นวนิยายแปลของญี่ปุ่น


มีโอกาสได้อ่านเรื่องสร้างสรรค์ของนักเขียนชาวญี่ปุ่น ยิ่งทวีความชื่นชอบอีกหลายเท่าตัว อ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่ม ...." อิ่มใจ- อิ่มสมอง " จึงเทใจให้แบบเต็มๆ

นับเวลาได้เกือบ 4 ปีเต็มที่สามารถบังคับใจตนเองไม่ให้ซื้อหนังสือนวนิยายหรือหนังสือบันเทิงอื่นๆ มาอ่านเพื่อผ่อนคลาย    เพราะรู้ตัวว่าหากมีหนังสือเหล่านี้อยู่ในมือ จะทำให้เสียงานเสียการ     ทั้งๆที่ตระหนักในคุณค่าของสาระซึ่งเปรียบเสมือนอาหารเสริมที่เป็นประโยชน์ต่อสมองอย่างเต็มเปี่ยม   แต่ด้วยภาระงานที่เผลอไผลให้มีอำนาจควบคุมวิถีชีวิตเกือบทั้งหมด     จึงทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปเพื่องานและได้งานสมกับความตั้งใจ ....  มีบ้างในบางโอกาสที่ไปอ่านเล่นในร้านเสริมสวย
               
                  

                                           Autumn Beauty

กวาดสายตามองนวนิยายแปลจำนวนมากที่จัดวางเรียงรายบนชั้นของร้านขายหนังสือในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง   มีการแยกประเภทไปตามความสนใจซึ่งสะดวกและง่ายต่อการค้นหา     สะดุดใจกับชื่อเรื่อง    “ มาตรกร ในกระจกเงา ” นวนิยายสืบสวนของญี่ปุ่นเล่มน้อยที่ได้รับการแปลและพิมพ์มาได้ปีกว่า   วางปะปนกับหนังสือเล่มอื่นๆ อย่างสะดุดตา     ยิ่งได้เห็นชื่อ " อิมะมุระ  อายะ " นักเขียนหญิงเจ้าของผลงานอันทรงคุณภาพที่แสนจะคุ้นเคยยิ่งไม่สามารถหักห้ามใจ...จึงเอื้อมมือไปหยิบมาพลิกอ่านหน้า   คำนำสำนักพิมพ์  ที่เกริ่นนำได้อย่างน่าสนใจ  จึงตัดสินใจซื้อมาครอบครองโดยลืมปฏิภาณที่มุ่งมั่นว่าจะไม่ซื้อหนังสือประเภทนี้มาเสพให้ติด(ใจ)....อีกต่อไป

                                  

                                                   



ทิ้งภาระงานเร่งด่วนแบบไม่แยแส   ..... รู้อยู่แล้วว่าการณ์จะเป็นเช่นนี้  .... “ หากมนุษย์ตัดกิเลสได้  ”  ก็คงจะดี   .....เถอะน่า....ให้รางวัลกับตนเอง(บ่อยๆ) คงไม่เป็นไร ...ทำตนเคร่งเครียดมากเดี๋ยวจะหมดเวร-สิ้นกรรมไปเร็วกว่าที่คาด  
             
              


                                                                    



ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนและนวนิยาย   มาตั้งแต่ 8 ขวบ .....เพราะพี่ชายซื้อมาอ่านและวางกองไว้เป็นตั้งๆ   เริ่มแรกจะอ่านเรื่องสั้นๆ สนุกๆ ก่อน   แล้วค่อยพัฒนามาอ่านเรื่องยาวๆ   ในที่สุดจึงกลายเป็นหนอนหนังสือตัวน้อยที่เพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้อย่างหลงใหล     แต่หากเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับวิชาการ....แต่ละครั้งจะอ่านได้ไม่เกิน 10 หน้า...อาการง่วงงุนจะเข้าครอบงำและหลับใหลไปอย่างสงบสุข   แม้ว่าจะตื่นขึ้นมาอย่างหาความสุขไม่ได้ก็ตาม  เนื่องจากอ่านเนื้อหาไม่จบตามกำหนดเวลาที่บังคับนั่นเอง   

 


                                                 Smiling Book



นับได้กว่า  2  ทศวรรษ    ที่หันมาชื่นชอบเรื่องสั้น- นวนิยายแปล    เพราะชอบวิธีการเสนอความคิดและการดำเนินเรื่องที่ต่างมุมออกไปอย่างไม่อาจคาดเดาได้  ช่วงแรกเริ่มจะเป็นเรื่องสั้น- นวนิยายแปลของชาวตะวันตก .... แต่พอได้อ่านเรื่องของนักเขียนชาวตะวันออกอย่างชาวจีน   รู้สึกชื่นชมกับความคิดอันแยบยลที่มีคติสอนใจของเหล่าบรรดานักปราชญ์ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหา    และเมื่อมีโอกาสได้อ่านเรื่องสร้างสรรค์ของนักเขียนชาวญี่ปุ่น  ยิ่งทวีความชื่นชอบอีกหลายเท่าตัว   อ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่ม ...." อิ่มใจ- อิ่มสมอง "  จึงเทใจให้แบบเต็มๆ  
   

                                                     



ผลการสำรวจสถิติการอ่านหนังสือของคนไทยประจำปี 2554   “  คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย 2-5 เล่มต่อปี   ”    น่าจะเปลี่ยนตัวเลขได้แล้วนะ.....   ก็ปีหนึ่งๆ  อ่านเผื่อไปมากกว่า  40  คนแล้วนี่นา 

            

ศึกษา  " การอ่านทำให้รู้เขา  รู้เรา " (คลิ๊ก)

               
                 *** ขอขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซต์ต่างๆ และผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ  *** 

หมายเลขบันทึก: 448487เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2011 22:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกนี้นะคะ

"มาตรกร ในกระจกเงา"

เป็นนวนิยายที่น่าสนใจค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ

ขอบคุณค่ะ^^

ดีใจครับ ที่ชอบอ่านหนังสือ

จะได้มีแรงบันดาลใจนะครับ...

อ่านแล้ว...เขียนบันทึกให้อ่านแบบนี้

น่าให้กำลังใจมากครับ

Ico48 น้องต้นเฟิร์นจ๊ะ

     *** รับประกันได้ว่า หนังสือเรื่องนี้ เขียนได้ดีจริงๆ  ทั้งการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามและการเรียบเรียงประโยคด้วยภาษาที่งดงามอ่านเข้าใจง่าย  เรียกว่า อ่านเพลินจนแทบไม่อยากวางเลย  ไปลองหาอ่านดูนะจ๊ะ .... ขอบใจ น้องต้นเฟิร์นจ้ะ!  ***


                           
                                                                    

  • ชอบจังครับ ที่เล่าเรื่องการชอบอ่านหนังสือ
  • การชอบอ่านพัฒนาได้ช้ามาก
  • มองย้อนกลับไปกว่าจะได้เรียน
  • กว่าจะได้อ่าน กว่าจะได้ชอบการอ่าน
  • กว่าจะได้อ่านแบบ "เอาเป็นเอาตาย" 
  • โน่น...อายุเกือบจะหนึ่งส่วนสามของชีวิต
  • แต่....น่า ยึดฝรั่งไว้ว่า "No one is too old to learn" 
  • ก็พอได้นะครับ

นานแล้วที่ไม่ได้อ่านวรรณกรรม ได้แต่ซื้อมาขึ้นหิ้ง

เคยอ่าน รันทดและงดงาม

ตอนนี้นานแล้วที่ไม่ได้อ่านวรรรกรรมได้แต๋ ซื้อมาเก็บขึ้นหิ้ง

Ico48 คุณทิมดาบครับ

         *** ...หากมีความประทับใจตั้งแต่แรกเริ่ม   ย่อมสนใจและตั้งใจปฏิบัติอย่างมุ่งมั่น    " คุณทิมดาบ " คงชอบอ่านหนังสือเช่นกันมังครับ....  ขอบคุณนะครับที่เข้ามาเบี่ยมชม... ***


                                                              
                                                                         
                             

Ico48 อาจารย์โสภณคะ

       ***  เรียกได้ว่า...เป็นอาการคลั่งไคล้แบบหนักเอาการค่ะ.....หากไม่จบไม่ยอมวาง  ไม่หลับ-ไม่นอน....แม้แต่จะเข้าห้องน้ำ....ยังอิดออด  หุหุหุ....  ระยะ ๔ ปีนี้จึงหักดิบแบบดื้อๆ  ..... มิเช่นนั้นงานคงไม่เรียบร้อยตามกำหนด   ดีใจจังที่อาจารย์มีลักษณะคล้ายคลึงกัน    ขอบคุณนะคะ *** 



                                                                    

                                                            

                                                                 

Ico48   คุณวอญ่าคะ

       ***  หนังสือที่ยังไม่แกะพลาสติกหุ้มปกประมาณ ๕-๖ เล่มก็ยังนอนรออยู่ที่ชั้นหนังสือส่วนตัวเหมือนเดิม....โดยเฉพาะเรื่องของนักเขียนที่ชื่อ " วินทร์  เลียววาริณ " ที่ต้องใช้เวลาอ่านนานกว่าของท่านอื่น เพราะต้องคิดและจินตนาการตามไปด้วย....จึงปล่อยวางให้สมองปลอดโปร่งจนเผลอลืมไปทีเดียว  ขอบคุณนะคะ  ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยกัน   ***



                                                                             

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท