การเมืองกับการดูแลประเทศไทยระยะยาว

ติดตามอ่านบทความแนวหน้า ย้อนหลังได้ที่ ลิกก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/allnews.asp?ID=97&HL=0&no=1

 

บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2554

การเมืองกับการดูแลประเทศไทยระยะยาว 

บรรยากาศการเลือกตั้งคลุ้งไปหมด คนไทยส่วนใหญ่สนใจฝักใฝ่การเมือง มุ่งแต่เลือกตั้ง ไม่ได้ลืมตาดูโลกภายนอกที่กระทบต่อเราด้วย

เหตุการณ์ต่างๆ กระทบกับประเทศไทยหลายเรื่อง แต่คนไทยไม่ค่อยมีใครพูดถึง

* ปัญหาประเทศซีเรีย น่ากลัวมาก ประชาชนถูกฆ่าตายทุกวัน ไม่มีท่าทีว่าจะจบได้ รัฐยังมีปืน ประชาชนไม่มี เข่นฆ่าประชาชนล้มตายทุกวัน จะจบอย่างไร?

* ปัญหาลิเบียก็ยังไม่จบ คุณกัดดาฟีจะลงเมื่อไหร่?

* ปัญหาเยเมน ประชาชนถูกฆ่าตายทุกวัน

* กรีซยังหนี้ท่วม เกิดล้มละลาย อะไรจะเกิดขึ้นกับเงินยูโร และเศรษฐกิจโลกกระทบเศรษฐกิจไทย

* เศรษฐกิจไทยถูกกระทบจากสึนามิ ญี่ปุ่น ภาษีลดหายไปมาก การส่งออกลด

นักการเมืองไทย ยังเน้นประชานิยมแบบเว่อร์ๆ คนไทยที่คิดเป็น ก็จะรู้ว่า นักการเมืองหาเสียงโดยไม่ต้องรับผิดชอบ

ผมโชคดีที่มีสื่อทางเลือกของตัวเอง อย่างบทความครั้งที่แล้วก็มีสื่อมวลชนหลายฉบับนำไปอ่านวิเคราะห์ และยังได้รับโอกาสไปออกสื่อ ASTV ช่อง 6 พูดเรื่องประชานิยม ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง เน้นประชานิยม เงินหมดตัวแล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท จะยิ่งไปกันใหญ่เพราะต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น คุณภาพของคนยังพัฒนาไม่ได้ แถมยังมีการศึกษาแบบท่องจำ คิดไม่เป็น ไม่คิดถึงประเทศส่วนรวม

ประเทศต้องลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ รวมทั้งสร้างสังคมการเรียนรู้ให้เกิด ซึ่งนักการเมืองไม่ชอบนโยบายในระยะยาว เพราะหาเสียงไม่ออก

มีหลายคนพูดว่าหาเสียงเป็น การตลาดขายสินค้า การเมือง ขายสินค้า (Idea) ถ้าประชาชนชอบก็ซื้อ แต่การตลาดยังมีหน่วยงานดูแล เช่น สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคแต่การเมืองไม่มี พูดอะไรก็ได้ ไม่มีการรับผิดชอบ เช่น ลด Vat ลงไป 2%

มีเรื่องน่าสนใจจะเล่าให้ฟังว่า ถ้าทำได้ ประเทศไทยมีรัฐบาลรักษาการณ์สัก 12 เดือนและไม่อนุญาตรัฐมนตรีฯอนุมัติโครงการใหญ่ๆ โดยเหตุผล เช่น อาจตั้งรัฐบาลไม่ได้สัก 1 ปี งบประมาณปีนั้นจะเกินดุล เพราะใช้ได้แค่งบประจำ

มีเหตุการณ์เกิด เรื่องจริงที่เบลเยียม ขณะนี้ยังหารัฐบาลไม่ได้ รักษาการอยู่ 1 ปี แต่งบประมาณเกินดุล แค่รักษาการประชาชนเบลเยียมก็เฉยๆ ไม่วิตก ผมเชื่อว่าในประเทศไทยก็เหมือนกัน หัวคิวให้นักการเมือง 30% จะได้ลดลง

* มีคำถามว่า ถ้าโครงสร้างการเมืองเป็นแบบนี้ ใครจะดูแลประเทศระยะยาว

* ผมคิดว่าในการป้องกันประเทศ มีทหารซึ่งถือว่ามีหน้าที่หลักช่วย

* แต่ในด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และนโยบายต่างประเทศ ต้องมีภาคประชาชนที่เข้มแข็ง

* ต้องมีสื่อทางเลือกกระตุ้นบ่อยๆ

* ต้องมีมหาวิทยาลัยทำวิจัย เก่งๆ กล้าทำหน้าที่กระจายข้อมูลชี้นำสังคม

* ต้องมีข้าราชการและตัวแทนรัฐวิสาหกิจที่โลกทัศน์กว้าง แสดงจุดยืนให้ประชาชนได้รับประโยชน์

มิฉะนั้นจะถูกการเมืองครอบงำ

ผมโชคดีที่มีโอกาสได้ทำงานเสมอ เช่น สอนหนังสือ ออกวิทยุ โทรทัศน์ ไปพูดตามต่างๆ มีลูกศิษย์ที่เป็นแนวร่วม ผมเชื่อว่า ประเทศไทยยังมีความหวังอยู่ ถ้าทุกคนไม่นึกถึงผลประโยชน์ของส่วนตัวเท่านั้น นึกถึงส่วนรวมของประเทศบ้าง

วกเข้าสู่การเมืองก่อนเลือกตั้ง

เมื่อวันอังคารที่ 14 มิ.ย. 2554 ผมได้มีโอกาสไปให้สัมภาษณ์ในรายการ E-biz insight ซึ่งออกอากาศทาง ASTV ช่อง 6

Public Seminar จัดโดยนักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยนเรศวร กรุงเทพฯ เรื่อง "ทุนมนุษย์กับความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก" โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ กรรมการสภาการศึกษาและประธานคณะอนุกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาด้านการมีส่วนร่วม, คุณสุวรรณี มั่นคง รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ร่วมอภิปราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2554

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ได้รับเกียรติให้สอนหลักสูตร DBA วิชา สัมมนาการจัดการทุนมนุษย์ระหว่างประเทศ ให้กับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 -11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา

ขอประณามกลุ่มเสื้อแดง ไม่ลดละที่จะตอแยกับคุณอภิสิทธิ์ ในการหาเสียง เช่น ปาไข่บ้าง พูดว่าคนตาย 91 ศพบ้าง

โชคดีความเป็นสุภาพบุรุษของคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้จัดตั้งกลุ่มเพื่อโต้ตอบ ซึ่งถ้าจะทำก็จะโต้กลับเสื้อแดงว่า

* เผาบ้าน เผาเมือง

* กองกำลังติดอาวุธ ชุดดำ เป็นใคร?

* หรือความล้มเหลวของรัฐบาล คุณทักษิณในหลายๆ เรื่อง

เรื่องความล้มเหลวที่เห็น คือ แอร์พอร์ตลิ้งค์ มีคนขึ้นแค่ 700 คนต่อวัน หรือวาดวิมาน มีทำระบบ Elite Card ที่ล้มเหลวหรือย้ายกรมวิเทศสหการ สำนักนายกรัฐมนตรี ลดเกรดไปเป็นสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ ทำให้นโยบายการทูตภาคประชาชนประเทศเพื่อนบ้านเสียหายมากมาย

การเมืองจะทำอะไรก็ช่าง ประชาชนทั่วๆไปต้องหัดคิดเป็น มีเหตุมีผลบ้าง ไม่ใช่มองแต่เหรียญข้างเดียว หมกมุ่นกับความเชื่อที่ขาดความจริง ฟังความข้างเดียว เพราะความสะใจ

การหาเสียงครั้งนี้เป็นการเน้นความแตกต่างระหว่างความจริงกับความเชื่อ ความเชื่ออาจจะไม่ใช่ความจริง ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Perception

คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ต้องแก้ Perception ที่ถูกมองว่า

* ไข่ชั่งกิโล

* ดีแต่พูด

* และพาคนตาย 91 ศพ

เพราะสูตรนี้ฝ่ายตรงข้ามพูดเหมือนกันหมด แสดงว่า ฝึกฝนมานานๆ บ่อยๆ หลายคนนึกว่า จริง ก็ได้

คุณอภิสิทธิ์ต้องอธิบายให้คนไทยได้ทราบความจริงของพรรคเพื่อไทยเรื่องต่างๆ เช่น

* ออกกฎหมายนิรโทษกรรม

* ผู้นำไม่มีประสบการณ์

* ชอบความรุนแรง เผาบ้าน เผาเมือง

ซึ่งการต่อสู้ต้องสู้กันที่ความจริง ไม่ใช่แค่สร้างความเชื่อที่ผิดๆ ยังมีเวลาอีก 2 สัปดาห์ ฝ่ายถูกระทำ คือฝ่ายรัฐบาลต้องสู้ และโต้ตอบในทุกๆ เรื่อง และมีนโยบายรุกไปบ้าง แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เพื่อลดกระแสดังกล่าว

ในกรุงเทพฯ คะแนนอาจจะได้น้อยลงไปเพราะถูกมองว่า ทำงานช้า ทำงานไม่เป็น ซึ่งมีส่วนถูกบ้าง ผิดก็มากมายต้องหาเสียงให้ถูกจุด ต้องแก้ให้ตรงจุด และให้ผู้สมัครพรรครัฐบาลพูดในทิศทางเดียวกัน

อย่างเช่นเรื่อง ชอบกู้เงิน ถ้าอธิบายว่า ต้องกู้เพราะเกิดปัญหาแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐ ในช่วงคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯและพอเศรษฐกิจฟื้นก็ยกเลิก เงินกู้ 400,000 ล้าน แล้วอธิบายให้ประชาชนเห็นความสำเร็จในช่วง 2 ปี

* ส่งออกสูงสุดในประวัติศาสตร์

* ราคาพืชผลการเกษตรดีมาก

* จัดการกับวิกฤติได้อย่างดีหลายครั้ง แสดงถึงภาวะผู้นำของนายกอภิสิทธิ์

ผมเชื่อว่า ประเทศอยู่ได้ด้วยการให้ความจริงมากกว่าการสร้างความเชื่อผิดๆ

งานหลักๆ ของผม กระตุ้นให้ประเทศเดินหน้าระยะยาว หลายเรื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โครงการ Public Seminar ที่จัดที่มหาวิทยาลัยนเรศวร กรุงเทพฯ เรื่อง "ทุนมนุษย์กับความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก" โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ กรรมการสภาการศึกษาและประธานคณะอนุกรรม การนโยบายปฏิรูปการศึกษาด้านการมีส่วนร่วม, คุณสุวรรณี มั่นคง รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและมีผมร่วมอภิปราย เพราะทุนมนุษย์จะช่วยให้ประเทศไทยแข่งขันได้และยั่งยืนด้วย แต่จะทำอย่างไรให้สำเร็จ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดและบทความดีๆ 3 เรื่อง เพิ่มเติมได้ที่ www.chiraacademy.com หรือ http://www.gotoknow.org/blog/chiraacademy ปริญญาเอกต้องทำอะไรเพื่อชี้นำสังคม ทำได้ดีมากครับ

ส่วนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เริ่มแล้วครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภูมิใจในมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจท่องเที่ยวและชื่อภูเก็ตก็เป็น Brand ระดับโลก มีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพยิ่งช่วยภาพลักษณ์ของภูเก็ตให้สูงขึ้น ผมโชคดีที่มีโอกาสไปเป็นอาจารย์สอนในวิชา สัมมนาการจัดการทุนมนุษย์ระหว่างประเทศ คุณภาพของอาจารย์ที่นี่ดีมาก ที่ต้องการเรียนต่อยอด DBA เพื่อสร้างธุรกิจภูเก็ต มีความสนใจมากและงานวิจัยดีๆ จะช่วยทำให้ภูเก็ตยั่งยืน แก้ปัญหาไม่ให้ธุรกิจไทยตกเป็นของชาวต่างประเทศ

ต้องกระตุ้นให้คนไทยคิดไกลครับ

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181