เมื่อตอนออกพรรษา ผมนั่งรถไปกับพี่ที่ไปร่วมจัดงานโครงการปฏิบัติธรรม เทียนสว่าง ณ กลางใจ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ( ๑๐๔. ศิลปะชุมชนและวิถีแห่งสุขศานติจากภายใน ด้วยการจัดวางกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างบูรณาการ ) ขับรถไปกันเองโดยออกจากศาลายาด้านบางเลน เข้าบางปลาม้า สุพรรณบุรี ระหว่างทางเกือบถึงทางแยกเชื่อมต่อถนนใหญ่จากบางบัวทองไปสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่ทำนาทำสวน น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน และท่วมถนนเป็นระยะๆ
ตรงถนนที่น้ำท่วมแห่งหนึ่ง มีน้ำไหลเอ่อล้นและพุ่งแรง ระดับน้ำท่วมไม่สูงนัก รถพอวิ่งได้โดยขับช้าๆ แต่ก็มีรถกระบะคันหนึ่งกำลังเอียงตกขอบถนน หากขยับอีกนิดเดียว ก็คงยิ่งไถลและถูกแรงน้ำกระแทกให้ตกลงไปจมน้ำได้ง่ายๆ ด้านหลังมีข้าวของบรรทุกอยู่ไม่มากนัก ลักษณะเหมือนไปซื้อของมาเพื่อนำไปขาย คนขับและผู้โดยสารเป็นเด็กหนุ่มสองคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
ลักษณะที่น้ำท่วมไหลบ่าบนถนนนั้น เมื่อมีรถสวนกัน ก็จะทำให้คนขับรถลุยน้ำมัวพะวงแต่เพียงคอยหลบรถที่สวนและกะระยะขอบถนนด้วยสายตาที่มองจากแนวข้างทางที่พอจะเห็นได้ เช่น ต้นไม้ หลักกิโลเมตร แต่จะไม่สามารถทราบได้เลยในกรณีที่มีหลุมและการพังทะลายของขอบถนน หรือการมีคลองและเกาะกลางถนนอยู่ใต้น้ำ
ในวันรุ่งขึ้นที่เรากลับจากสุพรรณบุรีและวิ่งเข้ากรุงเทพฯ พอถึงถนนด้านหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และเลี้ยวออกเข้าสู่ทางคู่ขนานถนนบรมราชชนนีเพื่อมุ่งไปทางพุทธมณฑลสาย ๒ และกรุงเทพฯ ก็เกิดรถติดอย่างหนัก พอเคลื่อนไปถึงตำแหน่งที่ติดก็พบว่า มีบริเวณหนึ่งที่เป็นเกาะกลางถนนและมีแอ่งน้ำเหมือนคลองอยู่ระหว่างทางคู่ขนานกับถนนบรมราชชนนี ทำให้มีรถบางส่วนขับไปกระแทกเกาะกลางถนนใต้น้ำ และบางคันตกลงไปในคลอง
จากสภาพที่เกิดขึ้น หากไม่มีการจัดการช่วย รถก็น่าจะจอดแช่น้ำกันแน่นอยู่บนถนนเป็นแน่ แต่ที่ยังพอไปได้แม้จะอย่างเชื่องช้ามากนั้น ก็พบว่ามีเด็กๆและอาสาสมัครกลุ่มหนึ่ง ได้ช่วยกันเดินลุยออกไปยืนเรียงกันเป็นแนว และใช้ไฟฉายยืนโบก คอยบอกตำแหน่งอยู่กลางน้ำว่าตรงไหนให้หลบ ตรงไหนให้เลี้ยวได้ ทำให้รถที่กำลับขับฝ่าน้ำท่วมพอสัญจรต่อไปได้ เห็นแล้วน่าชื่นชม
สภาพดังที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างนี้ เชื่อว่าจะมีอยู่อีกหลายแห่ง ซึ่งก็คงจะมีวิธีแก้ไขไปตามแต่จะคิดและทำกันได้ จากประสบการณ์ที่ได้ประสบ และเคยแก้ปัญหาการกำกับการเดินเป็นแนวของการจัดการประชุมที่มีคนแออัดมากๆ ก็เห็นวิธีที่อาจจะสามารถนำไปทำเครื่องหมายช่วยเหลือคนขับรถลุยน้ำท่วม ช่วยตำรวจจรารจรและช่วยกันอีกแรงหนึ่งให้กับอาสามัคร
ในแหล่งที่มีน้ำท่วม ถนนขาด เป็นหลุ่มเป็นบ่อ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อรถ อีกทั้งทำให้รถเสียและยิ่งติดขัดมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำเครื่องหมายช่วยง่ายๆด้วยการปักป้ายและผูกเชือกฟางให้เป็นแนว ทำให้ผู้ขับรถที่ยังคงจำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าวนั้นอยู่ สามารถใช้เครื่องหมายที่ทำขึ้นอย่างเป็นการฉุกเฉินให้เป็นที่สังเกตได้
ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยและทำง่ายๆ แต่หากเป็นผู้ได้ขับรถลุยน้ำท่วมแล้ว ก็จะทราบว่าเป็นเครื่องหมายจราจรที่มีคุณูปการให้กันมากอย่างยิ่ง.
อ้าวผมไปกดลบ dialogue ที่อาจารย์ ดร.ขจิตเข้ามาคุยไปเสียแล้วหรือเปล่านะครับอาจารย์
ข้อสังเกต ไทยเรายังให้ความสำคัญกับ safety น้อยไปหน่อยนะครับ ผมว่า
แนวคิดดีดี ...คำนึงถึงความปลอดภัย...ใครหลายคนที่ลืมนึกถึง...
มานำเรียนท่านอาจารย์ ร่วมคิดชวนคุย ในประเด็นน้ำเสียและมูลฝอย หลังน้ำท่วม ที่ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/465779 อุ้มบุญชอบแนวคิดท่านที่เรียบง่ายแต่งดงาม ได้ประโยชน์ ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ เผื่อท่านมีข้อคิดดีดีเสนอแนะค่ะ
ขอชื่นชมอาจารย์ใน การเห็นปัญหาแล้วคิดทางแก้ปัญหา เสนอทางแก้ปัญหาเช่นนี้คะ
ตัวธงนี้ น่าจะมีฐาน แทนที่จะปักกับพื้น เพื่อให้โยกย้ายง่าย เพราะระดับน้ำอาจเปลี่ยนเร็ว
ตัวเสาน่าจะมีทางให้น้ำผ่าน เพื่อลดแรงต้านน้ำ
ขออนุญาตคิดต่อ ว่า เคยเห็น ที่กั้นถนน เป็นพลาสติกกลวง เวลานำไปวางที่ต้องการตั้งก็ใส่น้ำเข้าไปให้มีน้ำหนัก
หากวัสดุเสาเป็นไม้ไผ่ การลองเจาะรูให้น้ำผ่าน เข้าไปขังภายใน เป็นทั้งการเพิ่มน้ำหนักและลดแรงต้าน
ลองคิดเล่นๆ คะ แต่ขอสนับสนุนที่อาจารย์จุดประกายนี้
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ ที่ได้มาเยือนและให้ความเมตตาฝาก icon ของท่านให้ได้คารวะ เป็นการเสริมพลังใจอย่างยิ่งครับอาจารย์ พร้อมทั้งขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ขจิต อาจารย์ณัฐพัชร์ อาจารย์โสภณ และคุณอุ้มบุญ มากอย่างยิ่งครับ
Prof. Vicharn Panich ขจิต ฝอยทอง ณัฐพัชร์ โสภณ เปียสนิท ✿อุ้ม
ตอนนี้ผมขึ้นไปอยู่ที่เชียงใหม่แล้วครับ เหมือนกับติดน้ำท่วมไปด้วยเลยทีเดียว เพราะยังคงจำเป็นต้องลงมากรุงเทพฯเพื่อทำงานบางส่วนที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อย แต่เมื่อคืนนี้ก็ให้นึกเอะใจจากข่าว ๒-๓ เรื่อง คือ พื้นที่ในเขตทวีวัฒนา พุทธมณฑล และเขตปริมณฑลทางด้านที่พักผมนั้น เขาประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมแล้ว ขณะเดียวกัน พอโทรไปถามสภาพความเป็นไปจากน้องๆและพรรคพวกที่อยู่แถวนั้น เขาก็บอกว่า ตอนนี้ต้องใช้วิธีต้มน้ำประปาดื่มแล้วเพราะออกไปหาซื้อน้ำไม่ได้ อาหารก็ต้องหุงกินตามมีตามเกิดเพราะร้านขายอาหารปิดหนีน้ำกันไปหมด ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นไม่มีรถเข้ามาส่งสินค้าหลายวันแล้ว สินค้าเลยขาดหมด ฟังดูสภาพที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่ซึ่งอยู่ติดริมคลองทวีวัฒนา ก็คงจะไม่พ้นแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ก็ต้องเดินลุยน้ำไปหาซื้อของ และร้านขายของชำในหมู่บ้านก็ปิดร้านพากันขนของหนีน้ำเผื่อกันไว้หมดแล้ว
ทุกท่านคงโกลาหล ทั้งต้องเผชิญอุปสรรคปัญหาจากน้ำท่วม ต้องใส่ใจดูแลญาติมิตร และอาสาไปช่วยกันร่วมทุกข์สุขกับผู้คน ขอให้คุณพระคุ้มครองและมีสุขภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีสติมั่นคง เป็นกำลังสติปัญญาเพื่อการได้พึ่งตนเองและได้เป็นที่พึ่งของคนรอบข้างอยู่เสมอนะครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์โสภณครับ
เป็นสถานการณ์ที่ให้บทเรียนในเรื่องความปลอดภัยและการสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดความเสี่ยงภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินตนเอง ในชุมชนการอยู่อาศัยต่างๆ หลายเรื่องเลยนะครับอาจารย์ครับ
สวัสดีครับคุณอุ้มบุญครับ
ขอบคุณคุณอุ้มบุญที่ลิ๊งก์หัวข้อบันทึกที่เป็นเวทีระดมพลังกันเรื่องการจัดการขยะทั้งในภาวะน้ำท่วมและหลังน้ำท่วมมาให้อ่านและได้มีส่วนร่วมด้วยนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์หมอปัทมาครับ
ใช้ขวดพลาสติกปิดฝา ทำเหมือนทุ่นลอยน้ำ สลับกับเสาไม้ไผ่อย่างที่อาจารย์เสริมต่อความคิดให้กันไว้ เหมือนแนวอวนชาวเล หรือแนวลู่ว่ายน้ำในสระน้ำ ก็เป็นอีกวิธีที่แก้ปัญหาไปตามสภาพวัสดุที่พอหาได้ตามแหล่งชุมชนเมืองนะครับ ตรงจุดที่ตรึงให้อยู่กับที่ ก็หาอิฐหรือก้อนคอนกรีต มัดเชือกแล้ววางถ่วงไว้เป็นจุดๆ ชาวบ้านที่ลงเบ็ด วางข่าย และทำที่หมายบอกตำแหน่งต่างๆใต้น้ำให้กับคนสัญจรทางเรือ ก็ทำอย่างนี้ ได้ผลและสื่อความเข้าใจกันได้เป็นอย่างดีเหมือนกันครับ