พราหมณ์ถาม "บุคคลฆ่าอะไรได้ ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าอะไรได้ ย่อมไม่เศร้าโศก ข้าแต่พระโคดม พระองค์ย่อมชอบใจการฆ่าธรรมอะไรเป็นธรรมอันเอก ฯ"
พระพุทธเจ้าตรัส "บุคคลฆ่าความโกรธได้ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าความโกรธได้ย่อมไม่เศร้าโศก ดูกรพราหมณ์ พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธ อันมีมูลเป็นพิษ มีที่สุดอันคืนคลาย เพราะว่าบุคคลฆ่าความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ฯ"
ธนัญชานิสูตร พราหมณวรรค สังยุตตนิกาย
...........
พระพุทธเจ้าตรัส "ผู้ไม่โกรธ ฝึกฝนตนแล้ว มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอ หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้ชอบ สงบ คงที่อยู่ ความโกรธจักมีมาแต่ที่ไหน ผู้ใดโกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลนั้นแหละ เพราะการโกรธตอบนั้น บุคคลไม่โกรธตอบ บุคคลผู้โกรธแล้ว ชื่อว่าย่อมชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติสงบเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือแก่ตนและแก่บุคคลอื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์อยู่ทั้งสองฝ่าย คือของตนและของบุคคลอื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรมย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลาดังนี้ ฯ"
อักโกสกสูตร พราหมณวรรค สังยุตตนิกาย
.............
พรามหณ์ทูลถาม "พระสมณโคดมนี้ติดในรส (ติดใจในอาหาร) จึงเสด็จมาบ่อยๆ ฯ"
พระพุทธเจ้าตรัส "กสิกรย่อมหว่านพืชบ่อยๆ... ฝนย่อมตกบ่อยๆ... ชาวนาย่อมไถนาบ่อยๆ... แว่นแคว้นย่อมบริบูรณ์ด้วยธัญชาติบ่อยๆ...ยาจกย่อมขอบ่อยๆ... ทานบดีก็ให้บ่อยๆ... ทานบดีให้บ่อยๆ แล้ว ก็เข้าถึงสวรรค์บ่อยๆ... ผู้ต้องการน้ำนมย่อมรีดนมบ่อยๆ... ลูกโคย่อมเข้าหาแม่โคบ่อยๆ... บุคคลย่อมลำบากและดิ้นรนบ่อยๆ... คนเขลาย่อมเข้าถึงครรภ์บ่อยๆ... สัตว์ย่อมเกิดและตายบ่อยๆ... บุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้าบ่อยๆ... ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อยๆ ก็เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก ดังนี้ ฯ"
อุทัยสูตร อุปาสกวรรค สังยุตตนิยกาย
ไม่มีความเห็น