สถานะของFacebook


ผู้ที่ใช้ facebook คงจะคุ้นเคยกับสถานะ ที่อ่านแล้วหลากหลายบางก็ใช้แจ้งข่าวสาร บางก็ใช้สื่ออารมณ์ บางก็ใช้นำเสนอคำคมข้อคิด ก่อให้เกิดความหลากหลาย

"  การแจ้งสถานะของตนเองใน facebook สนุกตรงไหน (เหรอ) ถามเพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบฝังกายในโลกเทคโนโลยี"
"ผมนิ่งเงียบ...ในขณะที่ในใจก็กำลังค้นความรู้สึกที่แท้จริงว่า กิจกรรมที่ว่านั้นสนุกจริงไหม  แต่แล้วผมก็ไม่ได้รับคำตอบใด จากหัวใจ  รู้แต่เพียงว่าสำหรับบางคนการได้ เอ่ยลำพังแต่ดังไกล ก็สามารถเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างได้ พวกเขาจึงอยากเอ่ยมันเงียบ" แต่บางทีผมก็อยากเรียกการเอ่ยเงียบๆ แบบนี้ว่า "กระซิบสาธารณะ"  

                                                         จากหนังสือ อุ่นๆในหัวใจ
                                                                           โดย นะโม
                             สำนักพิมพ์ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์,๒๕๕๔.หน้าที่ ๑๗
ในมุมมองของตนเองมีความเห็นสอดคล้องกับเรื่อง "เอ่ยลำพังแต่ดังไกล"  แต่มีบางเรื่องราวที่ไม่อยากจะให้ดังไกล เลยไม่ได้กระซิบสาธารณะได้แต่ใคร่ครวญแล้วบอกว่า เราต้องไม่ทำในสิ่งที่เราเพิ่งจะตัดสินไปว่าไม่ดี  ประเด็นที่เคยคิดว่าอยากกระซิบสาธารณะแล้วณ เวลานั่นไม่ทำ แต่วันนี้มาคลี่ความคิดให้ดูนะค่ะ
-  การเข้าแถวรอเข้าห้องน้ำสาธารณะของสุภาพสตรีคือยืนรอหน้าน้ำ หรือ ยืนต่อแถวเพื่อเข้าห้องที่ว่างตามลำดับการเข้าแถวรอ ซึ่งครูนกมองว่าอย่างหลังยุติธรรม  แต่มีบางคนคิดต่างคือฉันจะไปรอหน้าไม่สนใจคนที่อยู่ในลักษะแบบที่สอง
-  เด็กวัยรุ่นสองคน(น่าจะเป็นแฟนกัน) แสดงออกความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของระหว่างรอกระเป๋าในบริเวณสายพานลำเลียงกระเป๋าในสนามบินที่สำคัญเด็กผู้ชายหันมาลูกศิษย์เรา แต่เขาทำเป็นไม่รู้จักเรา อารมณ์ ณ ตอนนั่นหลากหลายค่ะ ที่คิดดังและคิดแรง "เราสอนเฉพาะสาระความรู้ให้เขาเท่านั้นเหรอ เราลืมใส่ความเป็นมนุษย์ให้เขา"  แต่เขาก็จบมัธยมศึกษาตอนปลายไปแล้วสองสามปีดังนั้นเขาอาจคิดว่า เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้ ส่วนเรื่องพฤติกรรมที่แสดงออกก็ต้องรับผิดชอบให้ได้อย่างที่ผู้ใหญ่พึงมี
-  การทิ้งขยะในถังหน้าบ้านที่ครูนกอาศัยอยู่บ้านเรามีถังขยะสองจุดคือบ้านที่พักอาศัยกับหน้าสวน ซึ่งต้องจ่ายค่าขยะทั้งสองถัง แต่พบว่าบางบ้านไม่ได้จ่ายค่าถังขยะ จึงทำให้นำขยะตนเองมาใส่ในถังผู้อื่น  จิตสำนึกของพลเมืองดีหายไปไหน  จนครูนกอยากใช้สถานะไปตักเตือนเรื่องนี้ แต่ก็คิดว่า บ่นไปให้ใครฟัง คนทำคงไม่ได้อ่านคนอ่านไม่ได้ฟัง
สรุปมีหลายเรื่องราวที่ครูนกเองอยากกระซิบสาธารณะ ด้วยความเป็นครูเห็นอะไรไม่ถูกไม่งามไม่ควร ก็อยากเตือน แต่ก็เตือนตัวเองได้ว่า อย่ามัวแต่สอนเขาทำตัวเราให้เป็นแบบอย่าง(ก่อน)

คำสำคัญ (Tags): #สถานะ
หมายเลขบันทึก: 464946เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2011 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2013 21:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

พี่นกครับ เรื่องลูกศิษย์บางครั้งเราต้องปล่อยวางครับ ขอให้พี่นกมีความสุขกับการทำงานครับ...

ทุกประสบการณ์ของคุณครูนก ... ผมเคยได้สัมผัสมาทั้งหมดแล้วครับ

สิ่งที่เราต้องทำ คือ ความไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

เราถือว่า คนอื่นไม่ทำ เราทำ ... ปล่อย วาง ละ ทิ้ง นะครับ

เราเอาใจเราสงบเย็น เป็นพอ ;)...

  • แก้ที่ตัวเอง และทำทันที..
  • ขอบคุณข้อคิดดีๆครับ

สวัสดีค่ะ น้องอาจารย์ขจิต

  • งานของครูเป็นงานที่ทำกับคนดังนั้นความหลากหลายย่อมมี พี่นกเข้าใจระดับหนึ่ง
  • พยายามนะ พยายามมอง พยายามปรับตัวให้มีทิศทางที่สุขเขาสุขเรา
  • ขอบคุณค่ะสำหรับการมาช่วยชี้ชวนมองมุมที่สุขใจ

สวัสดีค่ะ อาจารย์Wasawat Deemarn

ขอบพระคุณค่ะที่มาช่วยกางอักษรให้ร่มเย็น

สวัสดีค่ะ อาจารย์ธนิตย์

- สบายดีนะค่ะ หวังว่าจะปลอดภัยจากน้ำท่วม

- ครูนกชอบคำว่า "ทำทันที" ทำให้ความคิดมีคุณค่าทันทีเลยค่ะ

  • เราต้องไม่ทำในสิ่งที่เราเพิ่งจะตัดสินไปว่าไม่ดี
  • ชอบประโยคนี้มากค่ะ แต่บางคนก็แสร้งเฉยชา ต่อสิ่งนี้นะคะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์กาญจนา

- ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาย้ำให้เราต้องเตือนตน

- การแสร้งเฉยชาต่อบางเหตุการณ์ของผู้ใหญ่ ทำให้พฤติกรรมหลายอย่างกลายเป็นโรคติดต่อ นะค่ะ ส่วนในบางเรื่องราวที่ไม่หนักหนาก็คงต้องปล่อยวาง

'' เอ่ยลำพังแต่ดังไกล '' ถูกใจค่ะ

พูดให้ทันเทคโนโลยี ก็ต้องคำนี้ '' Like " เลยค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท