“.....การยึดกรอบของสกอ.มากๆ เป็นสิ่งดี การไป Concern เรื่องนั้นมากๆ แต่อย่าให้มันมาทำลาย Elememnt หลักๆ ขององค์ความรู้ที่เรามีอยู่ อย่าให้มันหลุดไป .....เราพยายามที่จะ ขอประทานโทษ ตัดเท้าให้เหมาะกับเกือกหรือจะตัดเกือกให้เหมาะกับเท้า....อยากให้วิทยาลัยชุมชน Flexible เอาหลักการ ปรัชญาของเราให้แน่น ที่พูดไว้แต่ต้น ยึดตัวนั้นไว้ แล้วกฎระเบียบที่มีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องมี แต่ในเมื่อถึงจุดหนึ่งถ้าเราทำตามนั้นแล้ว จะทำให้คุณค่าของเราที่มีอยู่หายไป ตรงนั้นเราต้องทบทวน วิทยาลัยชุมชนพร้อมที่จะทบทวนหลักเกณฑ์ พร้อมที่จะตัดเกือกใหม่แต่จะไม่ตัดเท้า ขอให้รักษาตรงนี้ไว้....Concept ของเครดิตแบงค์นี้ดี จะต้องรักษาคุณภาพของเครดิตแต่ละเครดิตตาม Originality ของมัน อย่าไปทำเครดิตให้ไป serve อนาคต เครดิตต้อง serve ปัจจุบัน serve ความต้องการปัจจุบัน serve หลักการปัจจุบัน....ถ้าจะทำให้สมบูรณ์ ทำให้เป็นธรรมชาติ อยากให้ลองจินตนาการคนที่จบหลักสูตรของวิทยาลัยชุมชนมาตั้งเป็นโจทย์ว่าเราอยากเห็นเขาเป็นอย่างไร แล้วมาดูว่ากระบวนการพัฒนาจะทำอย่างไร เราจะสร้างคนเหล่านี้อย่างไรให้เป็นอย่างฝัน....”
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
การประชุมคณะกรรมการวิทยาลัยชุมชนน่าน
๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ มทร.ล้านนา น่าน
สนับสนุนโครงการด้วยนะคะ
ฝากให้น้องซอมพอด้วยค่ะ
การจะขยับ "กระบาลทัศน์" (คุณครูสุรินทร์ กิจนิตย์ชีว์ ใช้คำนี้เสมอ) การเรียนรู้นั้น มันเชื่อมโยงพันกันยิ่งกว่าโรตีสายไหม คือ วิธีแลก/วิธีเรียน-หลักสูตร-ครู-ผู้เรียน-คนรอบข้างผู้เรียน-สังคม
ถ้าขยับแค่กลุ่มหนึ่งแต่กลุ่มอื่นไม่ขยับจะเคลื่อนยากมาก มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ใช้เวลา 10-15 ปี สร้างความมั่นใจสังคม ถึงขนาดที่เจ้าของห้างร้าน กิจการ ประการชัด "....ผมเลือกลูกศิษย์ มรภ.อุตรดิตถ์ก่อนสถาบันอื่น มาฝึม็มีเงินเดือนให้"
ขี้วัวเป็นหนึ่งในหลักสูตรครับ ลองอ่านที่ http://www.gotoknow.org/blog/c4hnews/441427
ผมจินตนาการบรรเจิด น้องสาวไปเรียนทำอาหารอินเดีย พม่ามา น่าจะประยุกต์เป็นหลักสูตร เสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยง ลูกหลานคนน่านซึ่งทำงานเมืองใหญ่ กลับเยี่ยมบ้านมาเรียน
ขอจอง วิชาจักรยาน ได้ไหมครับ จักรยานอังกฤษยุคโบราณ ใช้เกียร์ ยี่ห้อ Sturmey-Archer ผมพอรู้กลไกบ้าง จะชวนเศรษฐีมาเรียน
Branding วิทยาลัยชุมชนจะเด่น เพราะมิได้จำกัดเฉพาะกลุ่มซึ่งไม่อาจไปเรียนที่อื่นได้ แต่หมอยังมาเรียน มาสอน