๒ มือ ที่กำลังยกขึ้นเคลื่อนไหวเป็นจังหวะของผู้ปฏิบัติธรรม ตามแนวปฏิบัติของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ดูน่าฉงนสำหรับผู้มาใหม่ หากแต่พอเริ่มๆ ลองทำตามคนอื่นไปก็พอรับรู้ได้ว่า “สุขแบบนี้..ยิ่งรู้.. ยิ่งสุข..”
เมื่อทราบข่าว กิจกรรมครบรอบ ๑๐๐ ปีวาระชาตกาล หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ บรรดาญาติธรรมต่างหลั่งไหลเดินทางมาร่วมแสดงอาจริยบูชาหลวงพ่อด้วยกุศลเจตนา กิจกรรมที่แสดงกตเวทิตานอกจากมวลดอกไม้ที่ถูกจัดเรียงอย่างสวยงามกอปรกับการจัดบรรยากาศแห่งการแบ่งปันเพื่อน้อมนำบูชาของศิษย์นับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าแห่งอามิสบูชาอันเป็นเบื้องต้น สิ่งสำคัญอันมีค่าเหนือนั้น คือ ศิษย์ทุกคนตั้งใจบูชาอาจริยารูปนี้ ด้วยการปฏิบัติตนตามกลวิธีแห่งการรู้สึกตัว การรับรู้อย่างมีสติในอากัปกิริยาที่กำลังไหวติง ๑๔ ท่า โดยเอาสติเป็นฐานรากการรับรู้ดังที่อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม (ชมรมเพื่อนคุณธรรม) กล่าวไว้ในตอนหนึ่งของกิจกรรมว่า การรู้สึกในความหมายของหลวงพ่อเทียนนั้น คือ “รู้สึก เหมือนดู” ทำให้รับรู้และเข้าใจได้ง่ายขึ้น
การรับรู้ความเคลื่อนไหวแบบซื่อๆ แบบรู้เอาดื้อ ๆ ตามแนวทางแห่งหลวงพ่อเทียนนั้น เป็นกลวิธีที่เป็นสากลที่ใครหลายคน หลายสำนักต่างบอกว่า หากมีจริตเป็นนักคิดที่สาละวนมัวฉงนกับสิ่งที่เป็นตรรกะเห็นจะเหมาะสม เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะหลายคนที่เป็นนักคิด นักวิชาการ อาจารย์ ต่างล้วนแต่นำทฤษฎีแนวทางมาเป็นฐานแห่งการปฏิบัติเพื่อตอบโจทย์สมมุติฐานที่ต้องการใฝ่รู้แบบนั้น แต่เหตุผลเชิงทฤษฎีนั้นก็ใช่ว่าจะไม่จำเป็น อีกทั้งยังสำคัญยิ่งในการพัฒนาสร้างความมั่งคั่งสะดวกสบายให้กับปุถุชนในโลกิยะ แต่สำหรับ แนวทางแห่งการ “รู้สึกตัวนั้น” อยู่เหนือแนวคิดที่เป็นตรรกะทั้งสิ้น นั่นหมายถึง ยิ่งรู้สึกตัวมากยิ่ง โลกุตระเป็นสิ่งหวังพิงในเบื้องหน้า
การศึกษาบนรากฐานความรู้สึกตัว : จากกระบวนทัศน์สู่การปฏิบัติจริง / เบิกบานในเรือนใจ : ทำเรือนให้เป็นอาราม
อ.วิรัตน์, อ.สุนิดา, อ.รัฐพล, อ.ชัชวาลย์ อ.จุฑาภรณ์, อ.ปรีชา, แม่แอน, คุณอัครา, พี่นก นิรมล
การพัฒนาครอบครัวและสุขภาวะบนรากฐานความรู้สึกตัว / สุขภาวะในมิติของการเจริญสติภาวนา
คุณหมอวัฒนา สุพรมหจักร อ.กำพล ทองบุญนุ่ม
โดยทั่วๆ ไปในแง่ของศาสนา เรามักแสวงหาแนวทางแห่งการสร้างสุขให้กับตนเองหมายความว่ายึดเอาแนวทางของจริตแห่งตนเป็นตัวตั้งที่จะค้นหาแนวทางและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมและลงตัว แต่ครอบครัวเหล่าศิษย์หลวงพ่อเทียนนั้น ขอน้อมนำเอาวิธีการเอาสติรับรู้ความเคลื่อนไหวทางกาย เป็นเครื่องระลึกเป็นตัวตั้งเพื่อนำไปสู่ภาวะแน่วแน่ของสมาธิและเป็นมรรควิถีสู่ปัญญาในเบื้องปลาย แนวการปฏิบัติเช่นนี้มีอยู่ในหัวใจของพุทธศาสนิกชนหากแต่หลงลืมกันไปทั้งที่ใจเผลอเลอและตั้งใจจะหลงใหลไปในวัตถุที่ทางโลกหยิบยื่นให้ จะโทษใคร? หากใจเราลุ่มหลง กลับมาเถิด.. มาอยู่และรู้สึกตัว เพื่อสร้างสุขให้แก่ตนเอง อย่างน้อยๆ ตั้งใจถือเอาช่วงเวลาเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่มก็ยังดี
๒ วันกับกิจกรรม “เจริญสติแบบเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน การศึกษาและสุขภาวะบนรากฐานความรู้สึกตัว” ขอน้อมเอากิจกรรมอาจริยบูชาครั้งนี้เป็นวิถีเพื่อการอนุโมทนาสำหรับบรรดาเพื่อนๆ ทุกคน ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นของผู้ใฝ่ในบุญ จงเสริมหนุนให้เพื่อนพ้อง มีความรู้สึกตัวที่มีกำลังใจเพียงพอต่อการอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ซับซ้อนต่อไป
.. ขออนุโมทนา ..
“ธรรมะที่ทำให้พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้า มันมีอยู่ในทุกคนไม่ยกเว้น” (หลวงพ่อเทียน)
------------------------------------------
เล่าเรื่อง : ช.ซาตรี คณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล
บันทึกภาพ : ณัฐพัชร์ ทองคำ ขอบคุณภาพแรกจาก พี่โต สื่อธรรมะ ขอบคุณภาพสุดท้ายจาก คุณตั้ม
พี่เหมียวคะ ตามอาจารย์ขจิตมาค่ะ^_^
สวัสดีค่ะพี่ณัฐ
สุขแท้จริง จากภายใน พบได้ในใจเรา
เห็นเด็กน้อยน่ารัก ๆ มาเติมสีสันบรรยากาศด้วย น่าชื่นใจนะคะ
สุขสันต์วันพระใหญ่ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ขจิต น้องมะปราง และน้องปู ม๊าก มากนะคะสำหรับดอกไม้ให้กำลังใจกัน =)
People who like this: Poo , ขจิต ฝอยทอง , and มะปรางเปรี้ยว.
คิดถึงนะคะ...
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ..ขอบคุณข้อคิดดีๆจากบันทึกนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต :
สวัสดีค่ะ น้องมะปราง : ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทาย แม้จะตามชายหนุ่มหล่อเข้ามาก็เต๊อะ ฮ่าฮ่า ขอให้มีความสุขในวันหยุดยาวนะคะ ..
สวัสดีค่ะ น้องปู :
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับดอกไม้นะคะ =)
อ้อยเล็ก
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
บ้านเรียนสมดุลชีวิต รังสิตคลอง 7
สวัสดีค่ะ พี่ครูอ้อยเล็ก : ดีใจจังค่ะที่พี่แวะมา สบายดีนะคะ คิดถึงพี่มากๆ เช่นกันค่ะ นึกว่าลืมพี่ๆ น้องๆ แถวนี้ซะแล้ว ;)
สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่ นงนาท : ฝากชื่นชมไปยังกิจกรรมดีๆ ของทางมูลนิธิสยามกัมมาจลด้วยนะคะ รับใช้สังคมตัวจริงค่ะ สาธุ!
ดีมากครับทีมงานประชาสัมพันธ้งาน 100 ปีชาตกาลหลวงพ่อเทียน ขอบุญกุศลนี้ที่ทุกท่านได้ทำร่วมกันสท้อนกลับสู่ทุกท่านครับ