Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

ความกังวลใจของนักเรียนไทยใหญ่ที่ถือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน


เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๑๖.๐๖ น. มีบุคคลที่ใช้ IP:180.183.36.174 เข้ามาตั้งคำถามใน
http://www.gotoknow.org/blog/law-for-humanity/360755  โดยมีใจความว่า

“สวัสดีค่ะ หนูเป็นเด็กชาวไทยใหญ่คนหนึ่งตอนนี้เรียนจะจบ ม.6 แล้ว ถือบัตรบุคคลไม่มีสุนะทางทะเบียนอยู่ค่ะ ซึ่งบัตรนี้เขาเพิ่งทำให้ไม่กี่ปีนี้เอง หนูเคยถือบัตร ท.ร. 13 พ.ศ.2538 แต่เขาได้ทำการจำหน่ายเปลี่ยนมาเป็นบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนนี้แหละค่ะ หนูได้ไปถามที่อำเภอ นายอำเภอบอกว่า ปลัดที่ออกบัตร ท.ร.13 รุ่นหนูให้ทุจริต เขาก็เลยทำการจำหน่ายบัตร หนูก็เลยถามนายอำเภอไปว่า แล้วพวกหนูทำความผิดอะไร ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำไมต้องจำหน่ายบัตรด้วย เขาก็ตอบคำตอบเดิมปลัดโกง ปลัดทุจริต แล้วส่งผลให้พวกหนูต้องมารับโทษด้วย ทางหนูได้เคยวอนขอไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว เรื่องที่ขอให้กลับมาใช้บัตรได้เหมือนเดิม แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมาเลย บัตรเก่าใช้ไม่ได้ บัตรใหม่ก็ยังไม่สามารถทำอะไร

หนูเคยไปยื่นทำใบขับขี่ทางขนส่งบอกว่าบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนยังไม่มีสิทธิ์ทำ เพราะมายังไม่ถึง 10 ปี หนูก็เอาหลักฐานบัตรเก่ายืนยัน และบอกว่าตอนนี้หนูเรียนม.6แล้ว เขาบอกว่าบัตรโดนจำหน่ายใช้ไม่ได้ ทำไมไม่ทันทำบัตรอย่างอื่นหรือ ไปอยู่ไหนมา หนูตอบไปว่า ตอนเขาทำบัตรอื่นๆนะ บัตรที่ถูกจำหน่ายยังใช้ได้อยู่ และก็ทำก่อนบัตรหลายประเภท สุดท้ายไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลย ตอนนี้หนูก็จะจบ ม.6 อยู่แล้ว หนูยังใช้หลักฐานบัตรที่ถูกจำหน่ายนั้นอยู่ เพราะบัตรใหม่ยังไม่มีทะเบียนบ้าน แถมยังมีคำนำหน้าเป็นนางอีก ไม่รู้ว่าจะสามารถเรียนต่อได้อีกไหม กู้ยืมเงินเรียนก็ไม่ได้ สัญชาติไทยก็ยังไม่มี หนูคิดหนักกับอนาคตหนูจริงๆ”

แต่ อ.แหววก็ไม่ได้ตอบคำถามของท่านที่มาบ่นทิ้งไว้ อาจจะด้วยไม่มีเวลาที่ตอบในช่วงเวลานั้น แต่ในวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๕๗ น. ก็มีบุคคลมาบ่นต่อ โดยใช้ชื่อว่า “คนที่อยากได้สัญชาติ” และใช้  IP: 118.173.111.179 ใน Webpage เดียวกัน คำบ่นมีใจความว่า

 “หนูอยากทราบว่าเขาทํากันหลายรุ่นแล้ว ทําไมหนูยังไม่ได้ทีละค่ะ ขอให้ทางรัฐช่วยหนูหน่อยค่ะครอบครัวหนูอยากได้สัญชาติค่ะ”

อ่านแล้วก็ขำว่า เราไม่ใช่รัฐสักหน่อยมาบอกเราทำไมกัน แต่ก็เขียนตอบไปในวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ เวลา ๒๒.๓๗ น. ว่า

“ตอบคุณที่มาตั้งคำถาม

  1. เมื่อคุณกำลังเรียนหนังสือ ก็ตั้งใจเรียนต่อไป สิทธิทางการศึกษาเป็นสิทธิมนุษยชน ไม่ขึ้นอยู่กับการมีสัญชาติไทยหรือไม่ ? มีรัฐหรือไม่ ? ในระหว่างการแก้ปัญหาความไร้รัฐไร้สัญชาติ ก็เรียนไปเรื่อยๆๆ
  2. คุณไม่ต้องสนใจว่า จะเป็นบัตรอะไร ? ขอให้เป็นบัตรที่ออกโดยรัฐก็ดีแล้ว
    เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาความไร้รัฐไว้ก่อน
  3. การซื้อเอกสารไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเอกสารที่บุพการีได้มามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็เปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง และระวังตัวมิให้ไปข้องเกี่ยวกับความผิดกฎหมายอีก
  4. การจะวิเคราะห์สิทธิในสัญชาติไทยของคุณนั้น จะทำได้ ก็ต่อเมื่อมีข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ (๑) คุณเกิดที่ไหน ? เมื่อไหร่ ? (๒) บิดาและมารดาของคุณเกิดที่ไหน ? เมื่อไหร่ ?
  5. ครอบครัวของคุณเป็นคนชาติพันธุ์อะไร ?
  6. หากบุพการีของคุณมาจากต่างประเทศ มาจากประเทศไหน ? เพราะอะไรจึงเข้ามา ?”

        และก็ได้ตั้งคำถามอีกว่า

“คุณที่มาตั้งคำถามมีชื่อว่าอะไรคะ”

         และเมื่ออ่านคำบ่นทั้งสองอันก็พบว่า การบ่นใน พ.ศ.๒๕๕๓ คนบ่นบอกแล้วว่า เป็นคนชาติพันธุ์ไทยใหญ่ ซึ่งก็เป็นชาติพันธุ์ที่รัฐบาลพม่าในอดีตไม่ชอบหรือไม่สนใจมากนั้น พวกเขาจึงอพยพเข้ามาในประเทศไทย และส่วนใหญ่ก็เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ขออนุญาตตามกฎหมายคนเข้าเมือง รัฐบาลไทยในยุคปัจจุบันก็ยอมรับว่า พวกเขานั้นย่อมจะประสบปัญหาความไร้รัฐหรือเสมือนไร้รัฐ อันทำให้มีปัญหาความไร้สัญชาติอีกด้วย

          ในท้ายที่สุด อ.แหววจึงตั้งคำถามอีกว่า

“ทราบแล้วล่ะว่า คุณที่มาถามเป็นคนชาติพันธุ์ไทยใหญ่ แต่ว่า ครอบครัวของคุณมาจากส่วนไหนของพม่าคะ ?”

           มารอดูคำตอบต่อไป.......

หมายเลขบันทึก: 460130เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2011 23:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท