ตำนานใส่บาตรวันเป็งปุ๊ด(เพ็ญวันพุธ)ของผู้คนล้านนาที่มีความเชื่อและนับถือพระอุปคุตมหาเถระเจ้านั้นมีมาช้านาน จนเป็นตำนานเล่าขานให้ลูกหลานเหลนหลี้หลีบรับมรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามนี้ และเป็นวิถีงดงามที่ถือปฏิบัติสืบต่อๆกันมา หากสนใจลองเข้าอ่านเรื่องพระอุปคุตก็จะพบกับความมหัศจรรย์ของพระมหาเถระทรงฤทธิ์รูปนี้....
เอาละมาปีนี้ วันที่สิบสองเดือนตุลาคมปี พุทธศักราช ๒๕๕๔ ตรงกับจุลศักราช ๑๓๗๓ ปีร้วงเหม้า(กระต่าย)เป็นวันออกพรรษา ประกอบกับเป็นวันเป็ง(เพ็ญ)วันปุ๊ด(พุธ)ซึ่งเป็นวันที่นิยมใส่บาตรพระอุปคุต ในเวลาราวตีหนึ่งของวันเป็งปุ๊ดนั่นเอง...
พิธีการใส่บาตรเป็งปุ๊ดจะเริ่มตั้งแต่ราวเวลาสองทุ่มของคืนวันอังคารที่ สิบเอ็ดเดือนสิบสองเหนือ ศรัทธาสาธุชนต่างร่วมกันเตรียมดาเครื่องของสักการะสิ่งที่เป็นอาหารมังสะวิรัสเช่น ผลไม้ กล้วยอ้อย ข้าวสารอาหารแห้ง ที่จะตักบาตรพระอุปคุตมาร่วมกันที่สถานที่นัดหมายจนถึงเวลาล่วงเลยผ่านยี่สิบสี่นาฬิกาเข้าสู่เวลาเริ่มตีหนึ่งวันพุธที่สิบสองตุลาคม จึงทำการตักบาตรพระอุปคุต..
ปีร้วงเหม้านี้ เกิดเหตุการณ์พิเศษ คือวันพุธที่สิบสองนั้นเป็นวันออกพรรษาพอดิบพอดี จึงเกิดการทำบุญร่วมกันสองอย่างสืบต่อกัน...กล่าวคือเวลาตีหนึ่งทำพิธีตักบาตรพระอุปคุต พอเวลาตีห้ากว่าๆก็ตักบาตรพระอันออกพรรษา....
ความเชื่อเรื่องการใส่บาตรพระอุปคุตมีตำนานกล่าวกันมาว่า"เมื่อราว พ.ศ. 218 พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างพระมหาเจดีย์ถึง ๘๔๐๐๐ วัด แล้วอัญเชิญหรือนิมนต์พระมหาอุปคุตเถระจากสะดือทะเลขึ้นมาคุ้มครองพิธีการฉลองงานจนครบ ๗ ปี ๗เดือน ๗ วัน โดยไม่มีเหตุร้ายในงาน...ด้วยเหตุนี้ผู้คนต่อๆมาจึงทำพิธีอัญเชิญพระอุปคุตมาคุ้มครองงานจนปัจจุบันโดยการทำพิธีเก็บก้อนหินแทนองค์พระอุปคุตจากแม่น้ำ ลำห้วยต่างๆ.. มีครั้งหนึ่งยาจกยากจน ได้เดินไปตามถนนเวลาค่อนคืนในวันเป็งปุ๊ด(เพ็ญพุธ)ได้ใส่บาตรเณรเล็กๆองค์หนึ่งที่กำลังเดินบิณฑบาตร..ต่อมายาจกผู้นั้นมีโชคลาภเป็นมหาเศรษฐี..ผู้คนจึงเล่ากันมาว่า เณรเล็กผู้นั้นคือพระมหาอุปคุตเถระได้จำแลงกายจากสะดือทะเลขึ้นมาโปรดสัตว์เวลากลางคืนนั้นเอง..ผู้คนจึงนิยมใส่บาตรพระอุปคุตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..."
ชาวล้านนาได้สืบต่อความเชื่อนี้มาช้านานจนเป็นเอกลักษณ์ของวิถีของชาวล้านนาแม้ผู้คนในถิ่นอื่นอาจมีความคิดเห็นแตกต่างไปบ้างแต่พวกเราชาวล้านนาก็มิหวั่นต่อคำพูดที่ติติงในความเชื่อของพวกเรา...นั้นคือการใส่บาตรวันเป็งปุ๊ด...
ไม่มีความเห็น