครั้งหนึ่งก็จะมีครั้งต่อๆไปเป็นงูกินหาง ในที่สุดก็เดือดร้อนทำให้ท่านต้องหาเงินมาสร้างต่อ ท่านต้องลงไปบริหารจัดการในสิ่งต่างๆที่ไม่น่าจะเป็นกิจของสงฆ์ เมื่อฟังเรื่องต่างๆจากท่านแล้วรู้สึกเห็นใจท่านมาก ภาระกิจของเจ้าอาวาสมากมายเหลือเกิน ยิ่งทำมากยิ่งขัดต่อการหลุดพ้นของท่าน กลายเป็นเรื่องของวัตถุมากขึ้นตลอดเวลา เป็นสิ่งที่ท้าทายการหลุดพ้นของท่านเป็นอย่างมาก เป็นภัยของศาสนาอย่างยิ่ง ทำให้พระดีๆหาอยากขึ้นทุกวันเพราะสภาพแวดล้อมและสังคมที่ล้มเหลว
ท่านเจ้าอาวาสเหนื่อยมากวันๆแทบไม่มีเวลานอนและปฎิบัติกิจของสงฆ์ ต้องพบฆารวาสตลอดทั้งวัน ช่วยเหลือแนะนำคนที่มาพบ มีแต่ปัญหามาให้ท่าน ไหนจะเรื่องเงินทองของวัด การบริหารจัดการ มากมาย เชื่อไหมว่าเจ้าอาวาสเปรียบเหมือนกรรมการผู้จัดการบริษัทที่ต้องบริหารจัดการบริษัทให้อยู่รอด ดูแลพระในวัด ฆราวาส บริหารจัดการทั้งคน และเงิน ท่านไม่ใช่นักธุรกิจแต่ต้องทำหน้าที่เหมือนนักธุรกิจ
ท่านเจ้าอาวาสเห็นว่าผมลาออกจากการบริหารงานภาคธุรกิจ และทำงานเพื่อสังคม จึงชวนให้ผมมาบวชที่วัดท่าน และวางแผนที่จะให้ผมมาช่วยท่านบริหารจัดการและเชื่อมั่นว่าผมจะเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอนาคต
ผมได้ปฏิเสธท่านเพราะคิดว่าผมอยู่อย่างปัจจุบันผมสามารถช่วยสังคมและประเทศชาติได้มากกว่า มีโอกาสสร้างบุญและหาทางหลุดพ้นได้มากกว่าการที่จะเป็นพระในแนวทางของท่าน ผมไม่ได้หมายความว่าแนวทางของท่านผิด แต่ถ้าผมจะบวชเป็นครั้งที่สองผมจะเลือกการปฎิบัติในทางหลุดพ้นที่ไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป
วันนี้ได้ดูรายการทีวีของช่อง TNN เป็นเรื่องการทำวิจัยของนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เป็นเรื่องเกี่ยวกับการท้องก่อนวัย ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมในปัจจุบัน ผมขอชื่นชมกับผู้นำเสนอเพราะเป็นการชี้แนวทางออกให้กับสังคม
เรื่องมีอยู่ว่านักศึกษา ม.3 ท้องกับเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน นักศึกษาท่านนั้นตัดสินใจนำเรื่องไปปรึกษาผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจและไม่ได้ตำหนิและยินดีช่วยเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมา เมื่อคลอดบุตรนักศึกษาคนนั้นก็ไปเรียนต่อจนจบปริญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง ผมขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาผู้นั้น และขอชมเชย คุณแม่ของนักศึกษา ที่ทำหน้าที่แม่ได้อย่างเยี่ยมยอด คุณแม่เล่าให้ฟังว่าท่านทราบว่าลูกสาวท้องในวันคล้ายวันเกิดของลูกสาว ท่านสะเทือนใจแต่ไม่ได้ตำหนิลูกสาว คิดว่าท่านเองมีส่วนเพราะได้แยกทางกับสามีทำให้ลูกสาวไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว ถือว่าท่านมีส่วนทำให้ลูกสาวผิดพลาด และตกลงที่จะเลี้ยงดูหลานเองทำให้ท่านต้องทำงานหนักขึ้น
ผมขอชื่นชมนักศึกษาที่มีความแนวแน่ที่จะรักษาลูกโดยไม่ทำแท้ง ยินดีที่ตัดสินใจเล่าให้มารดาทราบ และยินดีที่ตั้งใจเล่าเรียนจนประสบผลสำเร็จ จริงอยู่นักศึกษาท่านนั้นผิดพลาดในเบื้องต้นไม่ควรนำมาเป็นตัวอย่าง แต่ขอให้คิดในมุมมองที่กว้างขึ้น คนเราสามารถทำผิดได้ แต่เมื่อผิดแล้วแก้ไขให้ดีขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง และถือเป็นแบบอย่างของผู้ที่ทำผิดพลาดได้ เราไม่ควรจะซ้ำเติมคนที่ผิดพลาดควรจะแนะนำหาทางแก้ไข และให้กำลังใจ
ขอชมเชยคุณแม่ ท่านเป็นแม่ที่ดีที่ควรยกย่องและเอาอย่างไม่ตีโพยตีพายว่ากล่าวและตำหนิลูกที่ทำผิดพลาดให้ช้ำใจยิ่งขึ้น พิจารณาตัวเองและคิดว่าตัวเองมีส่วนทำให้ลูกผิดพลาด ให้กำลังใจและช่วยลูกแก้ไข
คนดีได้รับการยกย่องตอนตายไม่กี่วัน คนชั่วนั้นดันสรรเสริญเกินไปหนา
กร่นสาปแช่งตอนตายวายชีวา สังคมบ้าเพราะสื่อเบี้ยวเที่ยวทำกัน
กระแสนี้ที่ท่านทำสนับสนุน ต้องเทิดทูนคนดีที่สร้างสรรค์
ตอนเขามีชีวิตคิดผลงาน ส่วนคนพาลไม่ยกย่องมองผ่านเลย
เปลี่ยนความคิดสังคมใหม่ได้อย่างนี้ ใครทำดีร่วมกันสรรเฉลย
ไม่ดีแท้แค่สร้างภาพจับทิ้งเลย ร่วมกันเอ่ยเผยคนดีมีสื่อไป
ขอแนะนำคนดีมีชีวิต ท่านอุทิศความดีมีคุณค่า
พลโทประสิทธิ์ นวาวัฒน์ท่านทำมา 66/25 นโยบาย
แก้คอมมิวนิสต์จากเมืองไทยแทบหายหมด ร่วมกำหนดทิศทางไทยไกลฉิบหาย
กับ อ.ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ย้อนเสียดาย แต่คนได้ผลงานคือท่านเปรม
พลโทประสิทธิ์ นวาวัฒน์ ท่านมุ่งมั่น ร่วมสร้างสรรค์ประชาธิปไตยไทยเกษม
แก้ลัทธิเผด็จการดันคุมเกม ท่านดีเต็มร้อยเปอร์เซนต์ที่เห็นมา
อีก อ.วันชัย พรหมพา น่ายกย่อง เหมือนดังทองปิดก้นพระน่าค้นหา
สร้างประชาธิปไตยให้พารา นี่แหละหนาคนดีที่โลกลืม
สวัสดีครับ คุณวิโรจน์
ขอบคุณครับที่เข้ามาให้ข้อมูล ผมดีใจมากๆครับ กำลังเป็นห่วงอยู่ว่า ไม่ค่อยมีใครพูดเรื่องความดีของคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำความดีและเกิดผลให้เห็นแล้ว หรือคนดีที่กำลังเริ่มทำความดี รวมถึงคนที่คิดดี ผมมีความเชื่อมั่นว่าคนไทยที่ทำดี คิดดี คิดสร้างสรรค์ มีมากครับ แต่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง มัวแต่พูดถึงเรื่องไม่ดี ไม่สร้างสรรค์
ขอบคุณคุณวิโรจน์เป็นอย่างสูงครับ นอกจากแนะนำคนดีที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติแล้วยังแต่งเป็นกลอนมาให้อ่าน ทำให้นึกถึงตอนเป็นนักเรียน ที่ต้องนั่งท่องกลอนมากมาย มีกลอนเพราะๆให้ท่องมาก แต่บังเอิญผมเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องท่องจำ จึงไม่แตกฉานเรื่องภาษา สอบตกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คิดแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีก
ขอนำประวัติของคุณวิโรจน์ที่เขียนเป็นกลอนมาฝากท่านผู้อ่านครับ
ขอบันทึกประวัติไว้ในที่นี้ เกิดวันที่ 25 พระจันทร์ฉาย
สวัสดีครับ คุณวราภรณ์ ธรรมทิพย์สกุล
ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาและชื่นชมแนวความคิดในการเปิดบันทึกแนะนำคนดี การได้อ่านหรือฟังเรื่องดีๆทำให้เกิดความสุข ปลื้มปิติ เป็นตัวอย่างให้คนอ่านนำไปคิดและปฏิบัติตาม สร้างแรงจูงใจ ปัจจุบันสื่อทั่วๆไปจะมีแต่เรื่องเศร้า และเรื่องปัญหามากมาย ทำให้คนเครียดหมดความสุข ผมจึงอยากให้มีเวทีที่ให้คนเข้ามาร่วมกันหาความสุข เวทีที่เต็มไปด้วยความรู้และการยกย่อง สร้างคุณค่าให้กับคนไทยด้วยกัน หวังว่าจะได้รับการแนะนำคนดีๆที่คนกรุงไม่รู้จักจากคุณวรภรณ์ เร็วๆนี้ครับ
สวัสดีครับขออนุญาติเอาคลิป VDO รายการ Ignite ทีวีไทย มาฝากครับ
ออกอากาศเมื่อคืนตอนห้าทุ่ม
http://www.youtube.com/watch?v=fHGzYkSGWxE
ตอนสองครับ
สวัสดีครับคุณโสภณ
ขอบคุณครับที่นำคลิป VDO มาลงไว้ใน blog นี้ ผมเข้ามาดูตั้งแต่วันแรกที่คุณโสภณนำมาลง ว่าจะตอบขอบคุณพอไปทำอย่างอื่นก่อนเลยลืม หวังว่าจะได้ร่วมกิจกรรมดีๆเพื่อสังคมกับคุณโสภณครับ
วันนี้ขอแนะนำผู้ใหญ่ที่ผมนับถือและรู้จักมานานมากกว่า 30 ปี ท่าน ร.ศ.ดร.เสรี พงศ์พิศ ท่านเคยเป็นเจ้านายผม สมัยที่ผมยังหนุ่มๆ แต่เสียดายที่มีโอกาสรับใช้ท่านเพียงระยะสั้นๆ หลังจากนั้นได้พบท่านเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีโอกาสได้สนทนากับท่านเท่าใด วันอังคารที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ให้เป็นวิทยากรพี่เลี้ยง ในโครงการพัฒนานักบริหาร หลักสูตร "ค่ายผู้นำรุ่นใหม่ของ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย) ในหัวข้อ สกย กับการทำงานร่วมกับชุมชน โดยมีท่าน รศ.ดร.เสรี พงษ์พิศ เป็นวิทยากร ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสรับใช้ท่าน และได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับชุมชนจากท่านเพิ่มเติม
และแล้ววันนี้ผมได้รับ mail จากเครือข่ายของผม ที่ส่งข้อเขียนดีๆของท่าน รศ.ดร.เสรี พงศ์พิศ มาให้อ่าน จึงถือโอกาสแนะนำคนดีของชาติให้รู้จักและขอนำข้อเขียนของท่านมาแบ่งปันให้อ่านกันดังนี้
ข้อเขียนดีๆของดร.เสรี พงศ์พิศ ปราชญ์ชาวไทย ขออนุญาตคัดลอกมาลงต่อเผื่อมีใครยังไม่ได้อ่านครับ
***********************************************
ทำไมคนไทยเห็นด้วยกับการโกงกิน
สยามรัฐรายวัน 27 กรกฎาคม 2554
เอ แบคโพลล์สำรวจความคิดเห็นของคนไทยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.5 คิดว่ายอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตแล้วทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย ขณะที่ร้อยละ 35.5 ยอมรับไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าจะหาคำตอบร่วมกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะ เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะมีในประเทศอื่น โดยเฉพาะที่พัฒนาแล้ว ขณะที่บ้านเราเห็นกันชัดเจนในการเลือกตั้งว่าโกงกันอย่างโจ่งแจ้ง ซื้อเสียงกันหัวละเป็นพัน บ้านละเป็นหมื่น ว่ากันว่าหลายคนหมดไปหลายสิบล้าน บางคนถึง 100 ล้านก็มี ชาวบ้านก็รับเงินไปโดยไม่บ่นว่า ดีใจเสียอีกที่ได้เงิน
นักการเมืองที่ซื้อเสียงก็ต้องถอนทุนด้วยวิธี การสารพัด การเข้าสู่อำนาจเป็นการลงทุน ชาวบ้านจำนวนมากคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา เหมือนมีหญิงบริการ มีอาบอบนวดที่รู้กันทั่วว่าเป็นการขายบริการทางเพศ แต่ก็ “รับได้” ไม่เห็นเสียหายอะไร ดีกว่าไปปล้นเขา ไปขายยาเสพติด
หรือว่าปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้ ช่วยให้เข้าใจว่า ทำไมคนไทยส่วนใหญ่จึงยอมรับการโกงกินหรือการคอร์รัปชั่นได้
๑. จิตสาธารณะต่ำ ไม่มีสำนึกของส่วนรวม คิดว่าที่เขาโกงไม่ใช่เงินตัวเอง ส่วนใหญ่ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ และไม่เข้าใจว่าตนเองเสียภาษีทางอ้อม ภาษีที่ซื้อกินซื้อใช้ และไม่มีสำนึกเรื่อง “สมบัติส่วนรวม” ที่เกิดขึ้นจากสติปัญญา น้ำพักน้ำแรงของทุกคนร่วมกันในรูปแบบต่างๆ
๒. โครงสร้างสังคมไม่เป็นประชาธิปไตย สังคมที่มีธรรมาภิบาล หรือบริหารด้วยธรรม ด้วยความถูกต้อง ด้วยกฎหมาย เป็นธรรมรัฐ เป็นนิติรัฐ ตรวจสอบได้ โปร่งใส่ อะไรที่สังคมไทยวันนี้ยังไม่มี ยังไม่เป็น จึงไม่มีระบบอะไรที่จะตรวจสอบได้ว่า นักการเมืองโกงไปเท่าไร รู้ทั้งรู้ว่าคนเหล่านี้โกงกิน
สังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แม้ไปเลือกตั้ง แต่ไม่มีสำนึกประชาธิปไตยก็หาได้เป็นประชาธิปไตยไม่ เป็นสังคมที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ไม่สามารถตรวจสอบได้ ไม่มีสำนึกในสิ่งที่เกิดกับบ้านเมือง ไม่ร่วมกันแก้ไขปัญหา แต่ปล่อยให้นักการเมือง “สัปทานอำนาจ” เข้าไปทำหน้าทีทุกอย่างแทนตนเอง
๓. อำนาจนำของฝ่ายปกครอง หรือ Hegemony ของผู้อยู่ในอำนาจ ครอบงำสังคมอย่างแนบเนียนจนกระทั่งผู้คนยอมรับพฤติกรรมของฝ่ายอำนาจนั้นโดย ดุษฎี ไม่มีคำถาม ไม่โต้เถียงขัดแย้ง เป็นสังคมที่ใช้อำนาจใช้เงิน ใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อเข้าสู่อำนาจ บริหารอำนาจ รักษาอำนาจ ครอบงำด้วยอำนาจ
๔. สภาวะยอมจำนน จำยอมเพราะไม่มีทางออก ไม่มีทางไป เหมือน “หมาบนทางด่วน” ไม่รู้จะไปทางไหน สุดท้ายยอมให้เขาเอาขึ้นรถ จะพาไปไหนก็ยอมไป ขอให้รอดปลอดภัยก็พอ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้สิน ไม่พออยู่ ไม่พอกิน ดิ้นรนปากกัดตีนถีบไปวันๆ มีมือที่เขายื่นมาให้จับ คนจะจมน้ำก็ย่อมจับเพราะไม่อยากตาย ไม่ว่ามือนั้นจะสกปรกเพียงใด
๕. ทุนนิยมสามานย์ ถือว่า “โลภแหละดี” (greed is good) ถ้าไม่โลภสิแย่ เศรษฐกิจจะถดถอย สังคมไทยไม่ใช่สังคมโบราณที่มีเศรษฐกิจคุณธรรม (moral economy) แต่เป็นทุนนิยมที่ระบบการแข่งขันโหดร้ายรุนแรง ที่ใครมือยาวสาวได้สาวเอา ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ถึงคุยกันเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้
สังคมทุนนิยมเป็นสังคมบริโภค สังคมที่เงินเป็นใหญ่ รายได้เป็นเป้าหมาย ทุกอย่างเป็นธุรกิจหมด ไม่เพียงแต่การค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค แต่รวมถึงการศึกษา สาธารณสุข ไปจนถึง “ศาสนพาณิชย์” การเมืองจึงเป็นธุรกิจ เป็นการลงทุนเข้าสู่อำนาจ จึงไม่ได้มองว่าเป็นการโกงกิน แต่ถือว่าเป็นการ “บริหารอำนาจ” ต่างหาก ใครเข้าสู่อำนาจ มีโอกาสก็ย่อมทำเช่นเดียวกัน เป็นเรื่อง “ธรรมดา”
๖. ไร้ราก ไร้ฐาน สังคมทุนนิยมได้ทำลายรากและฐานของชุมชน รับเอาฐานใหม่ที่ไร้คุณธรรม ละลายผู้คนจากชุมชนที่มีอัตลักษณ์เข้าสู่สังคมนิรนาม เข้าสู่สังคมที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจรัฐและอำนาจทุน แยกแยะไม่ได้ระหว่างความดีกับความชั่ว ความจริงกับความเท็จ ความถูกกับความผิด สับสนจนคิดว่าทางขึ้นสวรรค์กับลงนรกเป็นทางเดียวกัน วันๆ คิดหาแต่ทางรวยลัด รวยเร็ว ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ
๗. ปฏิบัตินิยมสามานย์ (vicious pragmatism) ปรัชญาระบบนี้เอาเป้าหมายเป็นหลัก ขอให้บรรลุเป้าหมาย วิธีใดไม่สำคัญ ถ้าพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองได้จริง โกงก็ยอม ขอให้ฉันได้ลืมตาอ้าปากได้ก็พอใจแล้ว จะโกงกินอย่างไรก็ว่าไปเถิด นี่คือปรัชญาของสังคมไทยวันนี้ที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ถ้า ๗ ข้อนี้จริง สังคมไทยยังเป็นสังคมมวลชนนิรนามที่อยู่ในความมืด แต่ก็พยายามหาทางออกไปสู่สังคมพลเมือง สังคมที่ไม่ยอมให้มีการโกงกิน เพราะเป็นสังคมที่อภิบาลโดยธรรม แต่ก็เหมือนรบสงครามที่พ่ายแพ้ พลังปัญญาหดหาย มีแต่กลิ่นอายประชานิยม ที่สร้างความหวังให้กับคนสิ้นหวัง
ก็ ยังดีที่คนอีกร้อยละ 35 รับไม่ได้กับการโกงกิน ถ้าหาจุดคานงัดดีๆ มีพลังทางปัญญาที่ผนึกกันให้มั่นเหมาะ อาจจะงัดและเปลี่ยนสังคมที่เอียงกะเท่เร่นี้ให้กลับมาตรงได้
ขอเป็นคนดีของประเทศ
ผมลืมบันทึกนี้ไปนาน เพิ่งมาค้นพบใหม่ จึงขอโอกาสแนะนำคนทำความดีท่านหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้พบท่าน 2 ครั้งในเดือนธันวาคม การพบครั้งที่สองผมโชคดี ได้รับหนังสือ "การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง" โดย ทิพย์พาพร ตันติสุนทร ใช่แล้วครับ คนดีที่ผมขอกล่าวถึงวันนี้คือ อาจารย์ทิพย์พาพร ตันติสุนทร ผมอ่านหนังสือที่ท่านแต่งและมอบให้ผม ทำให้ผมเข้าใจและมีความรู้ในสิ่งที่ผมเคยเข้าใจผิด เห็นว่าการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะและยุ่งเกี่ยว แต่จากความรู้ที่ผมได้รับในหนังสือที่มีค่าเล่มนี้ ทำให้ผมเข้าใจเรื่อง "พลเมือง" "ประชาชน" และ"ราษฎร์"
หนังสือ "การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง" เป็นหนังสือที่มีคุณค่าอย่างมาก อยากแนะนำให้คนไทยทุกคนได้อ่าน หนังสือเล่มนี้ แต่งโดย "ทิพย์พาพร ตันติสุนทร" หาซื้อได้ที่ "ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทรศัพท์ 02-2554466 (ศาลาพระเกี้ยว) และ โทร 02-2516141 (สยามสแควร์)
ผมได้ขออนุญาติอาจารย์ทิพย์พาพร ตันติสุนทร นำบางตอนจากหนังสือท่านลงในบันทึกของผมใน gotoknow และได้รับการอนุญาตจากท่าน กำลังคิดว่าจะนำตอนไหนมาลง และลงในบันทุึกหัวข้ออะไรที่จะเหมาะสมกับเนื้อความในหนังสือนี้
อย่างไรก็ตามผมอยากแนะนำให้ทุกท่านไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้และเก็บไว้ให้ครอบครัวทุกคนได้อ่าน เป็นประโยชน์อย่างมากครับ ราคาเพียงเล่มละ 180 บาท ขอนำข้อความสรุปจากหลังปกหนังสือของอาจารย์ทิพย์พาพร ตันติสุนทร มาให้อ่านเป็นตัวอย่างครับ
" การศึกษาที่มุุ่งเน้นให้มีความรู้เหนือคนอื่นอย่างเดียว และการศึกษาที่ผลิตคนเพื่อความต้องการของตลาดเศรษฐกิจจึงเป็นแต่เพียงการศึกษาเพื่อการตลาด แต่การเป็นมนุษย์ในสังคมประชาธิปไตยมีศักยภาพมากกว่านั้น คือ ไม่ใช่เป็นเพียงมนุษย์เศรษฐกิจ มนุษย์เงินเดือน หรือ มนุษย์การเมือง แต่เขาต้องเป็นกำลังของบ้านเมือง คือเป็นพลเมืองที่มองเห็นประโยชน์สาธารณะที่เป็นส่วนรวมร่วมอยู่ด้วย"
ชื่นชม อาจารย์ วันชัย พรหมภา คะ แต่ ทำไมไม่มีบันทึกประวัติของท่านเลย เหมือนสังคมจ
จะลืมท่านไปแล้ว อยากทราบประวัติท่านคะ
สวัสดีครับคุณ Namcha
ขอบคุณครับที่ช่วยแนะนำคนดี อาจารย์ วันชัย พรหมภา ช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ ว่าทำไมถึงชื่นชมท่าน ผมเองไม่รู้จักอาจารย์วันชัย พรหมภา เป็นการส่วนตัว จึงได้เข้าไปค้นหาชื่อท่านใน Google ทราบว่าท่านเป็นปราชญ์การเมื่อง มีผลงานมากมาย ทั้งใน facebook และมีวีดีโอ หลายชุด ผมเข้าไปเยี่ยม face book ของท่าน และได้อ่านบทความ ซึ่งน่าสนใจมาก และได้ขอแชร์บทความของท่านไปลงใน Timeline ใน facebook ของผม สนใจผลงานของอาจารย์วันชัยเข้าไปดูได้ที่ link https://www.facebook.com/RevolutionThailand
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗