ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รพ.พิจิตรได้มีโอกาสจัดประชุมวิชาการกับสมาคมแพทย์ไทยแห่งสหรัฐอเมริกามีการถ่ายทอดวิชาการใหม่ๆเช่นการผ่าตัดฝัง shipเพื่อช่วยรักษาโรค Parkinson พวกเราฟังแล้วรู้สึกทึ่งและภูมิใจว่าคนไทยเราก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วฉันก็เคยได้มีโอกาสได้ร่วมโครงการคล้ายๆกันนี้จำได้ว่าตอนนั้นฉันได้รับมอบหมายให้ช่วยงานที่ห้องตรวจ กระดูกและข้อ อาจารย์หมอใจดีมากๆนอกจากจะสอนวิชาการแล้วท่านยังให้แง่คิดในการดูแลผู้ป่วยแก่ข้าพเจ้าcase ที่น่าสนใจเป็นผู้หญิงวัยกลางคนมาตรวจด้วยอาการปวดหลังเธอไปตรวจรักษามาหลายที่แต่ไม่หาย อาจารย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วบอกผู้ป่วยว่าไม่พบความผิดปกติใดๆอาจารย์ถามอะไรอีก 2-3 ประโยค อาจารย์ยิ้มมองหน้าเธอแล้วพูดว่าดูสีหน้าคุณคุณคงมีเรื่องกังวลใจอะไรสักอย่างพอจะเล่าให้หมอฟังได้ไหมเผื่อว่าหมอจะช่วยคุณได้ ผู้หญิงคนนั้นถึงกับร้องไห้สุดท้ายเธอก็เล่าว่าเธอเครียดเรื่องชีวิตคู่สามีเธอเป็นคนดีมากๆขยันทำมาหากินและดูแลเธอกับลูกเป็นอย่างดี ปัญหาอยู่ที่สามียังมีความต้องการเรื่องเพศแต่ตัวเธอเริ่มหมดความต้องการในเรื่องนี้เธอจึงรู้สึกผิดและทุกข์ใจเพราะสงสารสามีแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรและไม่รู้จะปรึกษาใคร อาจารย์แนะนำให้ส่งเธอไป counseling อาจารย์บอกว่าผู้ป่วยบางคนป่วยๆที่ใจ แต่มีอาการแสดงที่กายจะกินยาแพงแค่ไหนหรือรักษากับหมอเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางหาย ถ้าเราตรวจและวินิจฉัยและค้นหาปัญหาที่แท้จริงได้ก็ควรให้การช่วยเหลือเขา ฉันนึกถึงตอนไป Work shop ที่เชียงใหม่เมื่อไม่นานมานี้อาจารย์ก็เคยบอกว่าในชีวิตจริงเราสื่อสารกับผู้ป่วยเหล่านั้นอย่างไร ถ้าเราอยากได้ความไว้วางใจ เราต้องสร้างและแสดงให้เขาเห็นว่าเราจริงใจที่จะรับรู้รับฟังเรื่องราวของเขา รับรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่ตรงหน้าเรา ฟังในสิ่งที่เขาพูดและรับรู้ถึงบางสิ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมา..............
โดย อรพรรณ มันตะรักษ์
ไม่มีความเห็น