บรรยากาศ สิ่งแวดล้อมเพื่อการเยียวยา


โรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากมาถ้าไม่จำเป็นและแม้ว่าจะเจ็บป่วย
หากไม่หนักหนาสาหัสก็คงไม่อยากนอนค้างที่โรงพยาบาล   เมื่อในอดีตถ้าพูดถึงโรงพยาบาลใครๆก็นึกภาพออก สภาพแวดล้อมที่ใช้พื้นที่อย่างจำกัด
บรรยากาศเป็นแนวเพื่อการรักษาก็ต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ตั้งวางอยู่เรียงราย ส่วนกลิ่นนั้นไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนกลิ่นน้ำยาจะตามเราไปทุกที่

เป็นเอกลักษณ์คู่กับคำว่าโรงพยาบาลจริงๆ ภายในตึกที่รับผู้ป่วยไว้นอนคงจำกัดให้มีได้เพียงเตียงนอนและตู้หัวเตียง1ตู้ไว้เก็บของที่จำเป็นเท่านั้น
อาจมีเก้าอี้ให้ญาตินั่งเฝ้าไข้แถมอีก 1 ตัว 
ตอนกลางคืนแน่นอนญาติผู้ป่วยจะได้สิทธ์นอนใต้เตียง 1 คนที่เหลือก็แยกย้ายกันไปและสุดท้ายถ้าพูดถึงเสียงไม่ต้องบอกว่าแทบจะหาคำว่าเงียบไม่ได้เลยเพราะเจ้าหน้าที่เดินกันขวักไขว่ต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่รวมถึงญาติผู้ป่วยอื่นๆอีกมากมายที่มาติดต่อสอบถามรวมถึงมาเยี่ยมดูอาการของญาติตนเอง     

แต่วันนี้ภาพบรรยากาศเดิมๆเริ่มเปลี่ยนไปเพราะฉันเห็นหลายตึกมีการแข่งขันกัน
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ป่วย
ญาติรวมถึงผู้ที่มาติดต่องานต่างๆได้มีมุมที่นั่งพักผ่อนคลายเครียดได้สัมผัสบรรยากาศที่ต่างไปจากโรงพยาบาลบ้าง   แม้ในบางมุมเล็กๆก็ถูกแบ่งปันจัดสรรให้เป็นสวนสวยๆได้อย่างเหมาะเจาะ
บางตึกทำสระเล็กๆจำลองเป็นน้ำตกมีปลาว่ายไปมา

ส่วนที่ตึกทารกแรกเกิดเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้นำเสนอโครงการเยียวยาจากแม่สู่ลูกในเวทีHA Forum ปี53       พี่ปานเนตร หัวหน้าตึกก็ได้รางวัลพยาบาลวิชาชีพดีเด่นด้านกุมารเวชกรรมในโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย ได้รับประทานโล่เพื่อเชิดชูและประกาศเกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพราะเขาจัดยูนิตที่เอื้อให้แม่และลูกได้อยู่ร่วมกันตลอดเวลาที่ลูกป่วยโดยไม่ต้องถูกแยกจากกันแม้ว่าลูกน้อยจะต้องถูกรับไว้นอนรักษาในตู้อบหรือนอนส่องไฟในเด็กที่มีภาวะตัวเหลืองเรียกว่าคุณแม่ทั้งหลายก็ได้มีความสุขในการมีส่วนร่วมในการรักษาลูกน้อยของตัวเองไม่ต้องมาคอยชะเง้อดูอยู่นอกห้องกระจก 
เมื่อก่อนฉันเองก็เคยแอบยืนร้องไห้เวลาเขาบอก“ หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะ”
ตอนนั้นลูกคนโตตัวเหลือง
ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งห่วงเพราะคลอดตอนฤดูหนาวกลัวลูกจะหนาว(ขนาดลูกอยู่ในตู้อบนะ)จนน้องๆพยาบาลที่ตึกบอกว่าไม่ต้องห่วงหรอกพี่รับรองหนูจะดูให้เป็นอย่างดีฉันชอบประโยคที่ว่า“ การกอดของแม่เป็นการเยียวยาที่วิเศษ”
และฉันคิดว่าแม่หลายๆคนคงไม่ปฏิเสธ

                  ที่เล่ามาอยากจะบอกว่าที่ตึกอุบัติเหตุของเราพี่หัวหน้าและน้องๆหลายคนก็ช่วยกันออกไอเดียในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อผู้มารับบริการกับเหมือนกัน เริ่มจากหน้าตึกที่มีต้นไม้เขียวให้ความร่มรื่นมีเก้าอี้ให้นั่งเป็นแนวยาวอย่างเพียงพอหรือจะลงนอนเลยก็ได้เรามีมุมหนังสือให้อ่านมีโซฟาให้นั่งรอ แต่ละห้องตกแต่งไว้เหมาะกับการใช้สอยเพราะเราตั้งใจไว้ว่า “

เราอยากเป็นER ที่สวยที่สุดในประเทศไทย ” ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่แพงๆผู้ป่วยในพิจิตรของเราก็สามารถมีโรงพยาบาลที่สวยๆได้เหมือนกัน......

by  Emergency  group

รายละเอียด

คำสำคัญ (Tags): #sha#รพ.พิจิตร
หมายเลขบันทึก: 439073เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2011 15:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท