มิติจิตใจในอเมริกา๒

Planetree
conference 2

เมื่อวานนี้แม่ต้อยเล่าว่าโรงแรมที่พักนี่สวยงามมากมาย
แต่ยังไม่เห็นภาพวันนี้เลยเอามาลงให้เห็นกัน สวยงามโอ่อ่าจริงๆคะ
แต่หากย้อนดูภาพปีที่แล้วบริเวณนี้นี่แหละน้ำท่วมสูงมาก ภาพความเสียหายน่าหดหู่ใจ เจ้าของสถานที่นี้เขาฟื้นฟูได้รวดเร็วมาก

 

ในการประชุมวันที่๒ แม่ต้อยรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับประทานอาหารเช้าอันอร่อย
เพราะคิดว่าคงจะเหมือนเดิมคือครัวร้อน มีเชพมายืนปรุงให้เหมือนเดิม  แต่วันนี้กลับกลายเป็นอาหารเช้าแบบที่เรียกว่า Cold breakfast คือทุกสิ่งแช่เย็นหมดแล้วนำมาเสริฟ มีขนมปังแข็งๆ กาแฟ ไข่ต้ม ข้าวโอ๊ต และผลไม้จำพวกแอปเปิ้ล กล้วยหอม 
เป็นที่น่าสังเกตอีกว่าอาหารว่างที่เคยมี สองมื้อวันนี้ลดลงเหลือมื้อเดียว
ทำให้คนที่ไม่มีอาหารกิน ไม่มีรถออกไปไหน เช่นแม่ต้อย เริ่มออกอาการขาดอาหาร อิอิ

สิ่งที่ดีมากๆของเนื้อหาการประชุมนี้คือ เขาคัดเลือกวิทยากรที่ดึงดุดใจ สำหรับ key note speaker ทุกคนจะเป็นคนดังระดับประเทศ  ออกรายการกับโอปราห์ หรือเป็นผู้จัดรายการต่างๆมาทั้งนั้น เมื่อบรรยายเสร็จก็จะมีช่วงเวลาของการ siging
คือเข้าคิวซื้อหนังสือที่เขานำมาขาย  พร้อมลายเซ็นและถ่ายรูป ได้ประโยชน์ทั้งผู้มาบรรยาย ผู้ฟัง และผู้จัด

 

อย่างเช่นเมื่อคืนนี้เขานำเอานักดนตรีและ
วาทยกร (Conducter) ระดับโลก Ben Zander  ที่มีพรสวรรค์ด้านการบรรยายเรื่องแรงบันดาลใจและ การนำมาบรรยาย น่าสนใจมากๆ

สำหรับเช้านี้เขานำเอา นักวิชาการด้านอาหารที่โด่งดังของอเมริกา  Zonya Foco ต่อต้านการกินอาหารที่ไม่มีคุณภาพมาtalk show เธอเป็นนักพูดที่น่าอัศจรรย์มาก มีอารมณ์ขัน และมีความรู้แบบง่ายๆเกี่ยวกับการคำนวณแครอลี่ 
ผู้ฟังส่วนใหญ่ที่น่าจะเป็นคุณพยาบาลที่ตอนนี้รูปร่างก็ขยายออกมาทุกสัดส่วนนั่งฟังอย่างตั้งใจ  เธอนำพวกเรา สาบานตนว่าจะไม่กินอาหารประเภทนี้อีกต่อไปอีก การบรรยายของเธอช่างมีพลังล้นเหลือ

 

ทุกๆเช้าเธอยังชวนคนที่มาประชุมมาร่วมขี่จักรยานในห้องประชุมอีกด้วย
เพื่อกระตุ้นให้คนเอาใจใส่ในสุขภาพ  แม่ต้อยประทับใจการบรรยายของ
key note คนหนึ่ง John F Crowly ที่ได้มาเล่าเรื่องการต่อสู้ในการรักษาโรคร้ายให้กับลูกสาว สองคนของเขา ที่ป่วยด้วยโรค Pompe
ซึ่งทางการแพทย์ไม่สามารถรักษาได้ และจะมีอายุยืนยาวต่อได้ไม่มาก

 

โรคนี้เท่าที่แม่ต้อยฟัง  จะเป็นโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อไม่ปกติ ผู้ป่วยไม่สามารถทำอะไรได้  คุณ Crowly ถึงกับลาออกจากงานเดิมเพื่อหาหนทางรักษาลูกสาวทั้งสองคน  ในที่สุดเขาได้ไปเป็นหุ้นส่วนของบริษัท biotech company และทำการศึกษาค้นคว้าตัวยาเฉพาะในการรักษาโรคนี้โดยใช้ enzyme therapy จนสามารถรอดชีวิตให้ยืนยาวมาได้แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์เท่าคนทั่วไป

เรื่องเล่าของเขาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่อง Extra ordinary
Measure นำแสดงโดย ดาราดังชื่อ Harrison Ford ซึ่งแม่ต้อยเคยได้ดูมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ คราวนี้ว่าจะกลับไปหามาดูใหม่อีกสักรอบ

ชั่วโมงนี้คนฟังนั่งเงียบกริบ  แม่ต้อยเองแม้ว่าจะมีปัญหาด้านการสื่อสาร เพราะการบรรยายนี้เป็นการเล่าเรื่อง ไม่มีสื่ออื่นๆที่มาประกอบให้เข้าใจง่าย
อีกทั้งหูข้างหนึ่งก็ใช้การไม่ได้มากนัก  แต่แม่ต้อยนั่งน้ำตาซึมตลอดเวลา

เขาบอกว่า เขาใช้หลัก strange hope and joy ครอบครัวเขาต้องพบกับสิ่งที่แปลก  อย่างที่ไม่เคยมีใครได้พบ เขาจึงต้องสร้างความหวัง และต้องทำให้ชีวิตของลูกมีความสุขด้วยแม้จะพิการก็ตาม

หลายๆครั้งที่เขาเล่า เขาจะหยุดเพื่อระงับความรู้สึกสะเทือนใจที่เกิดขึ้น

“
เมื่อเห็นลูกสาวผมยิ้มครั้งแรก นั่นเป็นความหวังครั้งแรกของผม ในฐานะของพ่อ
ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก..”

 

ทุกคนมีความฝัน ลูกสาวผมก็มี
เชื่อไหมว่า คนไข้หลายๆคน อยากหนีออกไปจากพวกคุณ ( พยาบาล หรือหมอที่เป็นผู้ฟัง)
เพราะความฝันของคนไข้นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนอื่นๆจะเข้าใจได้

สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือ “ ความหวัง “ ทุกวันนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อลูกสาวเท่านั้น แต่ผมทำเพื่อมนุษยชาติ

ปัจจุบันลุกสาวของเขาทั้งสองคนมีชีวิตจนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้
แม้ว่าจะแตกต่างจากคนอื่น คือต้องนั่งรถเข็น แต่ชีวิตมีความสุขเหมือนคนทั่วไป
และเขาก็ยังมีความหวังต่อไป

มันเป็นการประเมินค่าที่เกินธรรมดาจริงๆ เมื่อจบการบรรยายทุกคนยืนปรบมือยาวนาน และแน่นอน หนังสือสร้างแรงบันดาลใจของเขาได้รับการชื่นชมและมีคนเข้าแถวยาวเพื่อเป็นเจ้าของ

ในชั่วโมงของ peter Pronovost คุณหมอรูปหล่อมากคนนี้ ก็ไม่น้อยหน้าชั่วโมงอื่นๆ เพราะเขาเป็นผู้นำของ patient safety และเป็นผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมให้กับวิชาชีพแพทย์ พยาบาลในการตระหนักในเรื่อง medical
error และinfection

 คุณหมอ เป็นนักบรรยายที่มีเสน่ห์มาก เพราะเริ่มต้น
ก็นำเสนอด้วยอัตราการตายของคนไข้ทั่วอเมริกา และตั้งคำถามท้าทายว่า
มีกี่คนที่รพ.ของพวกท่านได้ทำให้เสียชีวิต และฉายภาพเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งบนจอ และบอกว่า

 

“ เขาไม่ควรตาย หากเราให้ความสนใจในพฤติกรรมของเรามากกว่านี้”

พฤติกรรมที่ว่านี้คือการล้างมือตามหลักมาตรฐานนั่นเอง
ซึ่งมีผลมากมายต่อการติดเชื้อ และส่งผลต่อผู้ป่วย แนะนำให้ใช้ CUSP 
และ 4E ในทุกระดับตั้งแต่ senior leader ,team leader ,staff

How planetree Principle and designation lead to success เป็นการนำเสนอจากรพ.แรกของประเทศยุโรปที่สนใจแนวคิดนี้และนำไปปฏิบัติ
และภูมิใจมานำเสนอ

ที่สุดแล้วจึงรู้ว่าเขาใช้หลัก มิติจิตใจนี่แหละเข้าไปบูรณาการในทีมงาน เพราะเดิม
คนทำงานเขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายองค์กรได้ และมีคนลาออก อีกทั้งประชาชนไม่ พอใจ รพ.ขาดทุนสูงมาก เขานำเสนอว่ารพ.ใช้แนวคิดด้านคุณภาพ PDCA   Lean  kaisen มาใช้ และนำหลักของ Plenatree
มาร่วมด้วยคือ คนทำงานต้องมีความสุข คนไข้ต้องมีการเยียวยา และเรียนรู่จากชุมชน รวมทั้งปรับปรุงการทำงานให้ healing ทั้งคนทำงานและคนไข้ด้วย ( SHA ของเรานั่นแหละคะ อิอิ )

ฝรั่งสนใจถามมากมายเกี่ยวกับการทำให้คนมีความสุขและเพิ่มผลผลิตให้กับงาน
ถามว่า ทำอย่างไรละ?
แม่ต้อยเข้าใจเอาเองว่าด้วยวิถีของฝรั่งที่ต่างคนต่างอยู่และใช้ความเป็นวินัยเป็นแกน
ทำให้แนวคิดนี้ไม่คุ้นเคยกับพวกเขา

หมอจากฮอลแลนดิ์
พยายามตอบว่า เราต้องเรียนรู้จากคนทำงาน ต้องฟังเขา ก็มีคำถามอีกว่า ต้องฟังทุกคนไหม?  ฟังแค่หัวหน้าได้ไหม?  เล่นเอาคนนำเสนอที่ภาษาอังกฤษก็แปร่งๆ
ต้องหาคนมาช่วยตอบ อุตลุต

 รพ.นี้มีทุกอย่างที่สรพ.เองได้ แนะนำให้รพ.ทำ เช่น healing
environment  การแพทย์ทางเลือก และการผ่อนคลาย เช่น   massage และที่ประหลาดมากคือเขาเอารูปพระพุทธเจ้า ฉายบนสไลดิ์ และบอกว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำสมาธิก่อนทำงาน เขาใช้แนวคิด meditation ในการบูรณาการดูแลผู้ป่วย

 

ตอนแรกที่แม่ต้อยคิดว่าฝรั่งไม่สนในเรื่องราวมิติจิตใจนี่
เห็นจะเป็นความคิดที่ผิดแน่ๆ  เพราะว่าอีกห้องหนึ่ง นี่ถึงขนาดมี department
of Spiritual เลยทีเดียว แต่เขาใช้แนวคิดของ rekki ซึ่งคงต้องมาศึกษารายละเอียดว่าเป็นอย่างไร แต่ต้นฉบับมาจากญี่ปุ่น  แต่สรุปคือ
เขาใช้พลังความรัก ในการสร้างพลังให้กับคนทำงาน รวมทั้งคนไข้ด้วย เป็น “ rekki Power of Care”  มีคนถามเช่นเคย ว่า มีการวิจัย หรือยัง เอาเข้ามาในนโยบายได้อย่างไร ผู้บริหารเขาสนใจหรือไม่?

ที่น่าสนใจอีกห้องหนึ่งคือ การออกแบบสำหรับผู้ป่วยที่พิการ เช่นผู้ป่วยตาบอด ผู้ป่วยฟื้นฟูสภาพ การออกแบบเขาจะให้ความสำคัญกับประสาทสัมผัสทั้ง ๕ มีรายละเอียดมากมายสำหรับการออกแบบเรื่องนี้ ละเอียดและประณีตมากเหลือเกิน

และจึงได้รู้อีกว่าบรรดาสถาปนิกที่จะสามารถออกแบบให้กับรพ.ที่เป็นสมาชิกของ
Planetree นั้นจะต้องได้รับการรับรองจาก planetree ด้วย และต้องมีผลการวิจัยว่ามันImprove Quality และ   safety ด้วย

และการนำเสนอนั้นต้องคู่กันระหว่างสถาปนิกผู้ออกแบบ และแพทย์ หรือพยาบาล ผู้ใช้งานด้วย ว่ามันมีผลดีอย่างไร ต่อคนทำงาน ต่อคนไข้

เรื่องของ Interactive patient care   นั้น นอกจาก healing
environment  และการทำให้คนไข้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอย่างปลอดภัยแล้ว
เขายังมีแนวคิดในการทำให้คน wellness โดยการใช้เทคโนยีต่างๆ
เพื่อให้คนไข้ได้สื่อสารหรืออาจจะติดต่อกับที่ทำงานได้ เช่น face book ,media services , vdo เพื่อความสนุก ผ่อนคลาย
หรือเพื่อการให้ความรู้ การติดต่อกับแพทย์ พยาบาล อย่างรวดเร็ว

มีอีกหลายเรื่องราวที่ยังไม่ได้นำมาเล่าในรายละเอียด
เช่นเทคนิคการround ผู้ป่วยทุก ๑ ชั่วโมง  หรือการใช้ศิลปะเพื่อผ่อนคลายจิตใจ
การสร้างแรงจูงในให้กับตัวเอง  การสร้างเครือข่าย

 

แม่ต้อยพอจะสรุปว่าทั้งหมดทั้งปวงที่ได้มาเรียนรู้นี้
ส่วนใหญ่เราได้ลงมือทำไปแล้ว แม้ว่าอาจจะเพียงเริ่มต้น แต่หลายอย่างจะสอดคล้องกับบริบทของบ้านเรามากกว่า
สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเราคือ เราเริ่มต้นได้ไม่ยาก
แต่สิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือเราจะทำให้เข้มแข็งต่อไปนั้นจะทำอย่างไร

เดิมก่อนมาประชุม แม่ต้อยก็แทบจะปล่อยความฝันให้ลอยไปกับสายน้ำ แต่เมื่อมาเห็นฝรั่งเขาสนใจมาก ก็เกิดเสียดายอีก นี่แหละนะ ที่เขาว่า ทุกสิ่งไม่แน่นอน เกิดขึ้น  คงอยู่ ดับไป และ เกิดมาใหม่อีก

คืนนี้ เขาจะมีการนำนักร้อง มาร้องเพลงของบีโทเฟน ให้ฟังด้วย
แต่ว่าแม่ต้อยไม่แน่ใจว่าจะได้เข้ามาฟังหรือไม่ เพราะว่า
ต้องพาลุกสาวไปหาอาหารกินแถวนอกโรงแรม ซึ่งต้องเดินออกไปไกลพอสมควร
ยิ่งน่ากลัวๆอยู่ด้วย แฮ่ๆ

พรุ่งนี้จะเขียนมาให้อ่านใหม่นะคะ
หากไม่มีเวลาพอค่อยมาเล่าต่อที่เมืองไทยคะ

๑ พย. ๒๕๕๔

Gaylord
Opryland, Planetree Conference

 

 

[Dr. Ple]

เรียน แม่ต้อยที่เคารพ ...(ดวงสมร บุญผดุง)

 

 

 

 

- ขอบคุณมากคะ สำหรับบทความดีๆๆ  และทำให้ “ได้องค์ความรู้ใหม่ๆๆ” อย่างมากมายคะ...และมองเห็นภาพ....ที่แม่ต้อยเล่า......เจ้าคะ

- การประชุม ได้มีการ “คัดเลือกวิทยากรที่ดึงดุดใจ สำหรับ key note speaker ทุกคนจะเป็นคนดังระดับประเทศ”.....เป็นการประกันคุณภาพ...ของงานประชุม...แล้วละคะ

 - การแจก “ลายเซ็นและถ่ายรูป”..... เป็นกลยุทธ์ด้านการตลาด   “รูปแบบหนึ่งที่เยี่ยมมาก”  ที่ไม่ต้องลงทุนมากมาย..... แต่ผลลัพธ์มหาสารนะคะ .....ได้ประโยชน์ทั้งผู้มาบรรยาย ผู้ฟัง และผู้จัด

- นักวิชาการด้านอาหารที่โด่งดังของอเมริกา  Zonya Foco == > ต่อต้านการกินอาหารที่ "ไม่มีคุณภาพ" มาtalk show เธอเป็นนักพูดที่น่าอัศจรรย์มาก มีอารมณ์ขัน และมีความรู้แบบง่ายๆเกี่ยวกับการคำนวณแครอลี่ .....ตรงนี้หละคะที่......เปิ้นและชาวคุณภาพยัง  "อ่อนหัด + ยังละอ่อนอยู่"  เป็นแต่ทำ....."ขาดการสื่อสาร...ให้คนอ่าน...คนรับรู้.....ยัง...."ไม่มีฝีมือคะ.....มากเท่าเขา.....มีนิดหน่อย ...  ต้องฝึกฝน ... แบบที่แม่ต้อย...สอนอยู่เสมอๆๆๆๆ"

- คุณพยาบาลที่ตอนนี้ รูปร่างก็ขยายออกมาทุกสัดส่วน (แล้วจะไปสร้างเสริมคุณภาพชีวิต....ผู้อื่นได้อย่างไร?????)...นั่งฟังอย่างตั้งใจ  เธอนำพวกเรา สาบานตนว่าจะไม่กินอาหารประเภทนี้อีกต่อไปอีก(อด + ลด.....ได้ไม่เกิน 2-3 wk)

- การบรรยายของเธอช่างมีพลังล้นเหลือ....ทำอย่างไร?....เราจะทำอย่างเขาได้นะคะ (ตลก + น่าฟัง + สนุกที่ไ้ด้ฟัง + มีร้อยยิ้ม + เสียงหัวเราะ + เสียงปรบมือ + เนื้อหาOk + ได้เนื้อหาสาระ...และ...นำไปประฎิบัติได้จริง)

- การชวนคนที่มาประชุมมาร่วม....ขี่จักรยานในห้องประชุมอีกด้วย......เป็น..."กลยุทธ์ฟื้นๆ....แต่... "สุดยอดของการคิด".....เพื่อ .... "กระตุ้นให้คนเอาใจใส่...ในสุขภาพ"

- การต่อสู้ ในการรักษาโรคร้ายให้กับลูกสาว 2 คนของเขา ที่ป่วยด้วยโรค Pompe ซึ่ง ทางการแพทย์ไม่สามารถรักษาได้   "แสดงถึง....การไม่ยอมแพ้....สำหรับ...บุคคล...อันเป็นที่รัก".....  คิดว่า .... เราทุกๆๆคนเป็นเช่นนี้คะ

- “เมื่อเห็นลูกสาวผมยิ้มครั้งแรก นั่นเป็น "ความหวัง" ครั้งแรกของผม ในฐานะของพ่อ....ผม .... "ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก..”

- "ทุกคนมีความฝัน .... ลูกสาวผมก็มี" .....เชื่อไหมว่า คนไข้หลายๆคน อยากหนีออกไปจากพวกคุณ ( พยาบาล หรือหมอ).....ค่ะใช่เลย.....ถูกต้อง...100% .... ไม่มีใคร "อยากมา....รพ. ..... ถ้าเขาไม่จำเป็นต้องมาจริงๆๆๆ" .... รพ. ไม่ใช่ "สถานที่...ที่น่าภิรมณ์นัก.....ไม่ใช่...."ตลาด..จตุจักร" ......  เริ่มมีการเมืองมาร่วมแล้ว.....เปลี่ยนดีกว่า ....  รพ. ไม่ใช่..."ห้างสรรพสินค้า.... ที่จะมาเดินแก้ร้อน + คลยเย็น.... และ...ได้สิ่งของที่เราต้องการ....มีทุกอย่างเลย"  (ไ้ม้จิ้มฟัน ===> เรือรบ....(ของเล่นด็กๆๆ)

- "ความฝันของคนไข้นั้นยิ่งใหญ่นัก" เกินกว่าที่คนอื่นๆจะเข้าใจได้

- สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือ “ ความหวัง “ ...ทุกวันนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อลูกสาวเท่านั้น แต่...."ผมทำเพื่อมนุษยชาติ" ....เป็นคำพูดที่ .... มีพลังมากคะ (Very powerful)

- เปิ้นต้อง....... ไปเติมพลังบ้าง....แล้วหละคะ

        

 

 

      

 

 

 

 

 

      เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ๆๆๆๆ   ท่านรองผู้ว่าฯ ... จ.เพชรบุรีมาเปิดงานคะ (ท่านๆๆจะได้รู้ว่า ....รพ.บ้านลาด...ทำจริงๆๆๆ....และ....จะได้ขอ...งบ...สนับสนุน  (กลยุทธ์)

 

       

         เรียนเชิญ ท่านนายกเหล่ากาชาด "แม่เมือง...ของเมืองเพขร".... แสดง "ปาฐกถา.....เรื่อง.... เอาใจหนุนเมื่อวัยรุ่น"....  เพื่อ...พัฒนาทักษะชีวิตของวัยรุ่น....ลดแม่วัยใส" ......  เพราะท่านเป็นคุณครู (สอนเก่งมากคะ)....และรพ.บ้านลาด.....ก็ได้รับ...งบประมาณ..สนับสนุน...จากกาชาด จ.เพชรบุรีด้วยคะ....ใครขอท่านก็ให้....แต่ต้องทำจริง + และทำอย่างต่อเนื่อง...คะ...รพ.บ้านลาดทำเรื่องนี้มา 3 ปีแล้วคะ....เขียนมาย้าวยาวมากแล้วคะ (กลัวแม่ต้อยเบื่อ)

- อ้อ..!!!...ลืมเล่า ....เรื่อง "การดูแลวัยใส...ในModel "รุก-รับ-ลับ-ลึก" ของเปิ้น+ รพ.บ้านลาด ...ได้นำเสนอในเวทีแห่งชาติ การประชุมวิชการครั้งที่ 3  ในโครงการ  เครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกฯ ในพระอุปถัมภืของพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ  ...... "วัยรุ่นตั้งครรภ์....ทารกเกิดก่อนกำหนด....ปัญหาที่ท้าทาย...สังคมไทย" 

- ต้องขอกราบขอบพระคุณ ...แม่ต้อยและสรพ. ==> ที่ทำให้..เปิ้นและชาวรพ.บ้าน....ได้ทำความดีค่ะ

 

                    ขอบคุณมากคะ.... แม่ต้อย