เชื่อว่านักเขียนบล็อก(บางคน)ต้องเคยรู้สึกอย่างนี้บ้างหล่ะ


พอถึงคิวจะเขียนบล็อก ความรู้สึกภายในมันถูกเจือจางแล้วด้วยระยะเวลาทำให้หมดความอยาก

รู้สึกขัดเขินตัวเองชอบกล เวลาที่กลับมาเขียนบล็อก เดือนละครั้ง สองครั้ง มันเหมือนไม่ใช่วิถีของตัวเองเท่าไรนัก และก็ไม่น่าจะเป็นนักเขียนที่ดีด้วย เพราะขาดความต่อเนื่อง(ในรูปแบบของบล็อกมา ลปรร. กัน) คือที่บันทึกไว้เป็นส่วนตัวก็มีอยู่ แต่ไม่ค่อยได้นำมาลงบล็อก เหตุผลสำคัญๆน่าจะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ

1.ความอ่อนแอของตัวเอง คือ ขี้เกียจ ไม่ว่าง ไม่มีเวลา ไม่ได้จดจ่ออยู่หน้าคอมฯตลอดเวลา หมายถึงลงพื้นที่บ่อยพอกลับมาสำนักงานก็มีมากมายหลายเรื่องที่ต้องจัดการก่อน(ลำดับความสำคัญ)  พอถึงคิวจะเขียนบล็อก ก็หมดความรู้สึก หมดความอยาก การจะเขียนสะท้อนออกมาจากความรู้สึกภายในมันถูกเจือจางแล้วด้วยระยะเวลา  อีกอย่างคือหวาดกลัวในการใช้คำพูด การเขียนที่เหมาะสม การจะสะท้อนอะไรออกมา บางครั้งคนอ่าน คนเขียน เข้าใจกันคนละอย่างก็มี ที่กลัวคือกลัวจะไปกระทบกับบุคคล หรือองค์กร ที่พาดพิงพูดถึง ซึ่งควรระมัดระวังอย่างมาก (หรือเราคิดมากไปเองวะ อุ๊บ!!! เห็นม่ะเพิ่งพูดแม่บๆ มีวง มีวะ แล้ว)  

 2.ขาดกำลังใจ คือ เขียนแล้วไม่มีความเห็น ไม่มีเสียงสะท้อน อันนี้เป็นเรื่องปกติก็พอเข้าใจอยู่ว่า กรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติอาจเป็นเพราะเราเขียนไม่ดี ไม่โดน ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในรูปแบบเปิดคำถาม หรืออาจเป็นเพราะการยึดติดอยู่กับตัวบุคคลที่ส่วนใหญ่ ถ้าเป็นบล็อกของบุคคลสาธารณะ เช่น  คุณครู หมอ นักวิชาการ ฯลฯ ก็จะได้รับการแสดงความคิดเห็นมากมายเพราะมีความน่าเชื่อถือ ทั้งกระบวนการแนวความคิด ประเด็นที่สร้างสรรค์ แต่ก็คงไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่เนื้อหา และวิธีการนำเสนอมากกว่า ใช่ไหมครับ

     ***ที่กล่าวมาทั้งหมดถ้าพูดถึงแนวทางของการจัดการความรู้แล้ว คงเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีเลย ในการพัฒนาต่อยอด ความรู้ ความสามารถนึกคิด เพราะเริ่มจากทางลบซะส่วนใหญ่ ทำให้พลังแรงใจลดน้อยถอยลงไม่มีอะไรดีขึ้น แต่อย่างน้อยการนึกคิดแล้วทำให้รู้ว่าตัวเองด้อย หรือมีจุดอ่อนตรงไหน จะทำให้เราไม่ทำซ้ำตรงจุดนั้นอีกต่อไปใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นเราน่าจะชื่นชมตัวเองให้มาก มากกว่าซ้ำเติมตัวเองให้แย่กว่าเดิม พยายามมองสิ่งดีดีภายในและภายนอกรอบด้าน แล้วนำมาปฏิบัติด้วยความรู้สึก รัก ภูมิใจในสิ่งที่ทำ แต่ก็ไม่อยากใช้คำว่า "รัก" เท่าไรนัก เพราะมันทำให้เรามองอะไรไม่เห็น (ความรักทำให้คนตาบอด)

นักเขียนบล็อกที่ดีต้องเป็นอย่างไรครับผม???????????

หมายเลขบันทึก: 45478เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2006 15:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • คอเดียวกันกับสุชานาถ
  • เราจะเป็นกำลังใจให้นะ
  • เขียนต่อไป สู้ ๆ
  • จะแวะเข้ามาอ่านค่ะ

เราน่าจะชื่นชมตัวเองให้มาก มากกว่าซ้ำเติมตัวเองให้แย่กว่าเดิม พยายามมองสิ่งดีดีภายในและภายนอกรอบด้าน แล้วนำมาปฏิบัติด้วยความรู้สึก รัก ภูมิใจในสิ่งที่ทำ  ขอสนับสนุนคำพูดนี้นะคะ

 

แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ค่ะ  "อ่าน คห.ด้วยนะคะ" http://gotoknow.org/blog/km-psu/41922

 

จะแข็งแรง

จะมีกำลังใจครับ

จุดประสงค์ใหญ่ของการเขียน blog น่าจะอยู่ที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ เป็นการเขียนเตือนความจำตัวเอง ที่จะเปิดอ่านจากที่ไหนในโลกก็ได้ ถ้าเข้า internet ได้    สำหรับเนื้อหาที่จะเขียน แน่นอนถ้าเดินเรื่องด้วยความสำเร็จ แม้จะเอ่ยอ้างถึง "ใคร" บ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นความผิดอะไรนะคะ เพราะเรากำลังชมว่า "เขา" ทำได้ ทำดี    

สำหรับมูลนิธิร่วมพัฒนาพิจิตร  มีเรื่องราวดีๆ ของชุมชนเยอะมาก ที่จะนำมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับรู้ต่อไป   เพราะฉะนั้น เขียนต่อไปเถอะค่ะ   copy จากไฟล์ที่มีอยู่แล้วก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น  

พี่อ้อม สคส.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท