นิทาน "แม่น้ำกับก้อนเมฆ"


แม่น้ำ เรียนรู้ที่จะบูรณาการ ก้อนเมฆ กับชีวิต อย่างมีความสุข

หากมีคำถามว่า..อะไรคือการบูรณาการและบูรณาการอย่างไร เพื่ออะไร คงจะหาคำตอบหรือจะอธิบายปรากฏการณ์ของการบูรณาการกันค่อนข้างยาก.... 

สืบนื่องมาจากงานประชุม HA national forum 13th ในปีนี้มี theme ว่า เรียนรู้ บูรณาการ งาน กับชีวิต  สรพ.จึงได้เชิญชวนให้รพ. ส่งภาพถ่ายที่แสดงถึงการบูรณาการงานกับชีวิตมาเพื่อชิงรางวัล เราได้เห็นการแปลความ ตีความหมายของเรื่องราวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ..เราอาจจะไม่ต้องตีความ ...

ความจริงแล้ว คงไม่มีอะไร ผิด อะไรถูก อะไรแท้ อะไร เทียม

หากขอแต่เพียงได้รู้ว่า... ตัวเราได้ประโยชน์ เพื่อนมนุษย์ได้ประโยชน์ สังคม ประเทศชาติ ได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำนั้นก็เพียงพอ...

เพียงแค่เราค้นพบตนเอง ค้นหาความสุขให้ตนเอง จากสิ่งรอบข้างเดิมๆ  เมื่อนั้นการบูรณาการได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะบูรณาการ เริ่มที่ตนเอง.... เมื่อตนเองเปลี่ยน สิ่งต่างๆ รอบข้างก็จะเปลี่ยน.....

ดังนิทานเซ็น เรื่องแม่น้ำกับก้อนเมฆ ค่ะ

 

 

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแม่น้ำอันแสนงดงามไหลล่องผ่านป่าเขาและทุ่งหญ้า เธอกำเนิดมาจากสายน้ำเล็กๆที่แสนเบิกบาน ยามที่เธอไหลลงจากยอดเขา สายน้ำนั้นเต้นรำและร้องเพลงไปกับเธอ เมื่อไหลลงมาสู่พื้นราบ การเดินทางของเธอก็ค่อยๆ ช้าลง และเริ่มคิดคำนึงถึงมหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่ เมื่อกาลเวลาผ่านไป เธอเติบโตขึ้นเป็นแม่น้ำที่สวยงาม ไหลลัดเลาะไปตามภูเขาและทุ่งหญ้าอย่างสง่างาม

       วันหนึ่งแม่น้ำสังเกตเห็นเงาสะท้อนของก้อนเมฆในตัวเธอ ก้อนเมฆเหล่านั้นมีรูปทรงและสีสันอันหลากหลาย เธอไล่ตามก้อนเมฆเหล่านั้นไป หวังจะได้ครอบครองก้อนเมฆสักก้อนหนึ่ง หากแต่ความเป็นจริงก้อนเมฆนั้นลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้าอันแสนไกล และเปลี่ยนรูปร่างไปมาอยู่ตลอดเวลา บางทีก็เป็นรูปเสื้อโค้ต บางทีก็เป็นรูปม้า และด้วยความเปลี่ยนแปลงนั้นเองที่ทำให้แม่น้ำเป็นทุกข์อย่างยิ่ง กลับกลายเป็นว่าความสุขความเบิกบานของเธอคือ การวิ่งไล่ตามก้อนเมฆก้อนแล้วก้อนเล่า ในขณะเดียวกันนั้นความสิ้นหวัง ความโกรธและความเกลียดชังก็ค่อยๆ กลายเป็นชีวิตของเธอ

           แล้ววันหนึ่งเกิดมีลมแรงพัดพาเอาก้อนเมฆทั้งหมดหายไปจากฟากฟ้า ท้องฟ้าพลันว่างเปล่า เมื่อไม่มีก้อนเมฆให้แม่น้ำวิ่งไล่ตาม ชีวิตก็ช่างดูไร้ค่าเกินกว่าที่จะเธออยู่ต่อไป เธออยากตายและรำพึงกับตัวเองว่า "ฉันจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม ในเมื่อไม่มีก้อนเมฆเหล่านั้น" จึงเกิดคำถามกับตนเองว่าแม่น้ำจะคร่าชีวิตตัวเองได้อย่างไร

ในคืนนั้นแม่น้ำได้มีโอกาสกลับมาใคร่ครวญอยู่กับตัวเองเป็นครั้งแรก เธอพบว่าที่ผ่านมาเธอมัวแต่วิ่งไล่ตามสิ่งที่อยู่ภายนอกโดยที่เธอไม่เคยย้อนกลับมามองดูตัวเองเลย และคืนนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง เสียงน้ำที่กระทบกับสายน้ำใหญ่ เธอได้ค้นพบบางสิ่งที่สำคัญเมื่อเธอสามารถฟังเสียงภายในตัวเอง เธอพบว่าสิ่งที่เธอเฝ้าตามหามาตลอดนั้นอยู่ในตัวเธอเอง ก้อนเมฆและน้ำนั้นเป็นดั่งกันและกัน ก้อนเมฆกำเนิดมาจากน้ำ และสุดท้ายก้อนเมฆก็กลายเป็นน้ำ ตัวเธอเองก็คือน้ำเช่นกัน

           เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อพระอาทิตย์ส่องฉายไปทั่วท้องฟ้า แม่น้ำได้พบบางสิ่งที่สวยงามเป็นครั้งแรก ซึ่งเธอไม่เคยสังเกตเห็นท้องฟ้าสีครามมาก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมัวแต่สนใจก้อนเมฆ โดยไม่เคยมองท้องฟ้าที่เป็นบ้านของก้อนเมฆเลย ก้อนเมฆนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ท้องฟ้านี่สิมั่นคง เธอตระหนักได้ว่าท้องฟ้าอันกว้างใหญ่นั้นอยู่ในใจเธอมาตั้งแต่แรกเริ่ม ปัญญาหรือความรู้แจ้งอันยิ่งใหญ่นี้นำความสุขสงบมาสู่แม่น้ำ เมื่อใดก็ตามที่เธอมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่งดงาม เธอจะรู้ว่าความสงบศานติและความมั่นคงนั้นอยู่กับเธอเสมอ

          และในบ่ายวันนั้นก้อนเมฆก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แม่น้ำไม่ได้อยากครอบครองก้อนเมฆอีกแล้ว เธอกลับมองเห็นเพียงความสวยงามของก้อนเมฆแต่ละก้อน และยินดีกับการมีอยู่ของก้อนเมฆ เมื่อก้อนเมฆมาเยี่ยมเยือนท้องฟ้า เธอต้อนรับด้วยความรักความเมตตา และเมื่อก้อนเมฆจากไป เธอก็โบกมือลาด้วยความสุขและความรักความเมตตาเช่นเดียวกัน เพราะแม่น้ำรู้ว่าก้อนเมฆเหล่านั้นก็คือเธอ เธอไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างตัวเธอกับก้อนเมฆ ความสงบและความกลมกลืนกันนั้นมีอยู่ระหว่างเธอและก้อนเมฆ เย็นวันนั้น เมื่อแม่น้ำเปิดใจกว้างอย่างเต็มเปี่ยมให้กับท้องฟ้ายามเย็น สิ่งสวยงามก็เกิดขึ้น เธอได้พบภาพสะท้อนของพระจันทร์เต็มดวงที่สวยงาม กลมโตดั่งเพชรที่อาบฉายลงในตัวเธอ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะสามารถสะท้อนภาพที่งดงามเช่นนั้นได้ ดังเช่นบทกวีของจีนที่กล่าวไว้ว่า “ดวงจันทร์ที่แสนสวยงามสดชื่น เดินทางท่องเที่ยวไปในท้องฟ้ากว้างไกล เมื่อจิตใจอันกว้างใหญ่ดั่งแม่น้ำของสรรพสิ่งเป็นอิสระ เมื่อนั้นภาพสะท้อนของดวงจันทร์อันสวยงามจะฉาดฉายในตัวเรา” จิตใจของแม่น้ำในขณะนั้นเป็นเช่นนี้เอง เธอได้สะท้อนภาพของพระจันทร์ที่สวยงามในใจเธอ ในขณะนั้น น้ำ ก้อนเมฆ และพระจันทร์กำลังจับมือกันฝึกเดินสมาธิอย่างช้าๆ ไปสู่มหาสมุทร

 

นิทานเซนแม่น้ำกับก้อนเมฆ ที่มา : http://allspirit.co.uk/riverclouds.html เรื่อง : ท่านติช นัท ฮันห์
แปลโดย : จิตรารัศมิ์

คำสำคัญ (Tags): #ha forum 12
หมายเลขบันทึก: 478826เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2012 17:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 19:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แม่น้ำกับก้อนเมฆ

ถูกใจ คนรัก น้องฟ้ากะนายเมฆ อีกแล้วค่ะ :)

ให้ดอกไม้ ในเมนท์ นะคะ

"เพียง แค่เราค้นพบตนเอง ค้นหาความสุขให้ตนเอง จากสิ่งรอบข้างเดิมๆ เมื่อนั้นการบูรณาการได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะบูรณาการ เริ่มที่ตนเอง.... เมื่อตนเองเปลี่ยน สิ่งต่างๆ รอบข้างก็จะเปลี่ยน....."

นั้งยิ้มคนเดียวได้เลยครับคุณ พอลล่า

ขอบคุณมากนะครับ นิทานเซนที่สอดคล้องกับสิ่งที่คุณพอลล่าเขียนได้ดีเหลือเกิน

แวะมาให้ดอกไม้...ในเม้นละกัน

เงาสะท้อนความสวยงาม ย่อมเกิดจากความสวยงาม เช่นกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท