มากินผลไม้ไทยกันดีกว่า
ผลไม้ฝรั่งใครๆ ก็อยากกิน เพราะเชื่อว่ามันมีผลดีต่อร่างกาย เช่น องุ่น แอปเปิ้ล อาโวกราโด กีวี จนบัดนี้ในแผงตลาดสดตามหัวเมือง มีผลไม้นอกวางขายมากกว่าผลไม้ไทยไปแล้ว
ที่เป็นดังนี้เพราะว่าพวกฝรั่งเขาทำงานวิจัยส่งเสริมผลไม้ของเขามาก ยิ่งค้นก็ยิ่งเจอข้อดี ก็ยิ่งเอามาโฆษณา (อาจมีแกมชวนเชื่อด้วย เช่น An apple a day keep doctors away.)
ที่นิวซีแลนด์มีผลไม้อยู่ลูกเดียวคือ กีวี แต่เขามีผลิตภัณฑ์จากกีวีนับพัน เครื่องสำอางค์ ยา สารเคมีอุตสาหกรรมสารพัด ส่วนของเรามีผลไม้หมื่นลูก ไม่ค่อยมีการวิจัยอะไรเลย เพราะนักวิจัยไทยเราหันไปทำแต่งานวิจัยฟุ้งเฟ้อ เห่อเหิม ที่ตีพิมพ์ได้ในวารสารที่มี impact factor
มะม่วงไทยไม่มีคนกิน ทำให้ล้นตลาด ราคาถูกมาก ได้ข่าวว่าตอนนี้ โลละ 10 บาทเท่านั้น ไม่คุ้มค่าเก็บด้วยซ้ำไป เป็นอย่างนี้ซ้ำซากมาหลายปี รัฐบาลไม่เคยมีมาตรการระยะยาวช่วยเหลือ โดยเฉพาะการวิจัยเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์
ที่ผมได้เสนอไว้แล้วคือ ให้เอามาปาดป่นเนื้อ แช่แข็งเป็น concentrate แล้วเอาไว้ชงกินเป็นน้ำมะม่วงสด ขายทั้งในและต่างประเทศ ใน usa นั้นเขานิยมกินน้ำส้มจาก concentrate มาก เพราะอะไร เพราะบริษัทเขารณรงค์นะซี่ เนื่องจากมันสดเท่าน้ำส้มสด แต่ราคาถูกกว่า (ประหยัดที่เก็บและการขนส่งของบริษัท) เมื่อ 30 ปีก่อนผมเคยเห็นมะม่วง concentrate ขายใน usa ด้วย ผมเชื่อว่าถ้ารณรงค์จะขายได้แน่นอน เพราะน้ำมะม่วงหอมหวานชื่นใจไม่แพ้น้ำส้ม
ส่วนกล้วยน้ำว้า (ดิบเกือบห่าม) นั้นน่าเอามาปิ้งแล้วห่อพลาสติกทำ packaging ให้สวย แล้วเอาไปรณรงค์การตลาดให้กินเป็นอาหารเช้า กินกับกาแฟ
เม็ดมะม่วงผมเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยามากมหาศาล เพราะมันฝาดมาก แต่กินได้ กินแล้วไม่ตาย นี่มันยาชัดๆ ส่วนเม็ดองุ่นนั้นฝรั่งเขาวิจัยกันมานานมากแล้ว สรรพคุณกระฉ่อนโลกตามที่ทราบกันดีแล้ว
ถ้าเราวิจัยให้ดีมะม่วงหนึ่งลูกอาจขายได้หนึ่งพันบาทก็เป็นได้ ส่วนกล้วยขอลูกละห้าบาทก็พอแล้ว
ตื่นเถิดนักวิจัยไทย และผู้บริหารการวิจัยไทย หันมาช่วยกันกู้ชาติได้แล้ว ก่อนจะต่ำต้อยไปกว่าเพื่อนบ้านมากกว่านี้
...คนถางทาง (๘ กพ. ๒๕๕๕)
กล้วยน้ำหว้าห่ามๆ ดองน้ำผึ้งรวง กินมาเกือบตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ลดน้ำผึ้งรวงลงตามอายุ
คงอึดดัดมาตั้งแต่ราคาข้าวตกต่ำ ฮ่าๆๆ