พุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์เป็นหลัก
คำ "สุข" ปรากฏในพระไตรปิฎกน้อยแห่ง
สรุปลงตรงที่ นิพานํ ปรมํ สุขํ (นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง)
อริยสัจ (ความจริงอันยิ่งใหญ่) ๔ ก็เริ่มที่ทุกข์
พระพุทธองค์สอนให้เราไม่หนีทุกข์
แต่ให้เผชิญทุกข์อย่างตรงไปตรงมา
พิจารณาให้เห็นสภาพแห่งทุกข์เป็นเบื้องต้น
การเห็นทุกข์จึงเป็นประตูสู่การพ้นทุกข์
นอกจากทางประตูนี้แล้ว ไม่มีประตูอื่น
เราจึงควรยินดีที่ได้เห็นความทุกข์กายทุกข์ใจที่ปรากฏแก่เรา.
สวัสดีครับ
ใครทะลุความทุกข์บุกพ้นผ่าน
ประสบการณ์เติมเต็มความเข้มแข็ง
นำมาตีเป็นค่าราคาแพง
เพราะรู้แจ้งเห็นจริงสิ่งเป็นทุกข์
ขอบคุณสำหรับร้อยกรองดีๆ ที่เขียนตามความหมายของร้อยแก้ว
สวยงามมากครับ
ทุกข์กับสุขอยู่คู่กันไม่มีทุกข์ถาวรหรือสุขถาวร หรือ ความไม่เที่ยง และอนิจจังนั่นเอง การก้าวพ้นความทุกข์ได้ก็คือความสุขรออยู่จะจัดการทุกข์ได้ดีขึ้นอยู่กับใจที่เป็นต้นเหตุการเกิดทุกข์
เหตุที่ไม่ควรหนีทุกข์เพราะว่า ในกระบวนการทำงานของจิตมันจะมี ส่วนหนึ่งที่เรียกว่า เวทนา
แบ่งเป็น3 ภาวะ 1ทุกข์ 2 สุข 3 ไม่สุขไม่ทุกข์.........ส่วนมากมนุษย์จะรู้จักแค่ ภาวะ1 กับ2 น้อยคนนักที่จะรู้ว่าภาวะที่ไม่สุขไมุุ่ทกข์นี่ก็คือภาวะหนึ่งเหมือนกัน โดย มีกฏอยู่คือภาวะทั้ง3ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน และเวลาเรารับรู้ เราจะรับรู้ได้ทีละอย่างจาก3อย่าง.......จากทั้ง3ภาวะนี้ โอกาสที่เราจะมีสติอยู่กับตัวเองหรือธรรมะมากสุดคือภาวะ ทุกข์ เพราะว่า ภาวะสุข เราจะหลงไปกับสิ่งภายนอกหรือสิ่งที่เรารับรู้ ส่วนข้อ3 ภาวะไม่สุขไม่ทุกข์ไม่ต้องพูดถึง เข้าใจได้ยากมากถึงบางทีมีคนมาบอกก็ยังแทบไม่น่าเชื่อ ว่า ภาวะนี้ เป็นเวทนาด้วย ดังนั้น 2 กับ3 ตัดออกไปได้เลย สำหรับมือใหม่.....สังเกตง่ายๆเวลาเราทุกข์เราจะรู้สึกเรามีชีวิต อยู่กับตัวเองจริงๆ ถ้าเราทบทวน พิจารณาตัวขณะนั้นเราก็จะเข้าใจตัวเอง เข้าใจธรรมะ.............พอหมดทุกข์ เราก็มา หลงกับภาวะ 2 3 ต่อ
ติลักขณาทิคาถา
เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาแสดงพระไตรลักษณ์เป็นเบื้องต้น
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ที่ตนห
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมห
เมื่อใดบุคคล เห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ที่ตนห
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมห
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมห
ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย, ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อยนัก
หมู่มนุษย์นอกนั้นย่อมวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่ง
ก็ชนเหล่าใดประพฤติสมควรแก่ธรรมในธรรมที่ต
ชนเหล่าใดจักถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน, ข้ามพ้นบ่วงแห่งมัจจุราชที่ข้ามได้ยากนัก
จงเป็นบัณฑิตละธรรมดำเสีย, แล้วเจริญธรรมขาว
จงมาถึงที่ไม่มีน้ำ, จากที่มีน้ำ, จงละกามเสีย, เป็นผู้ไม่มีความกังวล,
จงยินดีเฉพาะต่อพระนิพพาน, อันเป็นที่สงัดซึ่งสัตว์ยินดีได้โดยยาก