ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

ชมรมคนรักวัดบัลลังก์: Emotion & Function


     จากตัวเลขของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในปี ๒๕๕๓ เรามีวัดที่มีพระจำพรรษาจำนวน ๓๐,๐๐๐ กว่าวัด และวัดร้างจำนวน ๕,๐๐๐ กว่าวัด  ถึงกระนั้น เมื่อกล่าวถึง "วัด" ในยุคปัจจุบันนี้ มีทั้ง "ชมรมคนเกลียดวัด" และ "ชมรมคนรักวัด"  ชมรมคนเกลียดวัด อาจจะมาจากตัวแปรหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความผิดหวัง และพลาดหวังในตัวของพระสงฆ์ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนา จึงทำให้บางท่านห่างเหินวัด และพลาดตกของหลักธรรมคำสอนซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา

     อย่างไรก็ดี พุทธศาสนิกชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยพระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาได้ร่วมกันตั้ง "ชมรมคนรักวัด" ขึ้น  วัดดังกล่าวคือ "วัดบัลลังก์" จ. สุพรรณบุรี  ในอดีตของวัดนี้ ประชาชนจำนวนมากได้เข้าไปร่วมพัฒนา และส่งเสริมกิจกรรมของวัด เนื่องจากเจ้าอาวาสของวัดเป็น "พระเกจิ" ซึ่งหมายถึง "เก่งกล้าสามารถในการเป่าน้ำมัน พ่นน้ำหมาก ขากเสลด" แต่เมื่อท่านมรณภาพ จึงทำให้สถานการณ์ของวัด "ทรุดโทรมลง" และ" ทยอยหายไปเพราะการจากไปจากพระในดวงใจที่ตัวเองเคารพ นับถือ และบูชา"

     การฟื้นคืนวัดให้กลับเป็น "วัด" ในความหมายของ "อาราม" ซึ่งแปลว่า "ทำให้วัดให้เป็นที่น่ายินดี"  ฉะนั้น การทำ "วัด" ให้เป็น "วัด" จึงเกิดขึ้น โดยการใช้วัดในความหมายของวัตถุ หรือในภาษาคน ให้เป็นวัดในภาษาธรรม โดยการวัดจิต วัดใจ ของผู้คนที่เข้าไปใช้วัดเป็นเครื่องมือในการพัฒนาจิต  ประดุจวัดคือแพข้ามฟาก ที่จะนำกลุ่มคนที่ประสบทุกข์ทางใจ ไปสู่ฝั่งคือความสุขทางจิตอย่างแท้จริง

     สาระสำคัญของการสร้างวัดมิได้มีเจตนารมณ์เพื่อสนองตอบอารมณ์และความรู้สึกในเชิงพิธีกรรมเท่านั้น หากแต่ควรมุ่งเน้นในเชิงของการพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งรองรับการพัฒนาคุณค่าภายใน ฉะนั้น การพัฒนาวัดไม่ควรตระหนักรู้เฉพาะเรื่องของอารมณ์ และความรู้สึกทั้งในแง่ของความสุขใจ สบายใจ ทางพิธีกรรม และสถาปัตยกรรมภายในวัด (Emotion) เท่านั้น แต่ควรตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการใช้งานจริงของศาสนวัตถุภายในวัด เช่น โบสถ์ วิหาร และลานเจดีย์ (Function) ด้วยเหตุนี้ จึงควรทำให้วัดให้เป็นลานวัด ลานคน ลานธรรม และลานใจ

     การเกิดปรากฎการณ์ "ชมรมคนรักวัด" ในหลายๆ ท้องที่ จึงเป็นสัญญาณ และเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของวัด และประสงค์ที่จะนำวัดให้กลับคืนไปสู่ความหมายของวัดที่แท้จริง ทั้งในแง่ของอารมณ์ (Emotion) และการใช้งานได้จริง (Function) เพื่อให้วัดเป็นแหล่งที่พึ่งทางกายและทางใจของชุมชนอย่างแท้จริง  คำถามที่สำคัญก็คือ "ได้เวลาที่เราจะหันหน้ามาร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจที่จะพัฒนา "วัด" ให้เป็น "วัด" อย่างแท้จริงแล้วหรือยัง???"


http://www.youtube.com/watch?v=L5aPW3cm1-k&feature=player_embedded


http://www.youtube.com/watch?v=d--YGeGWkuI&feature=related


http://www.youtube.com/watch?v=TnbckVhMGoA&feature=related

หมายเลขบันทึก: 452298เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2011 08:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ดีจังเลยครับ รักวัดที่แท้จริงไม่ได้รักวัดที่เปลือกนอก ที่ไม่ใช่แก่นของพุทธศาสนา วันที่ 24 สค มี Addy ปะทะ Woodytalk ครับ ฮ่าๆๆ

อาจารย์ ดร. ขจิต

อนุโมทนาขอบใจที่ไม่ลืมนัดสำคัญของพวกเรา หวังใจว่า ทั้งนักเรียน และนิสิตทุกรูปจะได้ประโยชน์จากการมาของท่านอาจารย์

นมัสการพระคุณเจ้า คนไม่น่าจะเกลียดวัด แต่หาก หาสาเหตุที่แท้ น่าจะเป็น เกลียดคนที่อยู่ในวัดมากกว่า หากคนที่ที่อยู่ในวัด เป็นพระในใจคน วัดจะเป็นที่รักของคน กระมังครับ

fucntion""พิมพ์ผิดหรือป่าวคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท