ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือดีๆ ทุกครั้งที่ออกมาตรวจคนไข้ใน สอ.เครือข่าย นี่ก็เป็นเอกสารที่ดีเล่มหนึ่งที่ผมพบ " การจัดการความรู้และสังเคราะห์แนวทางปฏิบัติ รพ.สต. ประสบการณ์การทำงาน สร้างเสริมสุขภาพคนพิการ"
บทที่๑ การทำความเข้าใจ "ความพิการ" และ "สุขภาพ" ในมุมมองของคนพิการ
น.๒๕-น.๒๗ "คิด...รับรู้...ให้ความหมายกับความพิการในมุมมองของคนพิการเองเป็นด่านแรกที่สำคัญของผู้ให้บริการ"
"ความพิการ" อาจถูกอธิบายให้ความหมาย หรือสร้างคำจำกัดความ ผ่านมุมมองที่แตกต่างหลากหลายได้แก่
แล้วคุณล่ะครับ มองผู้พิการในมุมไหน ?????
ลองสมมติว่าตัวเองเป็นคนพิการ
แบบสงเคราะห์ สงสาร ไม่ชอบนัก แต่ถ้าใครมีความสงสารให้ก็น้อนมรับ
ทางการแพทย์ ขอนักกิจกรรมบำบัดเก่งๆ คุณหมออู้เพราะๆ
ทางสังคม อะไรก็ตามที่เอื้อให้ไม่ต้องมีคนมาเข็น ไปเองได้
ทางบูรณาการ คงอยากให้ใครๆ มองเป็น คนๆ หนึ่งที่ยังมี "ศักยภาพ" เป็นประโยชน์ต่อสังคมคะ
ขอบคุณคะ
ผมมองุทกแบบครับพี่
เนื่องจากคนมี ศักยภาพภายในไม่เท่ากัน...ในเชิงทัศนคติ มองทุกคนมีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิได้รับความยุติธรรมเท่ากันและมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้
แต่ความจริงที่เห็นชัดมากคือทุกคนมิได้เท่าเทียมกัน มีผู้อ่อนแอมีผู้แข็งแกร่ง สังคมที่ดีควรมีความเป็นธรรมมองว่าทุกคนเท่าเทียม ในขณะที่มีน้ำใจคนแข็งแรงดูแลคนอ่อนแอ เพื่อให้เขาเริ่มพึ่งตนเองได้
1.การสงเคราะห์ยังจำเป็นในเบื่องต้น หากแต่มิใช่สิง่เดียว เพราะสุดท้ายหากสงเคราะห์มาก สุดท้ายก็จะเกิดคำว่าภาระ
2.ทางการแพทย์ paradigm ใหม่ มองไปถึงการฟื้นคืนสภาพให้มากที่สุดโดยใช้วิทยาการทางการแพทย์ช่วย...ใครจะรู้ stem cell อาจการเป็น การรักษามาตรฐานในอนาคตที่ สปสช.สนับสนุน ความพิการทางกายอาจหายไปก็ได้
3. ทางสังคม มองการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมต้องมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสม เมื่อชุมชนเข้มแข็งให้โอกาส ผู้อ่อนแอได้มีส่วนร่วมตามสมควร ให้โอกาสคนพิการทำงาน มีการอาสาดูแลกันและกัน
หาสมดุลในการมองและลองทำในสิ่งที่เป้นไปได้
ในมุมแบบบูรณาการ
เพิ่มพูนพลังคนพิการดึงศักยภาพออกมา อยู่ร่วมกันอย่างมีสีสุข