ตัวชอบ/ไม่ชอบ ที่รู้จัก ณ ตอนนี้
<<ตัวชอบ/ไม่ชอบ ที่รู้จัก ณ ตอนนี้>>
นอนคิดทั้งคืนว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีหรือไม่ จะเป็นการตอกย้ำคำตัดสินที่ได้รับให้ชัดเจนมากขึ้นหรือป่าว แต่ฉันเชื่อในการอ่านที่จับประเด็นได้ของเพื่อนๆ
หลายคนได้มอง ฟัง วิพากษ์วิจารณ์ ตัดสินเธอไปแล้ว ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมตัดสินเธอไปแล้วเช่นกัน นี่คือมุมที่ฉันได้หันกลับมามองเธอใหม่ ที่ข้ามตัวอคติส่วนตัว มองในมุมงานความคิดที่เธอนำเสนอ พยายามมองข้ามเรื่องส่วนตัวของเธอ
ฉันไม่ได้แก้ตัวแทนคุณคำ ผกา หรอกนะ เพราะก็มีบางด้านที่ฉันก็ยังไม่ชอบ และ บางด้านที่ฉันก็ชอบเช่นกัน
มีเพื่อนๆ ในกลุ่มหลายคน ได้ส่งบทความเกี่ยวกับ คุณคำ ผกา มาให้ฉัน เพราะได้ตัดสินไปแล้วว่า ฉันคงเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชม ชื่นชอบ
ใช่ฉันชื่นชม ชื่นชอบ และติดตามงานเธอ แต่กรุณาอ่านให้จบ เพราะระดับความชื่นชอบของแต่ละคนนั้นจะนำตัวชี้วัดมาวัดค่าปริมาณของคนอื่นไม่ได้หรอก เพราะระดับต่างกัน
เอาด้านที่ไม่ชอบก่อนนะ
ไม่ชอบที่เธอกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ฉันเคารพ โดยที่เธอยังไม่มีโอกาสมาร่วมสนทนา คลุกคลี กับตัวเป็นๆ ของท่านเลย เพียงอ่านบทความ ประวัติ เห็นภาพข่าว ก็นำด้านนั้นมาตัดสินแล้ว
ไม่ชอบความคิดเธอที่บางครั้งสุดโต่ง
ฉันแต่ก่อนไม่ฟัง ไม่อ่านบทความที่ปรากฏแม้เพียงรู้ว่ามีเธอ เป็นเธอเลย แต่ตอนนี้ฟัง อ่าน เพราะอยากรู้ในด้านที่ตัวเองไม่เคยมอง และสนุกกับความคิดของเธอ ที่เธอคิดอย่างนั้นได้อย่างไร เหมือนตัวเองได้ไปยืนอีกด้านที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้ามอง
ยอมรับเถอะบางครั้ง ด้านนั้นเราก็เคยคิดเช่นเธอ และเราก็สุดโต่งเช่นเดียวกับเธอ
ส่วนในด้านที่ชอบนะ
ในเชิงที่เธอกล้าเสนอแนวคิดตัวเองให้เกิดข้อบริภาษถกเถียงในสังคม ถ้าเรามองเลยข้ามภาพอคติส่วนตัว แล้วมองไปยัง Massage ที่เธอพยายามส่งสารออกมา เราจะเข้าใจว่า ทำไมเธอจึงกล้าที่จะนำเสนออย่างนั้น เป็นเพราะเธอช่างกล้าที่จะหยิบจุดเด่นของตัวเอง ออกมาใช้ประโยชน์ให้กับ Massage นั้นๆ
ถ้าเป็นตัวเราที่ได้สร้างเกราะป้องกันตัวเองอะไรมากมายคงไม่กล้า ฉันด้วยก็เช่นกัน อยากชวนให้ฟังตัวเองในอีกด้าน ด้านที่ไม่กล้าหยิบนำมาใช้เลย
ตัวฉันเองก็มีประสบการณ์มองคน อคติคน ด้านเดียวสุดโต่ง ซึ่งนั้นแม้ขณะนี้ก็ยังมีเชื้อตัวนี้อยู่ เพราะเราได้เอาประสบการณ์ส่วนตัวเข้าไปร่วมมองด้านนี้
เคยร่วมวงสนทนากับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ฉันพูดไม่ทันพวกเขาหรอก เข้ากลุ่มทีไร ก็ได้แต่ฟัง สังเกต คิด และโต้แย้งในใจ สิ่งที่พวกเขาแลกเปลี่ยนก็ไม่พ้นเรื่องนอกตัว เรื่องคนอื่น บุคคลที่ฉันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือแม้ผู้พูดเองก็ไม่รู้จักบุคคลที่พูดถึงเป็นการส่วนตัว เช่นกัน ไม่ใช่นินทาหรอกนะ แต่เป็นการพูดถึงคนในข่าว ก็ไม่พ้นแวดวงดารา นักแสดง บุคคลมีชื่อเสียงในวงสังคม สินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารดังย่านไหน แหล่งที่เที่ยวใหม่ๆ ...
ใครเหรอ ฉันไม่รู้จักเลย ... ข่าวอะไรไม่เคยรู้ ... แล้วก็ บลา บลา บลา .... กันอย่างสนุกสนาน ... ตอนนั้นได้แต่ฟัง แล้ว อ๋อเหรอ เชื่อตามที่ผู้พูดที่เราเชื่อถือในกลุ่มเป็นคนเล่า และก็หัวเราะสนุกสนานกับการได้พูดใส่ไคล้ ... นั่นคือฉันกำลังมองด้านเดียว มองในด้านผู้พูดที่เราเชื่อถือเป็นผู้ให้ข้อมูล ...
จนวันหนึ่งบุคคล คนนี้ ได้กระทำบางอย่างให้เรา สว่างว๊าบ ขึ้นมา ... อะไรกันนี่ ภาพที่น่าเชื่อถือในกลุ่มหายไปไหน ฉันไม่สามารถแลกเปลี่ยนในกลุ่มได้ว่า โดนกระทำจากบุคคลนี้อย่างไร เพราะเขาก็ยังเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออยู่ ... ส่วนฉันเองตัวเงียบในกลุ่มก็เริ่มปลีกตัวหายไป ... ฉันในมุมนั้นก็ได้รับประสบการณ์ในมองผู้คนเพิ่มขึ้น ... ในมุมกลับกัน ฉันก็อาจจะเป็นผู้กระทำในมุมของเขาเช่นกัน ... ซึ่งนั่นก็คงอีกยาวถ้าจะมองในมุมนั้นของฉัน ...
แต่นี่ฉันกำลังเสนอให้มองคนหลายด้าน
เมื่อเราเริ่มมีสติ ตัวปัญญาก็เริ่มปรากฏ
ฉันไม่ชอบเธอ เพราะเธอทำสิ่งที่ฉันไม่ชอบใจ
ฉันชอบเธอ เพราะเธอทำสิ่งที่ฉันชอบใจ
บางครั้งเราอาจจะสูญเสียเพื่อนที่ดี เพราะเรารีบตัดสินใจจากมุมความชอบ/ไม่ชอบ ตัวนี้ก็ได้
บางครั้งเราอาจจะสูญเสียความคิดดีๆ ไอเดียดีๆ จากมุมความชอบ/ไม่ชอบ ตัวนี้ก็ได้
ลองนิ่ง เงียบ ฟัง เฝ้าสังเกต ตัวชอบ/ไม่ชอบ กันดูมั๊ย
เพราะฉันเองก็ยังต้องเรียนรู้กับ ตัวชอบ/ไม่ชอบ อีกยาวไกล เพราะทั้งสองตัวก็ยังเต้นเร่าอยู่ภายในตัวฉัน
นฤมล จันทรศรี
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
.
ความเห็น (3)
คิดเช่นเดียวกัน เพิ่งไปอ่่านมา ถ้ามัวแต่คิดสิ่งไม่ดีขอเขา
เราคงจะไม่มีใครให้ชอบอีกต่อไป
เอาส่วนที่ชอบดีกว่าครับ มีเพื่อนเยอะดี
- ชอบไม่ชอบก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งนะครับ
- เหมือนดอกไม้นี้ชอบก็จึงหยิบกล้องมาถ่าย
- แต่อีกไม่เท่าไหร่มันก็ร่วงโรยไป เราก็อาจไม่ชอบเพราะมันเหี่ยวเฉาไปแล้ว
- การไม่ยึดติดชอบ ไม่ชอบ ก็จึงเป็นทักษะหนึ่งที่ต้องฝึกฝนนะครับ
