วันจักรี เป็นวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมบรมราชวงศ์จักรี เสด็จกรีฑาทัพถึงพระมหานคร ทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ดำรงราชอาณาจักรสยามประเทศด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้า ฯ ให้หล่อพระบรมรูป พระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ พระองค์ ( รัชกาลที่ ๑ – รัชกาลที่ ๔ ) เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และโปรดเกล้า ฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และมีการย้ายที่หลายครั้ง เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ปราสาท และพระที่นั่งศิวาลัยปราสาท เป็นต้น
ในสมัยรัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายพระบรมรูปทั้ง ๔ ( รัชกาลที่ ๑ – รัชกาลที่ ๔ ) มาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาล ที่ ๕ พระชนกนาถ พระที่นั่งองค์นี้ รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้า ฯ ให้ซ่อมจากพุทธปรางค์ปราสาท เพื่อการนี้โดยเฉพาะ และได้พระราชทานนามดังกล่าว การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง ๕ รัชกาล สำเร็จลุล่วงในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงได้มีพระบรมราชโองการ ประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ ๖ เมษายนปีนั้น และต่อมาโปรดเกล้า ฯ ให้เรียกวันที่ ๖ เมษายนว่า “วันจักรี”
ในวันที่ระลึกถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ มหาจักรีบรมราชวงศ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๖ เมษายน ๒๕๕๔ นายศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์และบุคลากรของ กศน.อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ถวายพานพุ่มทองและ พุ่มเงิน และร่วมพิธี ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพระเทพสิทธิวิมล (หลวงพ่อเอียด) เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส.