ฉันยอมรับว่าไม่รู้จักต้นเพกาเลย เปิดเน็ตดูก็ไม่ปิ๊งเท่าไรนัก
แต่พอศึกษาข้อมูลกลับพบว่ามันมีประโยชน์มหาศาลเลยทีเดียว
ได้ยินแต่กิติศัพท์ว่ามันสุดยอด เป็นหนึ่งในไม้ป่าเบญจพรรณ
ดอกของมันตอนตูมๆไม่สวยเท่าที่คิด
ได้เมล็กพันธุ์จาก น้องดร.ขจิต ฝอยทองมาครั้งแรก
ก็แจกจ่ายไปทั่ว เพียงหวังว่าผู้ได้รับไปจะมีความสุขกับการปลูก
ดูเหมือนความหวังได้หายไปเพราะเมื่อติดตามก็พบว่า
"มีปัญหากับเมล็ดพันธุ์เพกา"
เนื่องจากมันบางเบามาก และดินเค็ม
รดน้ำไปรดน้ำมาเมล็ดพันธุ์หายไปไหนไม่รู้เหลือไว้แต่ดินแฉะๆ
ที่จริงมันชอบดินแฉะนะ แต่ครั้งก่อนเป็นดินแฉะเค็มนั่นเอง
ครั้งหลังสุดเจอน้อง อ.ดร.ขจิต ฝอยทอง ที่งานครูเพื่อศิษย์
น้องอ.ไม่ถามซักคำว่าเพกาชุดก่อนนั้นขึ้นแล้วกี่ต้น
แต่กลับล้วงกระเป๋าหยิบเมล็ดเพกาขึ้นมาให้อีก
เหมือนจะรู้นะว่าเพกาชุดก่อนไม่รอด..
ทำให้สงสัยว่าเธอมีญาณอะไรหรือเปล่า..ฮามาก
กลับมาจากสัมนาเวที"ครูเพื่อศิษย์"
ก็ตั้งใจแก้ปัญหาที่เกิดด้วยการซื้อดินใหม่
แล้วทดลองเพาะใหม่อีกครั้งด้วยตัวเอง
หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ได้ต้นเพกางอกขึ้นมาจำนวน 3 ต้น
และทราบทีหลังว่าน้ำจับเลี้ยงก็มีเพกาเป็นส่วนผสมด้วย
ถ่ายรูปมาฝากค่ะนานหลายวัน
กว่าจะงอกขึ้นมาให้เห็นแปลกตา
ใบเขียวเข้ม เป็นสี่เหลี่ยม
ทำไมมันขึ้นช้ามาก ก็ฝังเมล็ดไว้ลึกเกือบ 8 นิ้วได้
เหตุที่ปลูกในดินลึกเพราะกลัวมันปลิวหายไปอีก
เพาะไว้ 5 เมล็ด แต่งอกให้เห็นชัดๆแล้ว 3 ต้น
อีก 1 ต้นกำลังจะเงยหน้าจากดินแล้ว
ไปถ่ายมาเมื่อสักครู่นี้เองฝนกำลังจะโปรยเม็ดพอดี
เลยไม่แน่ใจว่ายังแอบอยู่ก้นกระป๋องหรือเปล่า
เมื่อเช้าเดินชมตลาด หลังจากไปสนง.เขตฯ
แล้วกลับมาหาหมอคลีนิค
ก็ได้พบฝักเพกายาวเหมือนดาบ 2 คม วางขายฝักละ 10 บาท
คนขายเป็นผู้สูงวัยคุณยายบอกว่าให้เอาฝักไปเผาไฟก่อนให้นิ่ม
แล้วมาหั่นบางๆเอาไปแกงคั่วอร่อยอย่าบอกใครเชียว
หรือไม่ก็เอาไปจิ้มน้ำพริกก็สุดยอดของความอร่อย
ฉันถามว่าต้มได้ไหม คุณยายบอกว่า"มันจะขมนะซิ เพราะมันเป็นยา
กินดี ฉันก็ไม่รู้ว่าดียังไงก็กินมาตั้งแต่พ่อแม่ของฉันแล้ว
เขาสอนต่อๆกันมา เขาเรียกลิ้นมังกรนะ เอ...แต่เคยได้ยินว่า"หมากลิ้นฟ้า"
"ฝักลิ้นงู" และอีกหลายๆชื่อ
ตามแต่คนในแต่ละภาคแต่ละพื้นบ้านจะเรียกขานกัน
หรือของคุณยายมันฝักใหญ่มากคุณยายเลยเรียกลิ้นมังกร
คุณยายจำผิดหรือเปล่าหนอ ต้นมันสูงปี๊ดเท่าเสาไฟฟ้าเลย"
ว่าแล้วคนพูดก็ชี้มือสูงขึ้นไปก่อนจะนั่งลงหยิบฝักเพกาส่งให้
ฉันส่ายหน้าเพราะยังไม่มีโอกาสกินมัน
เอาไว้วันหยุดจะกลับมาซื้อไปทดลองทำอาหาร
เพื่อสุขภาพตัวเองและครอบครัว
แล้วไปเก็บภาพกล้วยไม้หน้าบ้านมาฝากค่ะ ปลูกมานานหลายฝนแล้ว
แต่จำชื่อไม่ได้ค่ะ ต้นนี้ออกดอกปีละครั้ง แต่ดอกทนมากๆ
อยู่นานเป็นเดือนเลย กลีบดอกอวบก้านโตอวบเช่นกัน อิอิไม่เคยใส่ปุ๋ยเลย
ตั้งใจจะไปขยายพันธุ์ที่ไร่ให้อยู่กับต้นสะเดาใหญ่
ส่วนสีเหลืองนี้เป็นกล้วยไม้ป่าค่ะ แต่แอบเข้าเมืองมาได้ 3 ปีแล้ว เอามาจากชายแดนแถวๆด่านสิงขร เล็กแต่แข็งแรงดี ออกดอกฤดูฝนเช่นกัน
ปิดเทอมนี้จะพาไปอยู่ที่สวนป่า บ้านไร่ที่ จอมบึงจ.ราชบุรี
เพราะกลิ่นหอมไกล จะได้ล่อให้ผึ้งมาอยู่เยอะๆ
ระยะนี้ฝนครึ้มฟ้าหม่นบ่อยๆระวังรักษาสุขภาพนะคะ
ภาพวิวหน้าไร่ค่ะ เห็นรุ้งรำไรๆ ที่นี่เขาชอบปลูกอ้อยกับข้าวโพด
แล้วก็มันสำปะหลังมากที่สุด แต่ไร่ของฉันเป็นไร่สวนผสม
กำลังจะเป็นอาศรมค่ะ
อ่านเรื่องราวเพกาเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ
http://www.gotoknow.org/blog/yahoo/435447
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ..สรรพคุณน่าสนใจ..ท่านเจ้าพ่อเมล็ดพันธุ์ใจดี แจกไปทั่ว..ผู้รับมาทดลองเพาะปลูกคอยลุ้นๆกันทุกระยะ..มาเล่าความคืบหน้าอีกนะคะ..
แวะมาชมกล้วยไม้สวยๆค่ะ
ที่บ้านเพกา เรียกลิ้นฟ้า ฝักเอามาเผาทานกับลาบ น้ำพริก อร่อยค่ะ
"Honey Brown" n ตัวเดียวนะคะ ต้องขออภัยที่คลิกบันทึกเร็วไปหน่อย
*** ได้เรียนรู้กิจกรรมที่ก่อให้เกิดสุข
*** ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนค่ะ
ท่าน ผศ. วิไล แพงศรี
กรุณาบอกชื่อแล้วค่ะ
ชื่อดอกกล้วยไม้สีแดงคือ "Honey Brown"
ขอบคุณทั้งสองท่านค่ะ