หน่วยจ่ายกลาง เป็นหน่วยงานที่ วันๆทำแต่งานที่ซ้ำซาก อยู่กับเครื่องมือ อย่างเดิมๆ คนทำงานบางครั้งก็เกิดอาการท้อแท้ หลายหน่วยงานที่ส่งคนวัยใกล้เกษียณ คนเจ็บป่วย ลงมาอยู่ หลายคนต้องลาออกไป เพราะปัญหาเรื่องงานที่ได้เผชิญแต่ละวัน
3 ปี ที่ฉันได้ก้าวเข้ามาอยู่ หน่วยงานนี้ ด้วยความสมัครใจ เริ่มต้นด้วย ความคิดต่างๆนา ทั้งความสับสน เริ่มจากศูนย์ แต่เมื่อได้มาสัมผัส....งานนี้ช่างท้ายยิ่งนัก ฉันค่อยๆเรียนรู้ จากการนำมาตรฐานมาจับ ดึงกระบวนการที่ยังเกิดปัญหาออกมา วางเรียงไว้ ค่อยๆแก้ไข อ่านหนังสือ ทำการบ้านทุกวัน อย่างหนัก แต่เป็นเรื่องที่ยาก เพราะสิ่งต่างๆ เต็มไปด้วยข้อติดขัดไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ที่เก่าแสนเก่า คนเดิมที่เคยปฏิบัติต่อๆกันมาแสนนาน เป็นเรื่องยากที่พัฒนา แต่ในเมื่อตั้งใจไว้ที่ลงมาอยู่ต้องทำให้ได้
โชคดีที่ ฉันได้รู้จัก กับคำว่า " R2R " http://www.gotoknow.org/post/tag/r2r เมื่อปลายปี 2552 ที่ ดร.นิภาพร ลครวงศ์ ka-poom ครั้งแรกนั้น ฉันได้ชวนน้องที่หน่วยงาน เข้าร่วมรับฟังด้วย น้องๆเอง คงไม่ต่างจากฉัน เข้ามาฟัง คำว่า "วิจัย" ยิ่งเกิดความหวาดหวั่นในใจ ความกลัวเกาะกุมในหัวใจ ในวันนั้น น้องๆที่ชวนเข้ามาไปนั่งแอบอยู่ข้างหลัง เห็นแววตาแห่งความหวาดกลัว ความไม่มั่นใจในตนเอง เพราะในห้องมีแต่พี่ๆพยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ เข้ามารับฟังในวันนั้น
การรับรู้ คำว่า " R2R " ในครั้งนี้ ไม่เหมือนการเรียนวิจัยสมัยเรียน ครั้งนี้ เรียนไป หัวเราะไป แววตาน้องๆ ค่อยๆส่งเป็นประกาย อย่างมีความหวัง หลังจากนั่งฟังเพียงแค่วันเดียว มีกระบวนการเรียนรู้ ที่ไม่ได้เรียนวิจัย แต่ให้ การค้นหาปัญหาหน้างาน ด้วยคำถามเอ๊ะ....ที่ ดร.นิภาพร ลครวงศ์ ถ่ายทอด น้องกลับไป เอ๊ะ....ได้ตั้งหลายเรื่อง ....รวมทั้งตัวฉันเอง....พวกเราคุยกันทุกวัน นำข้อติดขัด นำเรื่องที่เอ๊ะ มาหาคำตอบกัน....ด้วยความสนุก อยากมาทำงาน เพราะมีความสุข ในทุกวัน วันที่นัดส่งหัวข้อการวิจัย น้องๆมานำเสนอด้วยตัวเอง สิ่งที่ฉันได้เห็น คือความกล้า ของน้องรวมทั้งความกล้าของฉันกับการเผชิญสิ่งที่กลัวมานาน...กับคำว่า"วิจัย" ฉันเริ่มเห็นหนทางรำไร ที่จะนำพาทีมก้าวไปต่อ ในการแก้ปัญหาในหน้างาน ฉันรู้ว่า R2R คือหนทางที่จะช่วยปลดแอก ปลดโซ่ตร่วน ที่พันธนาการความทุกข์ ของเราที่เผชิญในงานแต่ละวัน....
ในหนึ่งปีแห่งการเรียนรู้ ที่จะค้นหาคำตอบ กับคำถาม ในงานแต่ละวัน น้องๆ ไม่ได้รู้หรอกว่าวิจัยเค๊าทำอย่างไร รู้เพียงว่า มีข้อติดขัด หาวิธีค้นหาคำตอบ เก็บข้อมูล นำมาพิจารณา แล้วได้วิธีการใหม่ในการทำงาน ซึ่งสิ่งนี้ ทำให้พวกเราเห็นคุณค่าของงาน ทุกวันที่ทำงาน คือการทำคงามสุขให้เป็นงาน
บนเส้นทางเดิน ของการพัฒนางาน กับการเรียนรู้ หนทางการแก้ปัญหา R2R คือ เครื่องมือ และกระบวนการทางปัญญา ที่พวกเราได้สัมผัส ฉันได้เล่า ไว้ใน http://www.gotoknow.org/blog/khondhammada เผื่อท่านที่ผ่านมา เกิดแรงบันดาลใจ ในการพัฒนางาน
ผลของความสุข จากการทำงาน การเห็นคุณ ในงานประจำ ทำให้ น้องๆสร้างสิ่งประดิษฐ์มากมาย แล้วส่งผลงานเข้าประกวด ในปีนี้ ที่ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ดูได้จาก http://www.hsri.or.th/news/771 น้องๆและทีมงานได้พิสูจน์ ให้เห็นว่า คนหน่วยจ่ายกลาง ก็ทำได้ ตามผลประกาศ
รางวัลผลงาน R2R ดีเด่น กลุ่มสนับสนุนบริการและบริหาร
๑. ผลงานเรื่อง “เพิ่มพลังนึ่งหารสองสนองโลกร้อน” โดยนายสหัส ตอสูงเนิน โรงพยาบาลป่าติ้ว จังหวัดยโสธร
๒. ผลงานเรื่อง “จากภูมิปัญญาไส้หมอนขิดป่าติ้ว ช่วยการนึ่งซองซีลไม่ให้เปียกชื้น” โดยนางสาวบังอร อินอ่อน โรงพยาบาลป่าติ้ว จังหวัดยโสธร
เรื่องเล่าที่เกี่ยวกับ ผลงานทั้งสองเรื่อง ติดตามได้ที่ G2K คลิกที่
"เพิ่มพลังนึ่งหารสองสนองลดภาวะโลกร้อน"
"จากภูมิปัญญาไส้หมอนขิดป่าติ้วช่วยนึ่งซองซีลไม่ให้เปียกชื้น"
ผลงานเรื่อง “เพิ่มพลังนึ่งหารสองสนองโลกร้อน” โดยนายสหัส ตอสูงเนิน โรงพยาบาลป่าติ้ว จังหวัดยโสธร
๒. ผลงานเรื่อง “จากภูมิปัญญาไส้หมอนขิดป่าติ้ว ช่วยการนึ่งซองซีลไม่ให้เปียกชื้น” โดยนางสาวบังอร อินอ่อน โรงพยาบาลป่าติ้ว จังหวัดยโสธร
อ้าว ช่วยกันหน่อย
ขอให้สำเร็จๆๆ
นะครับ
เยี่ยมจริงqเลยค่ะ ยินดีด้วยกับ2รางวัลที่ได้รับ ร่วมเชียร์ให้เกิดผลงานดีๆออกมาเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้จ่ายกลางรพสิชลพยายามให้ได้ออกมาซักเรื่องอยู่ค่ะ ช่วยเป็นแรงใจให้หน่อยนะคะ
เยี่ยมยอดครับ
ต้องไปนั่งฟังแล้วครับ
พี่กาย...ที่คิดถึง