ศูนย์การเรียนรู้ชาวบก


ศูนย์การเรียนรู้ “ภูมิปัญญาชาวบก” เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยเน้นการใช้ทุนทางธรรมชาติการเกษตรในวิถีชีวิตของชุมชนที่เกี่ยวเนื่องกับ โหนด-นา-เล ของคนบนคาบสมุทรสทิงพระ ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรบุคคล ที่เป็นภูมิปัญญาของชุมชน “ชาวบก” ที่สั่งสม และสืบทอดกันมานานหลายชั่วคน โดยการรวมกลุ่มกันเพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมกันแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของท้องถิ่น ให้เป็น เครื่องอุปโภคบริโภค โดยยึดหลัก ภูมิปัญญาไทย “เศรษฐกิจแบบพอเพียง”

ศูนย์การเรียนรู้ “ภูมิปัญญาชาวบก”

 

 

 

 

 

   อำเภอสทิงพระ มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒๐ ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองเป็น ๑๑ ตำบล ๗๙ หมู่บ้าน โดยพื้นที่ประมาณ ๓ ใน ๔ ( ประมาณ ๓๓,๕๕๐ ไร่ ) เป็นพื้นที่ทำนา,ไร่นาสวนผสม และทำตาลโตนด เนื่องจากมีต้นตาลโตนดหนาแน่นมากทางฝั่งตะวันตกของถนนสายหัวเขาแดง – ระโนด ประมาณ ๑ ล้านกว่าต้น ซึ่งนับว่ามีจำนวนต้นตาลโตนดมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยและโดยเฉพาะอำเภอสทิงพระมีการใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของ “ต้นตาลโตนด” ทั้ง ราก ใบ กาบ ทาง งวง ผล จาว และลำต้น ควบคู่กับการทำนา ปัจจุบันมีการทำนากุ้งบ้างเล็กน้อย แถบริมฝั่งทะเลสาบสงขลา และฟาร์มเพาะพันธุ์แถบริมทะเลอ่าวไทย อาชีพส่วนใหญ่ของประชากรอำเภอสทิงพระ ยังคงอยู่กับการทำนา ทำการแปรรูปตาลโตนด ทำประมง เลี้ยงสัตว์ และทำไร่นาสวนผสม

   การพัฒนาประเทศไทยในระยะศตวรรษที่ผ่านมา เป็นการพัฒนาแบบทุนนิยมที่ถ่ายโอนทรัพยากรออกจากชุมชน จากหมู่บ้าน เพื่อเลี้ยงดูเมืองและเพื่อส่งออกต่างประเทศ เป็นการพัฒนาโดยทุนนิยมแบบที่มุ่งเพิ่มประสิทธิผลในกิจการอุตสาหกรรม  ผลของการพัฒนาจึงตกเป็นของคนเพียงกลุ่มเดียว ชุมชนเมืองกับชนบทจึงเกิดความแตกต่างกันมาก เกิดความเจริญเป็นแบบกระจุก ในขณะที่ทรัพยากรของชุมชนในชนบทถูกทำลายไปเรื่อยๆ การพัฒนาตามแนวทางทุนนิยมแบบที่ผ่านมา เป็นการพัฒนาแต่เพียงส่วนเดียว คือส่วนหัว ละทิ้งส่วนล่าง คือชุมชนในชนบท ซึ่งอันประกอบด้วยประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

      ในการพัฒนาแผนใหม่ควรสนับสนุนให้มีความเข้มแข็ง สามารถเชื่อมโยง และช่วยเหลือกันเองในระดับท้องถิ่น รวมกลุ่มกันทำอาชีพและขยายเป็นเครือข่ายในระดับชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้เรื่องอาชีพ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชองชุมชน โดยเฉพาะอาชีพสาขาการเกษตรและสาขาที่เกี่ยวเนื่อง อำเภอสทิงพระมีทุนจากธรรมชาติในพื้นที่นาและทะเลอันสมบูรณ์ ประชากรส่วนใหญ่จึงพึ่งพาทุนจากธรรมชาติในท้องถิ่น และภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาในการประกอบอาชีพ เลี้ยงสัตว์ ทำนา หาปลา และแปรรูปผลผลิตจากตาลโตนด

ศูนย์การเรียนรู้ “ภูมิปัญญาชาวบก” เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยเน้นการใช้ทุนทางธรรมชาติการเกษตรในวิถีชีวิตของชุมชนที่เกี่ยวเนื่องกับ โหนด-นา-เล ของคนบนคาบสมุทรสทิงพระ ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรบุคคล ที่เป็นภูมิปัญญาของชุมชน “ชาวบก” ที่สั่งสม และสืบทอดกันมานานหลายชั่วคน  โดยการรวมกลุ่มกันเพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมกันแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของท้องถิ่น ให้เป็น เครื่องอุปโภคบริโภค โดยยึดหลัก ภูมิปัญญาไทย “เศรษฐกิจแบบพอเพียง”

ที่ทำการ ศูนย์การเรียนรู้ “ภูมิปัญญาชาวบก”

ตั้งอยู่ที่ ๗/๔ หมู่ที่ ๗ ตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิงพระ  จังหวัดสงขลา  ๙๐๑๙๐ 

หมายเลขโทรศัพท์  ๐๗๔-๓๙๗-๑๔๙  และ ๐๘-๗๙๓๑-๒๓๒๕

โดยวัตถุประสงค์ของกลุ่มฯ ที่ว่า

  •  เน้นการพึ่งพิงพึ่งพาในชุมชนร่วมลงทุน  ร่วมเป็นเจ้าของ และร่วมดำเนินการ
  • ใช้ภูมิปัญญาของชุมชนเป็นหลัก
  •  ผลิตโดยใช้ทุนของชุมชน และทรัพยากรของชุมชนเป็นฐาน
  •  สามารถบูรณาการใช้กับชีวิตจริง
  •  หยิบยกภูมิปัญญา พัฒนาด้วยหลักวิชาการ
  •  มีกระบวนการเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญ
  •  ก้าวสู่การสร้างสรรค์ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมชุมชน
หมายเลขบันทึก: 462488เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2011 23:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 11:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณครับครู ผ่านไปจะแวะเยี่ยมครับ

คำถามที่ได้ยินบ่อยคือศูนย์นี้ได้รับก่ารสนับสนุบงบประมาณจากใหน ทำไมต้องรอให้ใครมาสนับสนุน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นี่คือความพอเพียง

ศูนย์การเรียนรู้นี้เกิดขึ้นจากความอยาก และความตั้งใจที่จะทำ โดยเอาทุนประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากชาวบ้านชาวชุมชน และจากตำรา และการหยบทำหยบทดลองเอาเองมั่งจากความรู้ที่สั่วสม และทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยช่วยเหลือตัวเองเป็นเบื้องตน ใช้ทุนส่วนตัวที่สั่งสมเอาไว้ มาทำให้กับชุมชน และสังคม โดยไม่ต้องคร่าวใคร เมื่อมีพอที่ช่วยเหลือเจือจานชาวบ้าน,ชาวชุมชน และสังคม ก็จะค่อยๆทำไปเรื่อยๆตามกำลัง และก็มีเหมือนกันที่เพื่อนฝูง,เครือข่าย,ญาติผู้ใหญ่ ที่ทราบข่าวราวเรื่อง.. ให้กำลังใจ..บางท่านก็ให้กำลังทุน,,ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงมา ณ. โอกาสนี้ด้วย

อยากเอาไป เผยแพร่. ได้ไหมคะ.  ดีมากเลยคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท