รถทำสวน
โตโยต้า LN106
ผมเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ จะทำสวนยางแปลงใหญ่เชิงเขา 98 ไร่ ระดับสูงต่ำต่างกัน 185 ฟุต จำเป็นต้องใช้รถที่ลุยๆ บุกดงขี้ไถ หล่มโคลน เนินเขาและพื้นทีรถปกติไปไม่ได้ ต้องเป็นรถบรรทุกเล็ก"คานแข็ง" ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD)เครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซินก็ได้ ศึกษาแล้ว ที่เหมาะที่สุด เป็น โตโยต้า LN106 หรือที่เรียกกันติดปากว่ารุ่นป่าไม้ ลักษณะเด่นคือเพลาขับเคลื่อนล้อหน้าจะเป็นเพลาเหมือนกับล้อหลัง ดูภาพล่าง 2 ภาพแรกนะครับ
ภาพบนนี่เป็นดุมเพลาล้อหน้าซึ่งเป็นจุดแตกต่างระหว่างรถปิคอัพทั่วไป คือถ้ารถปิคอัพทั่วไป ชุดกันกระเทือนล้อหน้าจะเป็นปีกนกครับ แต่สำหรับ LN106ชุดกันกระเทือนล้อหน้าจะเป็นแหนบและเพลาคล้ายล้อหลัง รับแรงกระแทกด้วยแหนบและโช้ค ทำให้รถรุ่นนี้แข็งแกร่งกว่าปกติครับ ส่วนภาพล่างเป็นดุมเพลาล้อหลังเหมือนรถปิคอัพทั่วไป
โครงสร้างหลักๆ เป็นของเดิมๆ ครับ
สีเิดิมๆ ยังไม่ได้ทำ มีสนิมนิดหน่อย
เสริมกันชนให้แกร่งขึ้นมาหน่อย
ที่ดุมล้อหน้าติดตั้ง "ฟรีลอค" เพื่อให้เครื่องยนต์ไม่ต้องลากเพลาหน้าเมื่อไม่ใช้งานขับสี่ล้อ เพราะแม้จะไม่ใช้เกียร์ขับล้อหน้า แต่ล้อก็ลากเพลาทำให้เปลืองน้ำมัน ติดฟรีลอคเพื่อจะปลดให้ล้ออิสระจากเพลา เพียงแค่หมุนปุ่มสีแดงให้อยู่ในตำแหน่ง FREE หรือตำแหน่ง LOCK ตามต้องการ
ยางที่ติดมากับรถครับ เก่าไปหน่อย ตัวเลขในวงรี ที่แก้มยาง ระบุ 3508 หมายถึง สัปดาห์ที่35 ปี 2008 เป็นยางที่ผลิตประมาณปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 แต่กะทะล้อเป็นกะทะเหล็กของเดิม เป็นขอบ 16 นิ้วครับ (สงสัยจัง ทำไมบางรุ่น 15 นิ้ว
บันทึก 2556 ยางชุดนี้ผมเปลี่ยนไปแล้วทั้ง 4 เส้นเลยครับ ยางนอก 4 เส้นราคา 15,000 บาท เปลี่ยนยางในอีก 2 เส้น เส้นละ 800 บาท ครับ
สำหรับแคชซี ยังแข็งแรง ไม่มีสนิมจับ น่าพอใจมาก
หูจับเพลาในภาพล่าง พึ่งเปลี่ยนมาครับ
นี่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2770 ซีซี รุ่น 3L ครับ ทราบว่าถ้าเป็นรุ่นก่อนหน้านี้ ใช้เครื่องยนต์ 2L ต่างกันอย่างไร ค่อยหามาฝากครับ
บันทึก มี.ค. 56 เมื่อเดือน ตค.55 ผมเอารถเข้าไปที่อู่ในตัวอำเภอ เพื่อจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถามช่างว่าอาการเสียงดังขณะเครื่องยนต์เดินนี่เพราะอะไร ได้รับคำตอบว่า "ป็นปกติของรถรุ่นนี้" ครั้นผมขัจากลำพูนไปปัตตานี รอกดันสายพานราวลิ้นพังครับ งานนี้ต้องรบกวนช่างวันอาทิตย์ทำงานตั้งแต่ 16.30 น. ถึง 22.30 น. จึงเสร็จ กลัปัตตานีได้ จ่ายค่าแรงค่าของไป 14,000 กว่าบาท และต้องมาซ่อมเพิ่มเติมเปลี่ยนฝาครอบเครื่องยนต์(พลาสติก) ที่โดนรอกกินสึก/แตก ไป พร้อมตั้งวาวล์ใหม่ อีก 1,500 บาท พึ่งรู้ว่าฝาครอบ 2L และ 3L เป็นฝาครอบเหมือนกัน ใช้แทนกันได้
เปิดฝากระโปรงหน้า ดูเครื่องยนต์ มีสภาพเดิมๆ เป็นส่วนใหญ่ มีบางส่วนที่เปลี่ยนอะไหล่ไปแล้ว
ป้ายนั่นน่ะ ผมลบออกนะครับ เดี๋ยวเจ้าของเดิมเขาค้อนเอา เพราะรถยังไม่โอน( 19 พ.ค.54 โอนเรียบร้อยแล้วครับ)
ท่าทางจะติดโช๊คเสริม ไม่แน่ใจโช๊คตัวเดิมหน้าตาเป็นไง
บันทึกเพิ่มเติม 2556 ว่า มารู้ทีหลังว่าโชคตัวนี้เจ้าของเก่าเขาเปลี่ยนมาแล้ว ระยะโช้คยุบตัวได้เพียง 2 นิ้ว มิน่าเล่า เวลากระแทกหลุมดัง "โครม" ทุกที เลยหาซื้ออะไหลรุ่นของมัน ไปพบรุ่นที่สามารถยุปได้ 6-7 นิ้ว มาใส่ เมื่อร่วกับการเปลี่ยนยางกันกระเทือนในห๔แหนบ พบว่ารถนิ่มขึ้นตั้งเยอะ
รอยบุบข้างโคมไฟหน้า เนื่องจากกันชนเสริมหน้าถูกกระแทก แล้วยุบไปโดน คงต้องซ่อมก่อน ไม่งั้นสนิมลาม
ทดลองขับแล้วน่าพอใจ เครื่องยนต์และช่วงล่างเงียบสนิท ที่ดังก็มีแต่เสียงยาง
เมื่อตรวจสอบทะเบียนรถแล้ว เป็นรถที่จดทะเบียน 26 ก.พ. 2540 หรือรุ่น 1997 เมื่อนับถึงวันโอน ผมต้องจ่ายภาษีเป็นปีที่ 15 ครับ ค่าภาษีปีละ 1050 บาท ครบกำหนดวันจ่ายภาษี 26 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
สภาพรถอย่างที่เห็นนี้ผมจองไว้ยังไม่โอนครับ ราคา 425,000 ค่าโอนค่าทะเบียนเขารับจะจัดการให้ จะโอนให้เสร็จช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2554 เพื่อวางแผนปลูกยางพารา / คลิกที่นี่ ประมาณพฤศจิกายน 2554 และขนย้ายกล้ายางเพื่อปลูกประมาณเมษายน 2555 ตลอดจนขนปุ๋ยและเครื่องมืออื่นๆ ครับ
บันทึกวันที่ 10 ตค. 2555 ถึงวันนี้ผมเอารถมาใช้ได้ปีกว่าแล้วครับ รถจะจอดอยู่ลำพูนเป็นส่วนใหญ่ แต่ปลายเดือนกันยายน 55 ผมเอารถกลับมาปัตตานีเพื่อบำรุงรักษาหลายรายการ ดูที่นี่ครับ
วันที่ 3 มีนาคม 2556 มิเตอร์รถขึ้น 200,000 ครับ มีอาการไฟที่หน้าปัทม์โชว์ "T Belt" ซึ่งเป็นสัญญาณว่า สายพานไทม์มิ่ง มีปัญหา เข้าไปถามที่อู่ ช่างถามว่าเปลี่ยนสายพานมาเมื่อไร บอกว่าเปลี่ยนเมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา หรือมิเตอร์ประมาณ 178,000 ช่างบอกว่าถ้าพึ่งเปลี่ยนก็ให้ Reset หน้าปัทม์ สัญญาณก็จะหายไป ผมถึงบางอ้อ เพราะสอดคลองกับมิเตอร์ 200,000 เพราะรอบของการเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง คือ 100,000 กม. ครับ
ความเห็น (19)
รถดี สภาพสวย ครับ ขอให้มีความสุข กับการใช้รถ LN106 นะครับ ผมก็มีไว้ใช้ คันหนึ่งเอาไว้ เข้าสวน บรรทุกคนงาน ขนปุ๋ย ใช้งานได้ สารพัดประโยชน์ ครับ
LN 106 ที่ผมใช้อยู่ ก็เอาไว้ เข้าสวนยาง เหมือนกันครับ
รบกวน พี่ ชนันท์ ถ้า กระทะล้อ พี่ซื้อแล้วไม่เอา ต้องการ ขายต่อ อย่าลืมบอกผมนะครับ อยากได้เหมือนกัน ( จะเอามาไว้สำรอง ครับ)
ขอบคุณมากครับ
ผมคงเอาไว้ใช้เองนะครับ คิดว่าจะคงสภาพเดิมๆ ไว้ให้มากที่สุด รวมทั้งกะทะล้อเดิมๆ ด้วยครับ
ผมไม่ได้มีกะตังค์หรอกครับ แต่ติดใจรถ เพราะรุ่นนี้หายากครับ จึงมัดจำไว้ 9,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 แน่นอนว่าเดือนเมษายน(เดือน 5)ทั้งเดือน เขาไม่ทำการมงคลทั้งปวง ไม่ว่าจะงานแต่ง ขึ้นบ้านใหม่ หรือซื้อรถซื้อเรือก็ตาม ประกอบกับผมก็ไม่ค่อยมีกะตังค์ จึงตั้งใจยื้อเวลาไว้ให้ได้มากที่สุด เมื่อจองรถครบเดือน(กลางเมษา) ผมก็โทรศัพท์ไปคุยให้เขาสบายใจว่าผมมาเอาแน่ แล้วบอกว่า 29 เมษายน - 8 พฤษภาคม ผมจะกลับมาคุยรายละเอียดอีกครั้ง ใครๆก็รู้ว่าธุรกิจเขาต้องการเงินมาหมุนเวียน และให้แน่ใจว่าเราซื้อแน่ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 ช่วงบ่าย ผมเอาเงินไปให้เต้นท์รถอีก 200,000 บาท ทำสัญญาซื้อขายให้หนึ่งฉบับ ผมยังค้างค่ารถอีก 216,000 บาท มีเงื่อนไขว่าจะต้องโอนรถภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2554
วันที่ 8 พฤษภาคม 2554 กลับจากเชียงใหม่มาถึงบ้าน จัดแจงดูฤกษ์ออกรถด้วยตนเอง (ผมน่ะเป็นศิษย์มีครูในเรื่องนี้เหมือนกันนะครับ) ได้ฤกษ์ 2 วันที่สามารถออกได้ คือ 13 และ 21 พฤษภาคม 2554 ซึ่งเป็นวันสิทธิโชค ผมเลือกเอาวันที่ 21 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมไปเชียงใหม่พอดี ฤกษ์ออกรถ 08.30 -10.48 น. เมื่อขับรถออกให้บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเป็นทิศที่มีลาภ ทำการสิ่งใดสำเร็จผลทุกประการ
วันที่ 11 พฤษภาคม 2554 ผมโอนเงินที่เหลือ 216,000 บาท ไปเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาหางดง ของเต้นท์รถอีกที แล้วโทรศัพท์ไปแจ้งว่าผมได้โอนตังค์ไปแล้ว เขาบอกว่าให้ผม fax บัตรประจำตัวประชาชนไปให้ เขาจะโอนรถให้เลย จัดแจงไปให้ตามที่เขาขอมา 18 พฤษภาคม 2554 จะบินไปเชียงใหม่ไปออกรถตามนัดครับ
วันที่ 21 พ.ค. 54 ฤกษ์ 08.25 -10.48 น. ไปออกรถจากเต้นท์มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อเอาฤกษ์
แล้วเลี้ยวกลับมาถามช่างอีกทีว่าเกียร์ 4 ล้อนี่เขาใช้กันยังไง บอกตรงๆ ว่าไม่เคยใช้รถที่ใช้เกียร์แบบนี้มาก่อน ได้คำตอบว่า
1) ขณะเข้าเกียร์ขับ 4 ล้อ ไม่ต้องเหยียบครัช ก็เข้าเกียร์ได้
2)เกียร์ 2H - 4H - N - 4L ตามลำดับ
3)ขณะเข้าเกียร์ต้องให้รถจอดสนิท(ยังกะขับแทรคเตอร์รุ่นเก่าแน่ะ)
- เกียร์ 2H ใช้สำหรับขับเคลื่อน 2 ล้อ ทางเรียบ ทำความเร็วได้ตามปกติ
- เกียร์ 4H ใช้สำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ หากมาที่เกียร์นี้ ไฟจะโชว์ 4WD ทางลื่นหรือหล่ม ทำความเร็วได้ประมาณไม่เกิน 40 km/h ถ้าเกินจากนี้เขาว่าเกียร์จะพัง ???
- เกียร์ 4L ใช้สำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ หากมาที่เกียร์นี้ ไฟจะโชว์ 4WD ทางลื่นหรือหล่มมาก จะทดแรงได้มากกว่า 4H
- เกียร์ N เป็นเกียร์ว่าง แม้จะเข้าเกียร์ปกติ(1-5และ ถอย) เกียร์ก็จะไม่ติด คือรถไม่เคลื่อนที่
- การใช้เกียร์ 4WD ต้องบิด FREE-LOCK ตรงดุมล้อหน้าไปที่ตำแหน่ง LOCK โดยการบิดตามเข็มนาฬิกาจนสุด เมื่ออยู่ตำแหน่งนี้ล้อหน้าจะถูกพ่วงกำลังจากเพลาขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหน้า แต่หากขับเคลื่อน 2 ล้อ แล้วยังอยู่ที่ตำแหน่ง LOCK ล้อหน้าจะดึงเพลาให้หนักกว่าปกติ แม้เกียร์ 4WD จะอยู่ในตำแหน่ง 2H ไม่ส่งกำลังก็ตาม เปลืองน้ำมันนิดหน่อยโดยใช้เหตุครับ การใช้เกียร์ 2H ต้องบิด FREE-LOCK ไปที่ตำแหน่ง FREE โดยการบิดทวนเข็มนาฬิกาจนสุด เมื่ออยู่ตำแหน่งนี้ล้อหน้าจะถูกตัดกำลังที่ต้องพ่วงต่อจากเพลา ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง ประหยัดน้ำมันครับ
วันที่ 22-23 พ.ค. 54 ขับขึ้นดอยอ่างขาง ทดลองใช้ เกียร์ 4H ขณะฝนตกทางลื่นและน้ำหลาก เสร็จแล้วจอดคาเกียร์ 4WD ไว้ รุ่งเช้าปลดเกียร์ 4WD ไม่ได้ ลองโยกถอยหลังสลับเดินหน้า 2-3 ที ถึงปลด 4WD ได้ หรือว่าก่อนปลดต้องถอยก่อน?
ลงมาถึงเชียงใหม่ สลับยางหน้าไปไว้หลังเพราะคู่นี้ดอกดีกว่า ยางหลังถ่วงล้อแล้วสลับมาไว้ล้อหน้า ค่าสลับยางและถ่วงล้อ 250 บาท ค่าตะกั่วถ่วงล้อ 105 บาท รวม 355 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขับรถไปจอดไว้ที่อำเภอลี้ ลำพูน เตรียมไว้ทำสวนครับ
ทดสอบอัตราการสิ้นเปลือง ระยะทาง 265 กม. ทางราบส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางขับเร็วเฉลี่ย 80 กม./ ชม. โดยในระยะทางดังกล่าวใช้ปีนเขาด้วยเกียร์ 1-2 ประมาณ 20 ก.ม. ใช้น้ำมันดีเซลไป 22.8 ลิตร (700 บาท) ความสิ้นเปลืองตก กม.ละ 2.64 บาท (ที่ลำพูนลิตรละ30.70 บาท) หรือ 11.62 กม./ลิตร
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ พี่ ชนันท์ ได้รถ LN106 มาไว้ใช้ในครอบครองแล้ว รถ 106 เหมาะสำหรับเข้าสวน บรรทุกของ เข้าไปในถิ่นธุระกันดาร ครับ ฝนนี้ ผมก็ใช้ขนสารพัดประโยชน์ เหมือนกัน ทนแกร่ง แรงจัด จริงๆ ครับ
เมื่อ 23 พ.ค. 54 สังเกตยางหลังสึกกว่ายางหน้าเยอะ เลยเอาไปสลับล้อครับ
สลับล้อ + ถ่วงล้อ 250 , ค่าตะกั่วถ่วงล้อ 105 บาท
ชื่นชมมุมคิดและการลงมือกระทำของคุณ นะครับ
ขอรบกวนถาม เต๊นขายอยู่ ที่ไหน จังหวัดอะไร เบอร์ติดต่อ ขอบพระคุณมากครับ อยากได้บ้าง พอดีทําสวนปาล์ม ทางใต้
เต้นท์รถอยู่บนถนนสายหางดง - สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ฝั่งขาเข้าครับ วันที่ 10 - 12 กันยายน 2554 นี้ ผมจะไปเชียงใหม่ ถ้าสนใจไปดูด้วยกันได้ครับ เบอร์โทรศัพท์ ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว หาเจอจะมาโพสต์ให้ครับ ถ้าคุณ June อยู่ภาคใต้ ได้ข่าวว่าที่หาดใหญ่มีเต้นท์ขายเหมือนกัน อยู่ใกล้ๆ ทางเข้าสนามบินหาดใหญ่ ผมเพิ่งรู้จากคนใกล้บ้าน ว่าเคยไปดูมาแล้ว เขาก็สนใจรถรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน แต่ราคาตั้ง 4.5 แสน เขาว่ามันแพง เลยไม่สู้ เขาทำไม้ครับ ตัดไม้ยางส่งโรงงาน ผมน่ะไม่ได้เล่าให้เขาฟังหรอกว่าผม(แอบไม่บอกชาวบ้าน)ไปซื้อไว้แล้วที่ลำพูน
แนะนำตัวก่อนนะครับ ผมคนลำพูนมีแนวคิดปลูกยางที่ลำพูนเหมือนกันครับไม่รู้จะได้น้ำยางดี เหมือนทางใต้หรือเปล่าส่วนตัวผมชอบ ln106 อยู่ครับแต่งบไม่พอที่จะเป็นเจ้าของ ส่วนคนที่ลำพูนส่วนมากจะปลูกแต่ลำใยกันทุกบ้าน เลยไม่มีใครกล้าปลูกยางมากนัก ยินดีตอนรับสู่เมืองลำพูน
เหตุใดครับ รถเก่า 15 ปีราคายังสูงอยู่
กระบะ4ประตูของเพื่อนใช้มา 5 ปี ขายต่อ 2 แสนกว่าบาทเอง
ราคาต้นยางราคาแพงหรือไม่ครับ
ตอบคุณภัทรพงศ์ ครับ ขออภัยครับ ปลายปีงบประมาณงานเยอะ ไม่ได้เข้ามาตอบ วันนี้เคลียร์งานเรียบร้อย มีเวลาเข้ามาดูครับ ที่อำเภอลี้ ลำพูน ผมไปดูสวนยางที่เขาปลูกแล้วหลายแปลงครับ แปลงแรกที่ไปดูเป็นของพอ่อหลวงบูรณ์ เป็นยางอายุประมาณ 10 -15 ปี กรีดมาประมาณ 10 ปี บนพื้นที่ประมาณ 8-10 ไร่ ให้น้ำยางประมาณ 70-80 % ของภาคใต้ แต่น้ำยางข้นกว่า แปลว่าเปอร์เซ็นตืน้ำยางสูงกว่าแน่ๆ ถัดจากแปลงยางพ่อหลวงบูรณ์ขึ้นไป มีปลูกใหม่ ตอนที่ดูครั้งนั้น อายุไม่เกิน 3 - 5 เดือน ขนาดเท่านิ้วก้อย ไปดูอีกที ต้นเท่าด้ามขวานแล้ว เสาะหาไปอีกหลายแปลงเป็นยางอายุประมาณ 3 ปีก็มี ประมาณ 20 ไร่ ที่แปลงใหญ่สุดประมาณ 200 ไร่ เข้าใจว่าหลายคนทำ แต่เป็นกลุ่มเดียวกัน เช่นอาจจะเป็นเครือญาติกัน เพราะสังเกตเห็นคุณภาพการบำรุงรักษาที่แตกต่างกัน โดยสรุปแล้วปลูกได้ผลครับ ดูภาพล่างนี้นะครับ สวนของพ่อหลวงบูรณ์ครับ
ตอบคุณโสภณ ครับ เรื่องรถรุ่นนี้ราคาสูง ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็เพราะ Demand - Supply ครับ อธิบายอีกนิด เพราะว่าประสิทธิภาพการใช้งานได้เยี่ยมครับ สามารถลุยโคลนลุยหล่ม เข้าป่า ขึ้นเขา เป็นรองก็แต่แทรคเตอร์เท่านั้นแหละครับ สามารถขับเข้าเมืองได้ดีกว่าแทรคเตอร์ ในขณะที่รถรุ่นนี้เป็นรถนำเข้าทั้งคันครับ ไม่ใช่รุ่นที่ประกอบในประเทศไทยครับ จำนวนรถจึงมีน้อย ความต้องการเลยมาก เมื่อความต้องการใช้มีมาก ราคาเลยไม่ตกครับ อย่างที่เคยเล่าไว้ว่า ราคาเมื่อปี 2540 ราคา 480,000 บาท ใช้มา 15 ปี สภาพเดิมๆ ยังปล่อยได้ 425,000 บาท แน่ะ บางคันเมื่อนำไปทำสีใหม่ ราคาปาเข้าไป 520,000 ครับ ผมไปดูมาแล้วครับ ที่เต้นท์เดียวกันนี่แหละ ราคานี้จริงๆ อีกวิธีหนึ่งที่จะให้ได้รถคานแข็ง คือเขาไปเอา โตโยต้าไมตี้เอ็กซ์ แล้วเอาเข้าอู่มาเปลี่ยนปีกนกล้อหน้าเป็นคานแข็ง เปลี่ยนเกียร์รุ่นเดิมเป็นรุ่นนี้ ก็เท่ากับได้รถคานแข็งเหมือนกัน แต่เป็นรถดัดแปลงเอง เมื่อจะเอาไปจดทะเบียน ต้องมีวิศวกรรับรอง จึงจะจดทะเบียนได้ แน่นอนว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะวิศวกรจะไม่ยอมเซ็นอะไรง่ายๆ แม้จะจ่ายตังค์ก็เถอะ จากรถขับเคลื่อนสองล้อที่ถูกกฎหมาย เมื่อเปลี่ยนเป็นขับสี่ล้อแล้วไม่ได้จดทะเบียน ไม่ผ่านการตรวจสภาพก็กลายเป็นรถที่ต่อทะเบียนไม่ได้ ทะเบียนขาด เอาไปใช้วิ่งบนถนนก็กลายเป็นรถผิกกฎหมาย ท้ายที่สุดก็วิ่งในสวนอย่างเดียว นี่แหละคือปัญหา อ้อ ลืมบอก ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเกียร์และคานแข็ง ประมาณ 200,000 -250,000 รถไมตัชี้เอกซ์ประมาณ 100,000 รวมประมาณ 350,000 ถ้าจ่ายเพิ่มอีก 50,000- 70,000 แล้วได้รถถูกกฎหมาย ก็ถือว่าดีกว่า รถรุ่นนี้จึงราคาไม่ตกด้วยเหตุฉะนี้ครับ
วันที่ 22 กย. 55 ผมขับรถ LN106 ลุยเข้าไปในสวน เพื่อจะขนลำไยที่มีอยู่เพียง 5 ต้น กะว่าจะเอามาฝากเพื่อนที่ปัตตานี บุกเข้าไปในพงหญ้าที่สูงประมาณเอว ชนตอปังเข้าให้ ดีที่รถไม่เร็ว เพราะที่ขับน่ะไม่ใช่ทางครับ แต่เป็นระหว่างแถวยางปลูกใหม่ ถอยออกมาได้ พบว่าคันชักงอ โช้คที่ยึดกับคันชักระหว่างล้อหน้าทั้งสองคด แต่ต้องขับออกมาให้ได้ ใกล้ค่ำแล้วไม่มีเวลาซ่อมหรอกครับ พรุ่งนี้เช้าต้องขับกลับปัตตานี
วันที่ 23 กย. 55 ผมขับรถ LN106 กลับมาจากลำพูน มุ่งหน้าปัตตานี แวะดัดคันชักที่อินทร์บุรี จ่ายไป 300 บาท ก็พอดึงศูนย์ล้อให้กลับมาตรงได้ แต่โช้คที่คดยังทำให้พวงมาลัยหนืดเป็นระยะๆ โดยเฉพาะการเลี้ยวขวา เวลาคืนพวงมาลัยมันจะสะดุด เมื่อมาถึงปัตตานี เอาไปให้อู่ที่ชำนาญเรื่องช่วงล่างดู ถอดโช้คออกมาดู พบว่าฝืดสุดๆ ดึงด้วยมือไม่ขยับเลย ให้ช่างลองผ่าฝาครอบดูแล้ววางให้ราบ พบว่าก้านโชคคดไปประมาณ 5-7 มม. จึงลองให้ดัดให้ตรงแล้วใส่กลับ ปรากฏว่าใช้งานได้ปกติ แต่ผมคงต้องเปลี่ยนแหละ เพราะสั่งของใหม่ไปแล้ว อันนี้ใช้ชั่วคราวกว่าของจะมาครับ
อีกอย่างที่พบคือ ขณะขับรถ เจอหลุมบ่อหรือแรงกระแทก มันไม่นิ่มเลย ช่างบอกว่าลูกยางแหนบมันสึกหมดแล้ว เหลือเหล็กต่อเหล็กบดกัน จะหาความนิ่มไม่ได้ ผมเลยให้เปลี่ยน จริงครับ พอเปลี่ยนลูกยางแหนบครบทั้ง 6 หู (หลัง 2 หน้า 4 แหนบหลังหูหน้าไม่เปลี่ยน ช่างบอกว่ายังไม่สึก) พบว่ารถแน่นขึ้น ลดแรกกระแทกได้มากขึ้นจริง
หลังจากเอารถกลับปัตตานี ได้ใช้เวลาที่มีอยู่ ซ่อมไปหลายรายการ รายการแรกคือหัวกะโหลกที่ล้อหน้า ที่พบว่ามีน้ำมันเยิ้มออกมา น้องเจต แนะนำให้ไปหาช่านุ้ยที่ Cockpit ยะลา ผมเอารถเข้าเมื่อจันทรที่ 1 ตค. 55 เขาใช้เวลา 2 วัน ทำให้โดยเปลี่ยนสักหลาดกันน้ำมันที่ล้อหน้าทั้งซ้ายขวา พร้อมเปลี่ยนซีล Free-Lock ที่เริ่มมีน้ำมันเยิ้มออกมา เพราะน้องเจตบอกว่าถ้าน้ำมันแห้ง ลูกปืนจะติด และ Free-Lock จะพัง โชคดีที่ได้กัลยาณมิตร เพิ่มมาอีกคน
6 ตค 55 เอาเข้าเปลี่ยนท่อไอเสีย ที่ช่างรุ่นเก่าก่อนที่ผมจะซื้อมา เขาทำท่อท่อนเดียวยาวต่อเนื่องจากเครื่องถึงปลายท่อ ไม่มีข้ออ่อน ทำให้เมื่อเครื่องสั่น หูท่อไอเสียเสียหายง่าย เป็นบางอ้อว่าทำไมซีลปากท่อไอเสีถึงพังเมื่อปลายเดือนกันยายน 55 เลยเปลี่ยนท่อพัก + เพิ่มข้ออ่อนไปด้วย จ่ายไป 4800 ครับ
7 ตค. 55 เอารถเข้าอู่ปัตตานีกิจการยาง ให้เขาเปลี่ยนยางให้ 4 เส้น รุ้นเดิม ดอกเดิม แทนเส้นเก่าที่ดอกเหลือไม่ถึง 3 มม. แต่ดอกใหม่ลึกถึง 10 มม. เส้นละ 3525 บาท เห็นเขาบอกว่ายางรุ่นนี้เขาใช้กับรถ Land Rover รุ่นโบราณครับ ของผมก็ให้โบราณไม่น้อยหน้าเช่นเดียวกัน
หลังจากได้ข้อมูลจากช่างนุ้ย ว่าคันชักพวงมาลัยเพาเวอร์ถูกเชื่อมติด ตอนแรกก็ดูไม่ถนัดเพราะเกะกะล้อ เมื่อถึงวันเปลี่ยนยางเลยสังเกตดู พบว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ วันหลังจะหาอะหลั่ยใหม่มาใส่ให้ครับ
โช้คกันสะบัดอันเดิมที่งอ แม้ดัดแปลงใช้ชั่วคราว แต่ก็มีน้ำมันซึมออกมา
เลยเปลี่ยนใหม่เป็นรุ่นที่เห็นครับ
รถทำสวนของผมดูแลอย่างนี้แหละครับ นี่ครับ เป็น LN106 ของแท้ พยายามอนุรักษ์สภาพดั้งเดิมไว้ครับ
โช้คอันเดิม ทำให้แหนบชุดกันกระเทือนหล้ายุบตัวได้เพียง 2 นิ้ว ดูดซับ เวลาตกหลุมหรือโดนถนนต่างระดับมากๆ จะไม่นิ่มเลย เพราะยุบได้เพียง 2 นิ้ว (ดูภาพด้านล่าง โช้คตัวตั้งสีขาว) เหตุผลเพราะช่างเขาเอาโช้คที่ยาวเกินไปมาใส่ให้ ช่วงที่ยาวและซ่อนอยู่อีก 8 นิ้ว ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย ถูกซ่อนอยู่ในโช้คช่วงที่ยุบอยู่ครับ
ตอนแรกก็หาอะหลั่ยในร้านไม่ได้ ผมเลยปั่นจักรยานออกหาอะไหลั่ยที่ร้านขายอะหลั่ยในปัตตานี ไปเจอที่ร้านฮกเส็ง ได้โช้คสำหรับ Toyota LN86 4WD เขียน ซึ่งรถผมก็เป็น Mighty X 4WD เหมือนกัน แต่เป็น LN106 ตนขายบอกว่าช่วงล่างของโตโยต้าใช้รุ่นเดียวกัน เลยสอยมาคู่ละ 1300 บาท หรือข้างละ 650 บาท ถูกกว่าในร้านซ่อมช่วงล่างเยอะ เมื่อเอามาให้ช่างซ่อมดู ช่างซ่อมบอกว่านี่แหละอะหลั่ยของมันไม่ใช่ใหญ่และยาวเหมือนอันก่อน
ขออนุญาตเรียนถามว่า ล้อยางรถรุ่นนี้ ยังพอหาซื้อได้ที่ไหนอีกคะ ตอนนี้อยากได้ 4 ล้อ ค่ะ
พอหาln106 สี่ประตูได้ไหมครับ ผมอยู่เชียงรายครับ เบอร์ผมครับ 0899594742 =j;psksojvp8iy[