การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 มีหลายพรรคการเมืองนำเอา Social Media เข้ามาเป็นเครื่องมือในการหาเสียง แต่มีข้อสงสัยว่าเครื่องมือต่าง ๆ เหล่านั้นจะคิดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งอย่างไร ??? เพราะมีการกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งส่วนบุคคลและพรรคการเมือง แต่วิธีคิดค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องที่กระทำได้ยากมาก
การหาเสียงเลือกตั้งผ่าน Social Media มองได้สองแบบคือ Social Media เป็นของฟรี เป็นช่องทางสื่อสาร เหมือนเราโทรศัพท์หรือส่งจดหมายฟรี ถ้าจะนับเป็นค่าใช้จ่าย จะคำนวณยากมาก เพราะปริมาณการส่งถ้าเป็นล้าน ๆ คิดครั้งละ 1 บาท ก็ตอบได้ยากเหมือนกันว่าส่งกันกี่ครั้ง ประมาณราคาก็ไม่ได้ ยิ่งถ้านับว่าเป็นเรื่องของการสื่อสารก็เหมือนเขาโทรศัพท์คุยกันจะนับเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้ หรือเขาพูดคุยกับผู้ใช้สิทธิ์จะนับเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้ นี่คือประเด็นแรก
ประเด็นที่สอง ถ้ามอง Social Media เป็นการโฆษณา จะคิดเหมือนป้ายโฆษณา ก็จะกลายเป็นเรื่องหยุมหยิม เพราะ Social Media มีมากมายหลายสิบประเภท จะกำหนดขนาด กำหนดปริมาณการโฆษณา จำนวนครั้งหรือจำนวนหน้า จำนวนเพจ จำนวนข้อความ ก็กระทำได้ยากมากเช่นกัน ในมุมของการโฆษณาด้วย Social Media มีประเด็นพอจะนับเป็นค่าใช้จายเลือกตั้งได้ ก็แค่การลงโฆษณาในเว็บไซต์ต่าง ๆ แบบนี้นับได้ หรือการไปโพสท์ในพื้นที่เว็บที่ให้บริการประชาสัมพันธ์แบบนี้อาจคิดค่าใช้จ่ายได้
กรณีการใช้ Facebook หรือ Twitter ในการหาเสียง ก็มีเรื่องลำบากว่าเป็นของผู้สมัคร หรือของพรรคหรือไม่ เพราะอาจมีคนหวังดีเข้าไปช่วยหาเสียงโดยที่ผู้สมัครหรือพรรคไม่รับรู้ก็ได้ หรืออาจมีคนไม่หวังดีเข้าไปกระทำสิ่งไม่ดี โดยแอบอ้างผู้สมัครหรือพรรคก็ได้เช่นกัน เพราะ social media เป็นอิสระจากการควบคุม และตรวจสอบยาก จะเอามาคิดเป็นค่าใช้จ่ายทำได้ลำบาก เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครคือเจ้าของเว็บแท้จริง ยกเว้นแต่เว็บที่จดทะเบียนของพรรคเท่านั้น
กกต. คิดตามอัตราการเสียค่าอินเทอร์เน็ตปกติครับ
ถ้าจ้างบริษัท PR กระตุ้นผ่าน Social media ก็เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดจ้าง :) บริษัทอย่างนี้มีเยอะค่ะ สามารถบอกเงื่อนไขได้ว่า ต้องเป็นแฟนตัวจริง ต้องเป็น active users เป็นต้นค่ะ