ตอนนี้ที่หมู่บ้านพลัมเริ่มเข้าพรรษา เมื่อสามวันที่แล้ว วันนี้เป็นวันแรกของวันแห่งสติ ในช่วงเข้าพรรษานี้ หลวงปู่ได้บรรยายธรรมเรื่อง เกี่ยวกับความสุข ความสุขในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ถึงแม้หลวงปู่อาจไม่ได้บรรยาย เรื่องการรับประทานอาหารอย่างมีความสุขในวันนี้ แต่หลวงพีขอแบ่งปัน เพราะเห็นว่าเรารับประทานอาหารกันอยู่ทุกวัน วันละหลายๆมื้อ
สมมติเมื่อคืนเราปวดฟันตั้งแต่ตี ๑ และต้องทนรอจน ๙ โมงเช้ากว่าจะได้เจอหมอ หรือรับการรักษา ช่วงเวลานั้นคงทรมาณที่สุด อาหารเช้าก็คงไม่อร่อยเลย ถึงแม้จะมีอาหารที่วิเศษสุดที่เราเคยคิดว่าอยากทานหรืออาหารที่เราชอบ และเมื่อเราหายจากการปวดฟัน เราก็มักลืมสนิทว่านั่นแหละเวลาที่เป็นสุขเมื่อไม่ปวดฟัน เรามีตั้ง ๒๔ชม.ที่ไม่ปวดฟัน เรานักปฏิบัติ จะขอบคุณและเห็นคุณค่าของความทุกข์ ที่เป็นเสมือนของขวัญ ให้เรามาดื่มด่ำกับทุกขณะของชีวิต ขณะที่ไม่ปวด หรือทุกข์ทรมาณทางกาย และเมื่อใดที่ทุกข์ปรากฏ เราก็จะมองอย่างลึกซึ้งถึงทุกข์นั้น หายใจเข้า เราเห็นการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย หายใจออก เรายิ้มให้กับความเจ็บปวด เรามองความเจ็บปวดอย่างอ่อนโยน ไร้ซึ่งการผลักไส หรือต่อต้าน ท้ายสุด ความเจ็บปวดไม่ใช่เรา ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ปล่อยวาง เราจะรู้สึกอิสระ เราก็จะปฏิบัติเช่นเดียวกันกับความทุกข์ที่เกิดจากอารมณ์ที่ปรากฏในแต่ละขณะ เขาจะไม่เป็นนายของเราอีกต่อไป เมื่อเรามีวิธีการดูแลอารมณ์ของเรา
วันนี้เราโชคดีที่สุดที่มีอาหารอันเปี่ยมด้วยคุณค่าตรงหน้าเรา วันนี้เราโชคดีที่สุดที่ดวงอาทิตย์ยังส่องแสง วันนี้เราโชคดีที่สุดที่มีชาวนาตรากตรำกลางทุ่งที่ ร้อนระอุปลูกข้าวให้เรา วันนี้เราโชคดีที่สุดไม่อยู่ในสงคราม หลบระเบิด วันนี้เราโชคดีที่สุด ที่มีเวลาให้กับตัวเอง วันนี้เราโชคดีที่สุดไม่ได้เกิดในที่กันดารขาดอาหาร วันนี้เราโชคดีที่สุดที่พี่น้องไม่ทะเลาะกัน วันนี้เราโชคดีที่สุดที่ไม่ปวดฟัน วันนี้เราโชคดีที่สุดที่ยังมีแขนตักข้าวเข้าปาก วันนี้เราโชคดีที่สุดที่ยังรับรู้รสของอาหาร วันนี้เราโชคดีที่สุดไม่ต้องมีใครป้อนอาหารใส่ปากให้เรา วันนี้เราโชคดีที่สุดที่มีพี่น้องที่น่ารักร่วมปฏิบัติกับพวกเรา ฯลฯ เห็นความโชคดีของเราหรือยัง เรามีความโชคดีมากมายในชีวิต ขอให้มีความสุขกับการรับประทานอาหารครับ ถึงแม้มีเงินเป็นร้อยล้าน แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองทานอะไรอยู่ ก็โชคร้ายครับ
ขอบคุณการปฏิบัติ ทำให้เราเห็นคุณค่าทั้งสองด้าน ช่วงนี้หลวงพี่กำลังได้รับความทุกข์ทางกาย ปวดหัว ตื้อๆอยู่เสมอ เพราะผลจากปวดหลังและท้อง ทุกอย่างมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แต่หลวงพี่ก็มีความสุขที่กำลังดูแลทั้งกายและความรู้สึก ทำให้มีความสุขที่จะตื่นเช้าขึ้น มาเดิน นั่งสมาธิ ออกกำลังกายก่อนตารางของสังฆะ ดื่มด่ำกับเวลาแต่ละขณะอย่างเต็มที่ เพราะเราไม่ต้องรอให้ใคร มาเดิน นั่งสมาธิ ทานอาหารอย่างมีสติเพื่อเราในวันพรุ่งนี้ ถ้าเราจากร่างกายนี้ไป ทำวันนี้ให้มีความสุขสงบที่สุด ขอบคุณความทุกข์จริงๆ เป็นระฆังแห่งสติอันงดงาม ทำให้ชีวิตหลวงพี่มีชีวามากขึ้นทุกๆวัน
หลวงพี่หวังว่าพี่น้องจะมีความสุขกับวันแห่งสติร่วมกัน หลวงพี่ก็จะอยู่ตรงนั้นกับพี่น้องด้วยเสมอ ทุกช่วงของกิจกรรมจะมหัศจรรย์ เมื่อเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่และกระทำอย่างมีความสงบสุข อย่าให้งานหรือเวลา ทำให้ลืมที่จะรักตัวเอง และขอให้มีความสุขกับการรับประทานอาหารกลางวันอย่างแท้จริงครับ และเราจะเป็นผู้ที่ โชคดีที่สุด
หลวงพี่พิทยา
นมัสการ หลวงพี่พิทยา นะครับ
ได้อ่านธรรมะ หลวงพี่ แล้วเห็นภาพ ทบทวน ความทุกข์ ที่เราโชคดี ที่รอดจากทุกข์ในแต่ละวันแต่ละวันครับ โชคดีที่มีวันนี้อีกวัน
สุเพชร