ผู้เขียนรู้สึกว่าทุกอย่างมันดีงามโดยตัวของมันเอง ตราบใดที่เราไม่คิดว่าเราเป็นศูนย์กลาง
ผู้เขียนรู้สึกประทับใจจากการไปสังเกตการณ์การทำงานการจัดการความรู้ผู้นำการศึกษาพิเศษ ที่เป็นการศึกษาเพื่อเด็กพิเศษในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความด้อยโอกาสของเด็ก เด็กกำพร้า เด็กมีปัญหา หรือเด็กที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ซึ่งจัดขึ้นที่อัมพวา โดยทีมงาน ได้แก่ ดร. ยุวนุช ทินนะลักษณ์, คุณเอก จตุพร วิศิษฎ์โชติอังกูร, อาจารย์แผ่นดิน พนัส ปรีวาสนา และคุณเก๋
ความประทับใจอย่างแรก ๆ ที่สำคัญที่สุดคือการได้ทานอาหารแสนอร่อยทั้งสองมื้อและการสนทนาร่วมกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน... นอกเหนือจากการเตรียมงานอย่างเข้มข้น....
รู้สึกดีเสมอ ที่ได้เจอกัน
หลังหารือเตรียมงานกัน เราก็ออกไป shopping หาที่นวดตัวผ่อนคลาย และหาร้านอร่อย ๆ รับประทาน ... ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือเคล็ดลับการเตรียมความพร้อมของ FA ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ
ความสุขจากการถ่ายภาพวิถีชีวิตของคุณเอกและการทำตัวตามสบายของพี่นุช
คุณเก๋ยืนเชียร์อยู่ข้าง ๆ
หลังจากนวดตัวพักผ่อนกายา ซึ่งถูกห้ามการถ่ายทำเนื่องจากเป็นช่วง relaxation แบบส่วนตัวมากๆ ค่ะ พวกเราก็ไปทานอาหารร้านน้ำทิพย์ ใต้สะพานคลองผีหลอก รสชาติเด็ดมาก ๆ ทีมงานไปทานมื้อเย็นถึงสองมื้อ
รายการอาหารจานโปรด
จริง ๆ มีมากกว่ารายการที่โชว์มานี้ค่ะ แต่ยอมรับว่าถ่ายไม่ทัน ส่วนของหวานที่เราทานก็มีสละลอยแก้ว รสชาติไม่หวานมาก และก็มีมะม่วงอกร่อง (ก้นดำ) ที่เราแวะซื้อกันมาตามภาพก่อนหน้านี้
การไปครั้งนี้ ผู้เขียนเสมือนไปสังเกตการณ์และได้พบปะกับทีม FA ทุกท่านมากกว่า ด้วยธรรมะจัดสรรอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้เขียนยังไม่ได้นำเสนอเรื่อง Human KM by Enneagram ในครั้งนี้ ทั้งที่เตรียมงานมาแล้วก่อนหน้าที่ ส่วนหนึ่งคงมาจากกิจกรรมการทำ Human KM by Enneagram เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลามาก การแทรกเข้าไปในกิจกรรมส่วนต่าง ๆ ที่จัดลงตัวแล้วเป็นเรื่องยาก และผู้เข้าร่วมการอบรมควรมีพื้นฐานการจัดการความรู้มาก่อนเพื่อจะได้เห็นภาพว่า Enneagram จะนำไปใช้ตรงไหน เนื่องจากเรื่อง Human KM by Enneagram เป็นเรื่องของการสังเกตการณ์ภายใน (Inner Observation) ส่วนใหญ่คนเราจะคุ้นเคยกับการมองโลกภายนอกตัวเองและนำมาคิด รู้สึก ตีความ โดยมองไม่เห็นการทำงานภายในตนเอง จึงอาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะเข้าสู่โลกภายในในยามที่ผู้ร่วมกระบวนการจะต้องทำความเข้าใจ KM ในรูปแบบกระบวนการภายนอก และการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ผู้เขียนก็เห็นด้วยที่ผู้เข้าร่วมอบรมที่อยู่ในระดับผู้บริหารการศึกษาควรที่จะใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไปกับกระบวนการ KM ทั้งหมดก่อน และมีเวลาพักผ่อนร่องเรือให้สำราญใจจะได้ไม่รู้สึกหนักกับการเรียนรู้ KM ครั้งแรก จะได้เกิดความประทับใจครั้งแรกในการเรียนรู้และไม่มองว่าเป็นส่วนเกิน แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ขอยืมคำที่พี่นุช (คุณนายดอกเตอร์) ชอบใช้คือคำว่าว่า "คนข้างกาย" คนข้างกายของผู้เขียนให้แง่คิดที่ดีว่า "หากยังไม่ถึงเวลา ก็มักจะมีอะไรมาทำให้คลาดแคล้วไป" ซึ่งเป็นสิ่งที่ผูู้เขียนต้องค่อย ๆ เรียนรู้ไป เป็นเรื่องธรรมะจัดสรรจริง ๆ เหตุการณ์บ่งชี้สำคัญก็คือในช่วงคืนก่อนเริ่มวันงานกิจกรรม หลังทานอาหารร่วมกันตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงสามทุ่มกว่า ถึงที่พักทุกคนเข้านอนประมาณห้าทุ่ม เช้ารุ่งขึ้น ผู้เขียนพบว่าเกิดอาการเจ็บปาก ปากบวมในตอนเช้าไม่ทราบว่าแพ้อะไรหรือโดนแมลงอะไรกัด และทานยาแก้แพ้ของพี่นุช ซึ่งผู้เขียนก็ไม่คิดว่าจะสะลึมสะลือทั้งวัน พี่นุชแนะนำให้ผู้เขียนนั่งหลับตา ซึ่งผู้เขียนก็ทำสมาธิหลับตาจนรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ก็อยากกลับมาพักที่บ้าน จึงขอตัวกลับก่อนพร้อมกับพี่นุชที่เสร็จสิ้นการบรรยายในช่วงเช้าแล้ว
กลับมาถึงก็อาบน้ำและเข้านอนพักทันที กว่าจะตื่นก็สายมาก ๆ น่าจะประมาณ 5 โมงเช้าหรือเกือบเที่ยง เป็นการนอนพักแบบหลับไหลจริง ๆ ตื่นขึ้นมาก็แวะเข้า G2K เนื่องจากพี่กานดา ซึ่งเข้ามาเยี่ยมผู้เขียนในบันทึกก่อนนี้มา comment ทำให้ผู้เขียนแวะเข้ามาดู และรู้สึกเสมือนถูกดึงดูดจากอะไรบางอย่างว่าควรจะเขียนเบื้องหลังการทำงานของ FA ที่อัมพวาครั้งนี้
เบื้องหลังที่ว่า "ทีมงานของคุณเอก" กับคำนี้ คำที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจในเพื่อนใหม่ ๆ ที่คุณเอกเป็นสื่อกลางให้เราได้มีโอกาสมาพบปะกันอยู่เสมอ เบื้องหลังที่ว่าพวกเราได้หลอมรวมเป็นหนึ่งผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกันอย่างเป็นกันเอง ได้แก่ shopping, นวดตัว และรับประทานอาหารแสนอร่อย โดยเฉพาะบทสนทนาเป็นกันเองอย่างมีรสชาติไม่แพ้รสอาหาร สิ่งเหล่านี้คือการสร้างมิตรภาพทีม FA ให้มีความรู้สึกดี ๆ ร่วมกันก่อนการทำงาน ทั้งที่บางท่านเราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกันมาก่อน
สิ่งสำคัญที่ผู้เขียนได้เรียนรู้เป็นบทเรียนสำหรับตัวเองก็คือ "ธรรมะจัดสรร" ผู้เขียนไม่เคยเสียดายหากว่าจะต้องเตรียมตัว เตรียมการอะไรมาด้วยความยากลำบาก และเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างทั้งปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายในของผู้เขียนเองก็ตาม ซึ่งทำให้ผู้เขียนไม่ได้มีโอกาสใช้ความรู้หรือแสดงสิ่งที่เตรียมมานั้น ผู้เขียนรู้สึกว่าทุกอย่างมันดีงามโดยตัวของมันเอง ตราบใดที่เราไม่คิดว่าเราเป็นศูนย์กลาง
------------------------------------------------